รมว.มหาดไทย เผยข้อเสนอเพิ่มอำนาจไต่สวนให้ผู้ว่าฯ-นอภ. เป็นเพียงข้อเสนอยังไม่มีผล คาดส่งคืนสนามหลวงให้กรมศิลปากรสร้างพระเมรุมาศหลังปีใหม่ ให้ผวจ.ลงพื้นที่แจงปมข้าว ให้ประชาชนเข้าใจ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเสนอให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอมีอำนาจสืบสวน สอบสวนคดีที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งมีการเสนอในที่ประชุมเมื่อครั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตรวจเยี่ยมกระทรวงมหาดไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เป็นเพียงข้อเสนอที่เสนอนายกรัฐมนตรีซึ่งยังไม่มีผลใดๆ อีกทั้งนายกฯ ยังไม่มีความเห็นเพราะเดิมทีอำนาจดังกล่าวมีอยู่แล้ว แต่ต่อมามีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งทางฝ่ายปกครองของกระทรวงมหาดไทยคิดว่า การสอบสวนโดยเฉพาะการร้องขอความเป็นธรรม จะทำให้ฝ่ายปกครองมีเครื่องมือดูแลประชาชนได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการคืนพื้นที่สนามหลวงให้กรมศิลปากรเพื่อดำเนินการสร้างพระเมรุมาศ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้เตรียมการขั้นต้นไว้แล้ว เพื่อให้กรมศิลปากรดำเนินการสร้างพระเมรุมาศ โดยทางศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ทำเนียบรัฐบาล เป็นผู้ดำเนินการจัดพื้นที่ให้ประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ทั้งนี้ ตนทราบว่าศสต.โดยฝ่ายกทม.ประเมินว่า ในช่วงปีใหม่จะมีประชาชนเดินทางมาสักการะพระบรมศพ จำนวนมาก ขอให้เลยช่วงปีใหม่ไปก่อน จึงจะคืนพื้นที่ แต่ก็ขึ้นกับฝ่ายก่อสร้างว่ามีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด หากมีความจำเป็นต้องขอคืนพื้นที่ก่อนก็จะคืนให้ ส่วนการนำประชาชนจากต่างจังหวัดเข้าสักการะพระบรมศพ ยังคงจำนวนวันละ 3,000 คนเท่าเดิม ซึ่งเท่าที่ทราบเรียบร้อยดี โดยทุกหมู่บ้านจะเรียงลำดับกันมา และคาดว่าแต่ละจังหวัดจะเดินทางมาจังหวัดละประมาณ 4 เที่ยว แต่ก็มีผู้เดินทางมาเอง ซึ่งเราพยายามขอให้ประสานมาทางเราเพื่อที่จะได้จัดลำดับได้ เพราะคนที่อยู่ไกลอาจจะมีปัญหามาแล้วไม่ได้สักการะพระบรมศพ และหากต้องค้างคืนจะเป็นปัญหา อย่างไรก็ตาม สำหรับการจัดสรรเวลานั้นอยู่ที่ความเหมาะสม
เมื่อถึงกรณีที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องข้าว พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งได้ผลทางด้านจิตใจ ซึ่งทุกภาคส่วนก็ช่วยกันในขณะนี้ แต่ปัญหาก็คือเราผลิตข้าวเกินจำนวนของผู้บริโภค และการส่งออก ราคาตลาดโลกลงตกลงมาก ดังนั้นการที่จะช่วยกันในประเทศ ส่วนหนึ่งก็เป็นขวัญกำลังใจให้กับชาวนาที่เขายังมีความยากลำบากอยู่ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ทุกฝ่ายช่วยกันทำ สำหรับข้าวที่เก็บเกี่ยวในช่วงปีใหม่หลายหน่วยงานได้รับซื้อข้าว และนำไปสีทันทีซึ่งเป็นการช่วยเหลือชาวนาในส่วนที่มันเกินด้วย
