เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ศาลาว่าการกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เปิดสวนสาธารณะเพื่อให้ประชาชนพาครอบครัวเข้าไปลอยกระทง จำนวน 30 แห่ง และขอความร่วมมือประชาชนลดใช้กระทงโฟม ลอยกระทงจากวัสดุธรรมชาติ แม้ว่าในปีนี้ไม่มีการจัดงานใหญ่ๆ ในสถานที่ต่างๆ ที่จัดให้มีทุกปีนั้น ส่งผลให้การลอยกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง แต่ประชาชนยังให้ความสำคัญกับประเพณีลอยกระทง เห็นได้จากที่มีประชาชนออกมาลอยกระทงที่สวนสาธารณะและริมคลอง ใกล้บ้านเพิ่มขึ้น

263

โดยหลังจากคืนวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต ระดมเจ้าหน้าที่จัดเก็บกระทงตามแม่น้ำเจ้าพระยา ลำคลองและบึงภายในสวนสาธารณะต่างๆ ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ นับและคัดแยกกระทงเสร็จสิ้นในเวลา 04.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย. โดยสามารถจัดเก็บกระทงได้จำนวนทั้งสิ้น 661,935 ใบ เป็นกระทงส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้ จำนวน 617,901 ใบ คิดเป็นร้อยละ 93.7 กระทงที่ทำจากโฟม จำนวน 44,034 ใบ คิดเป็นร้อยละ 6.7 ซึ่งรวมแล้วลดลงจากปี 2558 จำนวน 163,676 ใบ หรือคิดเป็นร้อยละ 19.8 จำนวนกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ และวัสดุที่ย่อยสลายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 93.3 โดยเขตที่จัดเก็บกระทงมากที่สุด คือเขตลาดกระบัง ส่วนเขตที่จัดเก็บกระทงได้น้อยที่สุด คือเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

13541866901354186704l

จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ลอยกระทงจากวัสดุธรรมชาติ แทนการใช้กระทงโฟม แสดงว่าประชาชนและผู้ค้าได้ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากเป็นการคืนสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสายน้ำแล้ว ยังเป็นลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนอีกด้วย

สำหรับกระทงที่จัดเก็บได้กรุงเทพมหานครจะนำไปคัดแยก ก่อนส่งไปพักไว้ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอย 3 แห่ง ประกอบด้วย ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม (ท่าแร้ง) และศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม เพื่อนำไปทำลายอย่างถูกสุขลักษณะ โดยกระทงขนมปังจะนำไปเป็นอาหารปลา ส่วนกระทงวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปหมักทำปุ๋ย และนำไปฝังกลบ และกระทงโฟมจะนำส่งโรงงานรีไซเคิลแปรรูปเป็นของใช้ต่างๆ ต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน