ก่อนคริสต์มาสเป็นประจำในทุกๆปี ที่งาน “นิสโม เฟสติวัล” จะถูกจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ครองใจชาวญี่ปุ่นและทั่วโลก ซึ่งทางบริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็ได้จัดทริปเที่ยวชมงานนิสโม เฟสติวัล (Nismo Festival) พร้อมทดสอบยานยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งในปีนี้ “ข่าวสด” ก็ได้รับเกียรติโอกาสให้ร่วมเดินทางไปกับทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ #Nissan A2Z / Nissan A&O Tour 2016 ในครั้งนี้ด้วย

การเดินทางทริปนี้อยู่ระหว่างวันที่ 10-16 ธ.ค. โดยมีเป้าหมายวันแรกงาน “นิสโม เฟสติวัล ครั้งที่19” ที่สนามแข่งรถยนต์ทางเรียบ “ฟูจิ สปีดเวย์” ซึ่งตั้งอยู่เชิงภูเขาไฟฟูจิ ในเขตเมืองโอยามา จังหวัดชิซึโอะกะ โดยสนามแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่เดือน ธันวาคม ปี 1965 เป็นสนามแข่งขันที่ได้รับความนิยมในการจัดการแข่งขันทั้งในระดับชาติและต่างประเทศ สนามมีความยาว 4,563 เมตร มีโค้งภายในสนาม 16 โค้ง โดยไฮไลท์คือทางตรงยาว 1.5 กม.ที่ให้นักแข่งสามารถทำความเร็วกันได้เต็มเหนี่ยว อีกทั้งในปีนี้เป็นปีพิเศษในการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของสนามอีกด้วย

SAMSUNG CSC

คำว่า “นิสโม” นั้น (Nismo) ย่อมาจาก (Nissan Motorsport International Limited) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1984 โดยเป็นแบรนด์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อแต่งสมรรถนะรถยนต์นิสสันโดยเฉพาะ และเป็นทีมแข่งมอเตอร์สปอร์ตที่ส่งเข้าแข่งขันในรายการใหญ่ เช่น รายการซูเปอร์ จีที ซีรีย์ (Super GT Series) รายการเวิล์ด เอ็นดูร้านซ์ แชมป์เปียนชิมชพส์ (World Endurance Champions )เป็นต้น

สำหรับงานนิสโม เฟสติวัลนั้น ภายในงานเต็มเหยี่ยดไปด้วยเหล่าบรรดาสำนักแต่งชื่อดัง อาทิเช่น มายด์ (Mine’s) ,ทอมมี่ (Tomei) , เกรดดี้ (Greddy) , เอชเคเอส (HKS) ที่ขนแอคเซสซอรี่ตกแต่งเช่น เทอร์โบชาร์จเจอร์ , อินเตอร์คูลเลอร์ , โช้คอัพ , บาร์ค้ำต่างๆ รวมถึงเบาะนั่งสุดเท่อย่าง Recaro และ Bride อีกทั้งยังมีสินค้าที่ระลึกของงาน เช่น รถโมเดล , เสื้อผ้า ชุดแข่งรถยนต์ อุปกรณ์เสริมความปลอดภัย รวมถึงอะไหล่ยานยนต์มือสองให้เลือกซื้อประมูลกัน

SAMSUNG CSC

พร้อมกันนี้ในค็อกพิทใต้แกรนด์สแตนด์ยังเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานได้มีโอกาสใกล้ชิดกับรถแข่งอันเป็นตำนานของนิสสันที่พาเหรดกันมาอวดโฉมอีกมากมาย อาทิเช่น นิสสัน อาร์ซี90ซีพี ปี1990 (RC90CP) , แฟร์เลดี้ 240 ซีจี ปี1973 (Fiarlady) หรืออย่างนิสสัน อาร์382 (R382) รถแข่งรุ่นดังจากปี 1969 และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญของงาน ก็คือการเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานสามารถลงสู่สนามเพื่อถ่ายรูปกับนักแข่งและรถแข่งอีกด้วย

นอกจากทัศนียภาพอันสวยงามของสนามฟูจิ สปีดเวย์ และเหล่ารถแข่งที่ในงานแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศความเป็นงานครอบครัว ที่ไม่ได้มุ่งแต่ผลประโยชน์กำไรเจาะจงไปยังกลุ่มผู้เข้างานที่เป็นชายหนุ่มวัยกลัดมันเป็นหลัก เพราะในงานนอกจากจะเห็นรถสปอร์ตตัวท้อปที่ถือว่าเป็นสุดยอดรถสปอร์ตญี่ปุ่นอย่าง Nissan GTR ซึ่งมีให้เห็นอย่างมากมายแทบทุกมุมของงาน

SAMSUNG CSC

ยังมีมุมสำหรับเด็กๆที่ช่วยสร้างเสริมพัฒนาการและจุดประกายความรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ต เช่น สนามรถบังคับวิทยุ หรือค็อกพิทพิเศษที่ให้เยาวชนสามารถเข้าไปนั่งในรถแข่งนิสสันได้จริง รวมถึงการแต่งกายของเหล่าพริตตี้สาวสวยหรือเรสควีนในงาน ก็ยังแต่งกายรัดกุมไม่โป้เปลือยจนเกินงาม เอาเป็นว่างานมอเตอร์สปอร์ตญี่ปุ่นนั้นผู้ใหญ่ก็เที่ยวได้ เด็กก็เที่ยวดีวินๆกันทั้งครอบครัว เราจึงเห็นครอบครัวน้อยใหญ่ต่างหอบลูกจูงหลานมาเที่ยวงาน มากกว่าเห็นฝูงวัยรุ่นมาเดินเตร่ด้วยซ้ำ

SAMSUNG CSC

หลังจบภารกิจงานนิสโมฯ คณะสื่อมวลชนไทยได้มีโอกาสเดินทางสู่กรุงโตเกียว เพื่อเยี่ยมชมศูนย์แสดงนวัตกรรม “นิสสัน ครอสซิ่ง” (Nissan Crossing) ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านกินซ่า บนอาคารสูงที่ได้รับการตกแต่งโทนสีขาวสว่างตา ภายในอัดแน่นไปด้วยความเป็นสุดยอดนวัตกรรมทางยนตกรรม ไม่ว่าจะเป็นรถต้นแบบ นิสสัน ไอดีเอส (Nissan IDS Concept) นิสสัน กริปซ์ (Nissan Gripz Concept) และรถยนต์อีก 3 รุ่น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนไทยได้ทดสอบสมรรถนะกันสั้นๆ ที่สนามโอปาม่า แกรนด์ไดร์ฟ (Opama)ก็คือ นิสสัน โน้ต (Nissan Note) นิสสัน ลีฟ (Nissan Leaf) และนิสสัน เซเรน่า (Nissan Serena)

SAMSUNG CSC

ตกบ่ายเดินทางไปสำนักงานใหญ่นิสสัน (Nissan Global HeadQuarter Gallery) ที่ภายในถูกแบ่งออกเป็นโซนจัดแสดงรถยนต์ต่างๆ ทั้งโซนผลิตภัณฑ์ (Product Zone) ซึ่งจัดแสดงรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น โซนผลิตภัณฑ์ที่ออกขายในตลาดโลก (Global Product Zone) และโซนการสื่อสารองค์กร (Corporate Communication Zone) แสดงความเป็นมาประวัติศาสตร์แบรนด์รถยนต์นิสสันจากอดีตสู่ปัจจุบัน

SAMSUNG CSC

โดยตลอดการเดินทางในประเทศญี่ปุ่นเกือบ 1 สัปดาห์ ทำให้เราได้ซึมซับถึงความมีวินัยของคนที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมารยาทการจราจร ทั้งบนถนนหรือทางเท้า ไม่มีอุบัติเหตุทางรถยนต์ให้เห็นในตลอดการเดินทางแม้แต่วันเดียว เนื่องจากเขาเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ทุกคนที่ขับรถก็จะขับอย่างระมัดระวัง ไม่ขับเร็วหรือขับซิ่ง รถแต่งท่อดังแทบไม่มีให้เห็น คนเดินข้ามถนนก็จะรอจนกว่าไฟข้ามจะติดถึงจะเดินข้ามได้ ถึงแม้ถนนจะว่าง แต่หากไฟข้ามไม่ติดเขาก็จะไม่เดินข้ามเช่นเดียวกัน

SAMSUNG CSC

ในขณะที่มอเตอร์ไซค์(บิ๊กไบค์)ก็สามารถขึ้นทางด่วนได้โดยเสียขึ้นครั้งละ 1,070 เยน (320บาทไทย) และยังสามารถวิ่งขึ้นสะพานหรือลงอุโมงค์ได้อย่างสะดวก แต่เท่าที่เห็นรถบิ๊กไบค์จะมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์สกู๊ตเตอร์คันเล็กๆมากกว่า เนื่องจากใช้ใบขับขี่รถยนต์ได้ ส่วนบิ๊กไบค์ต้องเป็นใบขับขี่พิเศษ มีขั้นตอนและการสอบที่ยากกว่า

SAMSUNG CSC

ท้ายที่สุดนี้คงต้องฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้จัดงานมอเตอร์สปอร์ตบ้านเรา ให้คำนึงถึงคำว่า “แต่พอดี” และคิดถึงเยาวชนให้มากๆ แล้วงานจะยั่งยืนและไม่ขาดทุน

SAMSUNG CSC

ภัทรฉัตร วิเชียรสรรค์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน