เบนซ์ new C-Class ดีเซล เก๋งหรูอัจฉริยะ – เทียบชั้นรุ่นพี่

ยิงสลุตเปิดตัวรถใหม่ รถไมเนอร์เชนจ์ ต่อเนื่อง กับค่ายดาวสามแฉก “เมอร์เซเดส-เบนซ์”

ล่าสุดเป็นคิวของรุ่นยอดนิยม “ซี-คลาส” (The new C-Class) รุ่นประกอบในประเทศ

ซี-คลาส เป็นเก๋งเล็กของค่ายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะตัวถัง ไม่ได้ใหญ่โตโอฬาร แต่มีความสง่างาม และราคาก็เรียกว่าเอื้อมถึง

รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวใหม่นี้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ทั้งหมด มี 3 รุ่นย่อยคือ

The C 220 d Avantgarde
The C 220 d Exclusive
และ The C 220 d AMG Dynamic

ปรับโฉมใหม่ผสมผสานคุณสมบัติอัจฉริยะและความเร้าใจเข้าด้วยกัน ดีไซน์ภายนอก ของรุ่น The C 220 d Avantgarde ใช้กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 18 นิ้ว

รุ่น The C 220 d Exclusive กระจังหน้าแบบคลาสสิค พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์อยู่เหนือฝากระโปรงหน้า และล้ออัลลอยแบบ multi-spoke ขนาด 18 นิ้ว

ส่วนในรุ่น The C 220 d AMG Dynamic กระจังหน้าแบบ diamond grille สีเงิน พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ

พิเศษกับกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้างเป็นดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG Bodystyling โคมไฟหน้าและหลังแบบใหม่ได้รับการออกแบบโดยใช้เส้นโค้งเป็นองค์ประกอบหลัก พร้อมใช้วัสดุคุณภาพสูง

ไฟหน้าแบบ LED High Performance ในรุ่น The C 220 d Avantgarde และเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ในรุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic พร้อมระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam เป็นครั้งแรกในรถยนต์ The C-Class

เบนซ์ new C-Class ดีเซล

ไฟหน้านี้ประกอบด้วยหลอดไฟ LED ที่ทำงานโดยอิสระจำนวน 84 หลอดต่อโคมไฟหน้า 1 โคม ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถปรับความเข้มแสง โดยใช้ระบบไฟหน้าให้เข้ากับสภาพการจราจรโดยรอบได้

มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระบบไฟส่องสว่างขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง และระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย

ระบบไฟสูงแบบ ULTRA RANGE Highbeam จะทำงานอัตโนมัติ หากระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีผู้สัญจรในทางรถสวน ถนนข้างหน้า เป็นทางตรง ระบบไฟสูง ULTRA RANGE Highbeam จะช่วยให้ไฟหน้ารถมีความสว่างในระดับที่สูงขึ้นตามความเร็วของรถ ส่องสว่าง ได้ไกลถึง 650 เมตร

ในรุ่น The C 220 d AMG Dynamic ยังมีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ ที่เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอีกด้วย

ดีไซน์ภายในและห้องโดยสาร ออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ต และ มีโครงสร้างที่ดูต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียว

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับน้ำหนักตามความเร็วรถ พร้อมปุ่มควบคุมแบบ Touch Control

รุ่น The C 220 d Avantgarde และ The C 220 d Exclusive ใช้เบาะหุ้มด้วยหนัง ARTICO ส่วน The C 220 d AMG Dynamic ใช้เบาะหุ้มหนังแบบสปอร์ต เบาะด้านหลังของทุกรุ่นพับลงได้แบบ 1/3 และ 2/3

มาพร้อมกับปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ (Push Start) ในขณะที่รุ่น The C 220 d Exclusive และ The C 220 d AMG Dynamic จะมีระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO เสริมเข้ามาด้วย

หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลของรุ่น The C 200 d AMG Dynamic มีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว ปรับรูปแบบการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ คือ Classic, Progressive และ Sport

The new C-Class มาพร้อมกับหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณกลางคอนโซลแบบ MB Audio 20 ขนาด 10.25 นิ้ว เพื่อใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว สัมผัสด้วยระบบ Touch pad ไม่ว่าจะเป็นระบบ Apple CarPlay

ระบบถอยจอดแบบอัตโนมัติ หรือระบบแผนที่นำทาง 3 มิติรูปแบบใหม่

ความปลอดภัยจัดเต็มไม่พ้นรุ่นใหญ่

ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ แถวเรียง เทอร์โบ/อินเตอร์คูลเลอร์ 1,950 ซีซี กำลังสูงสุด 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ เดินหน้า 7 จังหวะ (7G – TRONIC PLUS)

อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ชั่วโมง 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 ก.ม./ชั่วโมง

สนนราคา C 220 d Avantgarde ราคา 2,349,000 บาท

C 220 d Exclusive ราคา 2,690,000 บาท

และ C 220 d AMG Dynamic ราคา 2,890,000 บาท

 

‘ฟรังก์ ชไตน์อักเคอร์’ รองประธานฯ เบนซ์

‘ฟรังก์ ชไตน์อักเคอร์’ รองประธานฯ เบนซ์

“The new C-Class รุ่นประกอบในประเทศที่ผลิตในปีนี้ ได้รับการออกแบบดีไซน์ใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน โดยจะเน้นที่รูปลักษณ์ ด้านหน้า ไฟหน้า และไฟท้าย รวมถึง การพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพื่อให้ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ของ The C-Class รุ่นนี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถยนต์ตระกูล The S-Class เพื่อยกระดับความปลอดภัยเชิงรุกของรถให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมความสามารถในการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติได้ในบางสถานการณ์ด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน