‘เบนซ์’อวดโฉมรถใหม่ 2 รุ่นพร้อม‘EQA’ต้นแบบพลังไฟฟ้า : รถใหม่
‘เบนซ์’ใหม่ – ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018 ที่ปีนี้ถือว่าคึกคักอย่างยิ่ง มีรถใหม่ๆ หลายรุ่นนัดกันอวดโฉม
แน่นอนว่าดาวสามแฉก‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ ย่อมไม่พลาด เพราะแต่ละปีเปิดตัวรถรุ่นใหม่ รุ่นไมเนอร์เชนจ์ หรือรุ่นพิเศษเกิน 10 รุ่น
ปีนี้มี 2 ตัวแรงที่มาวาดลวดลาย
เริ่มจาก Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ตระกูล 53 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบแผงบังคับลมคู่สีเงินชุบโครเมียม วัสดุเก็บขอบด้านข้างแบบพิเศษ กระโปรงหลังรูปแบบใหม่ล่าสุดที่สอดรับกับปลายท่อ ไอเสียทรงกลม
ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED หลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า
ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว
ภายในติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษออกแบบขึ้นโดยเฉพาะให้หรูหรา หลากหลาย แผงหน้าปัดแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ที่ผู้ขับขี่จะสามารถปรับแต่งการแสดงผลของแผงหน้าปัดได้ 3 รูปแบบ
ขุมพลังเครื่องยนต์ เบนซินแถวเรียง 6 สูบ 2,999 ซีซี กำลังสูงสุด 435 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตัน-เมตร
มาถึงอีกรุ่นคือ Mercedes-AMG GT S น้องใหม่ ในตระกูล AMG GT ฝากระโปรงหน้าแบบ jet wing กระจังหน้าแบบเอเอ็มจี ช่องรับอากาศที่กว้างช่วยให้อากาศไหลผ่านเข้าสู่ระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ได้ดียิ่งขึ้น ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance
ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ล้อหลังขนาด 20 นิ้ว
ดีไซน์ภายในตกแต่งเบาะหนัง Nappa ให้รู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง พวงมาลัย AMG Performance Steering wheel
วัสดุโครเมียมสีเงินบนคอนโซลกลาง ช่องแอร์ และที่พักแขน แผงหน้าปัดกว้าง ทำให้ทั้งผู้ขับขี่และ ผู้โดยสารรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมด้วยปีกนก
ขุมพลัง V8 เทอร์โบคู่ 3,982 ซีซี กำลังสูงสุด 522 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร
ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ของ Mercedes-AMG GT S มีระบบ AMG RIDE CONTROL (เอเอ็มจีไรด์คอนโทรล) ใช้โครงสร้างปีกนกสองชั้นเพื่อรักษาสมดุลของล้อ และติดสปริงไว้ด้านบน
ระบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT 5 โหมด ระบบเกียร์ AMG SPEEDSHIFT DCT 7-Speed Sport transmission
รองรับการขับขี่สไตล์สปอร์ตด้วยการติดตั้งปุ่มชิฟต์เกียร์สีเงินที่พวงมาลัย เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์แมนวลได้อย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังนำรถต้นแบบพลังงานไฟฟ้ามาแสดงด้วย คือ ‘EQA’ รถยนต์ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์อีคิวที่จะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพ็กต์ ด้วยระบบขับเคลื่อนซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งชุดที่เพลาหน้า และอีกหนึ่งชุดที่เพลาท้าย ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ให้กำลังสูงสุดกว่า 200 กิโลวัตต์
สไตล์การขับขี่ยังสามารถปรับเปลี่ยน ได้ ผ่านการปรับการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อให้แบ่งกำลังไปยังล้อหน้า และล้อหลังในรูปแบบที่แตกต่างกัน
เพิ่มความสวยงามภายนอก ด้วยเทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่โดดเด่นด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ โดยที่ตัวกลางซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงเลเซอร์ได้ถูกฝังไว้ใน แกนกลางของเคเบิลใยแก้ว ไฟรูปทรงขด เกลียวเล็กๆ สวยสะดุดตาช่วยเน้นย้ำแนวคิดของรถยนต์ไฟฟ้า
โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ ‘Sport’ และ ‘Sport Plus’ ปรับเปลี่ยนแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้า และล้อหลังในอัตราที่แตกต่างกัน
แผงสีดำบริเวณตอนหน้าของรถทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบเสมือน และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ ที่ใช้ โดยในโหมด ‘Sport’ กระจังจะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด ‘Sport Plus’ ภาพที่แสดงจะเป็นเส้นขีดแนวตั้งรูปกระจังหน้าในแบบแพนอเมริกาน่า
คอนเซ็ปต์ อีคิวเอ สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่ติดตั้งเอาไว้ด้วย
ไปชมรถคันจริงกันได้ที่บูธเมอร์เซเดส -เบนซ์ งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2018
