คอลัมน์ ข่าวสดยานยนต์

รถใหม่

เผยโฉมออกมา 3 รุ่นรวดสำหรับเมอร์ เซเดส-เบนซ์ “อี-คลาส” (E-Class)เจเนอเรชั่น ที่ 10 รุ่นประกอบในประเทศ

ต่างก็มีจุดเด่น จุดที่น่าสนใจแตกต่างกันไป

ที่สำคัญราคาเปิดออกมาได้โดนเหลือเกิน เพราะถูกกว่ารุ่นนำเข้าหลายแสนบาท

“อี-คลาส” รุ่นล่าสุดถือว่ามาสานต่อความสำเร็จกว่า 82 ปีของตระกูลนี้ แบ่งการออกแบบและตกแต่งเป็น 3 รุ่นย่อยคือ

The E 220 d Avantgarde

The E 220 d Exclusive

และ The E 220 d AMG Dynamic

ภายนอกมีขนาดตัวถังและฐานล้อที่ยาวและกว้างขึ้น มิติ(กว้าง x ยาว x สูง) 1,852 x 4,923 x 1,468 ม.ม.

ออกแบบฝากระโปรงหน้าให้ดูยาว เส้นสายของส่วนหลังคาออกแบบในสไตล์รถคูเป้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ในช่วงหลังๆ ของเมอร์ เซเดส-เบนซ์ ซุ้มล้อหลังออกแบบให้ดูกว้างกว่าซุ้มล้อหน้า

รุ่น Avantgarde ใช้ไฟหน้าแบบ LED High Performance

ส่วน Exclusive และ AMG Dynamic ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED

พร้อมระบบส่องสว่างอัจฉริยะ, ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย, ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ

รุ่น AMG Dynamic มีชุดแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสปอร์ต อาทิ กันชนหน้า-หลัง และสเกิร์ตข้างดีไซน์สปอร์ตแบบ AMG หลังคาพาโนรามิกซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ล้ออัลลอยแบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน และสัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิปเปอร์ เบรกหน้า

ห้องโดยสารเน้นความสปอร์ต เบาะนั่งออกแบบตามหลักการสรีรศาสตร์ที่เน้นเรื่องความรู้สึกสบายสำหรับการเดินทางไกล ที่นั่งตอนหลังสามารถพับลงแบบ 1/3 และ 2/3 เพื่อความสะดวกในการบรรจุสัมภาระ

Avantgarde และ Exclusive ตกแต่งสไตล์หรูหรา เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง nappa

ส่วน AMG Dynamic เบาะนั่งหุ้มหนัง nappa, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัดหุ้มหนัง nappa

ชุดหน้าจอความละเอียดสูงและหน้าจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว จำนวน 2 จอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสาร

หน้าจอทั้งสองจะอยู่ติดกันและมีลักษณะลอยตัวแบ่งการแสดงผลเป็น 2 ส่วน คือแผงหน้าปัดสำหรับแสดงมาตรวัดต่างๆ แบบ Wide screen ขนาดใหญ่ ผู้ขับขี่มองเห็นได้ชัดเจน อีกส่วนหนึ่งจะเป็นหน้าจอ “อินโฟเทนเมนต์”

แผงหน้าปัดสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับเบนซ์รุ่นใหม่ๆ ได้แก่ แบบคลาสสิค แบบสปอร์ต และ Progressive

โดยหน้าปัดที่เปลี่ยนได้นี้ถือเป็นครั้งแรกในเซ็กเมนต์นี้

AMG Dynamic ยังเพิ่มความพิเศษด้วยระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up Display)

ทั้ง 3 รุ่นติดตั้งด้วยระบบแผนที่นำทางและระบบไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารที่ปรับได้ถึง 64 สี

ขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซลใหม่แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุ 1,950 ซีซี กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ ต่อนาที ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ(9G-TRONIC)

ทำความเร็วสูงสุด 240 ก.ม./ชั่วโมง

ระบบความปลอดภัยจัดเต็มแน่นอนสำหรับรถมาตรฐานยุโรป อย่างถุงลมจัดมาให้รอบคัน

ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า 2 ตำแหน่ง, ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า ผู้ขับขี่, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และ ผู้โดยสารด้านหน้า, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ส่วนอื่นๆ เช่น โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-start Assist

ไฟเบรกกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับรถ, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ และระบบเตือนแรงดันยาง ฯลฯ

สนนราคา The E220d AMG Dynamic ราคา 3,990,000 บาท

The E220d Exclusive ราคา 3,690,000 บาท

และ The E220d Avantgarde ราคา 3,390,000 บาท

หากเทียบกับรุ่นนำเข้าที่ทำตลาดก่อนหน้านี้ ลดลงไปหลายแสนบาททีเดียว

“ไมเคิล เกรเว่”

ประธานฯเมอร์เซเดส-เบนซ์

“The E-Class เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมซีดานอัจฉริยะ เป็นรถยนต์ในกลุ่ม Contemporary Luxury ที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ และสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับกลุ่มรถยนต์สำหรับนักธุรกิจอยู่เสมอ ทั้งโดดเด่นในด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะอันทรงพลัง รวมถึงเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ล่าสุด อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ที่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำลง และได้รับการสรรค์สร้างให้ขับขี่สนุกขึ้นเพื่อ มอบสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน