เจาะสเป๊ก3รถครอบครัวรุ่นเล็ก เอ็กซ์แพนเดอร์ -เซียนต้า-บีอาร์ วี

เจาะสเป๊ก3รถครอบครัวรุ่นเล็ก เอ็กซ์แพนเดอร์ -เซียนต้า-บีอาร์ วี – ปัจจุบันรถยนต์ในเซ็กเมนต์ ‘มินิเอ็มพีวี’ หรือรถครอบครัวขนาดเล็กแบบ 7 ที่นั่ง ถือว่าได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทั้งการออกแบบที่ดูสปอร์ต อรรถประโยชน์ไปต่างจังหวัดก็ไปกันได้หลายคน หรือจะใช้ในชีวิตประจำวันก็ไม่เทอะทะเกินไป

อีกทั้งมีตัวเลือกจากหลายค่ายหลักๆ ที่ถูกเปรียบเทียบมากที่สุดต้องยกให้โตโยต้า เซียนต้า – ฮอนด้า บีอาร์-วี และน้องใหม่สุดมิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ รถมินิเอ็มพีวีที่โด่งดังมากในอินโดนีเซีย และทุกประเทศที่ไปเปิดตัว ช่วงมาเมืองไทยก็ถูกจับตาเพราะภายนอกที่ดูโฉบเฉี่ยวเพราะถอดมาจากรถต้นแบบ ‘XM Concept’ ไฟหน้าฮาโลเจนติดตั้งอยู่ค่อนข้างต่ำ มีไฟหรี่ Crystal LED ด้านล่างไฟหน้าเป็นไฟเลี้ยว ต่ำลงไปอีกเป็นไฟตัดหมอก

ด้านท้ายอาจจะไม่โฉบเฉี่ยวมากนัก ไฟท้ายแบบ L-Shape ฝาประตูท้ายขนาดใหญ่เปิดได้กว้าง ล้อแม็กซ์ลายเท่แบบทูโทนดูมีมิติ ขนาด 16 นิ้ว

ภายในเด่นที่ความโปร่ง โล่ง เนื่องจากเพดานสูง พวงมาลัย 3 ก้านปรับได้ 4 ทิศทางพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน

เรือนไมล์แบบ 2 วงกลม พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลอเนกประสงค์แบบสามมิติ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว คอนโซลกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว สำหรับเครื่องเสียงพร้อมช่องต่อยูเอสบี และส่งภาพจากกล้องมองหลัง

เพดานติดตั้งช่องแอร์แบบปรับความเร็วลมได้

เบาะนั่งแถว 3 พับได้ราบเรียบเพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกของ

เครื่องยนต์แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว MIVEC ความจุ 1,499 ซีซี กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมปุ่ม โอเวอร์ไดรฟ์

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ราคา 779,000 – 849,000 บาท

ฮอนด้า บีอาร์-วี เป็นมินิเอสยูวี ที่แม้จะใช้พื้นฐานเดียวกับ ‘บริโอ’ อีโคคาร์ของค่าย แต่การออกแบบไม่มีคราบของบริโอให้เห็นแม้แต่น้อย กระจังหน้าคาดโครเมียมขนาดใหญ่ ไฟหน้า โปรเจ็กเตอร์ทรงเรียวเล็กเชื่อมต่อกับกระจังหน้า ต่ำลงมาเป็นช่องไฟตัดหมอก

โป่งล้อพร้อมคิ้วสีดำเป็นชิ้นเดียวกับกันกระแทกใต้กันชนหน้า ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ชายล่างด้านข้างเป็นสีดำ เชื่อมระหว่างชายด้านหน้าและด้านหลังลื่นไหลเป็นเส้นเดียวกัน ไฟท้ายแบบ C-shape ด้านบนติดราวหลังคามาให้ด้วย

ภายในพวงมาลัย 3 ก้านผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า มีปุ่มสตาร์ต คอนโซลหน้าคล้ายคลึงกับซิตี้คาร์ของค่าย มาตรวัดเรืองแสงสีขาว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว รองรับทั้งระบบไอโอเอส และแอนดรอยด์ สามารถเชื่อมต่อ HDMI

เครื่องเสียงพร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อ “ยูเอสบี” และ “เอยูเอ็กซ์” พร้อมจอแสดงข้อมูลและภาพจากกล้องมองหลังขณะถอย เบาะ 7 ที่นั่งสามารถพับปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบตามการใช้งาน

ใช้เครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1,497 ซีซี รองรับพลังงานทางเลือก E85 กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ทำงานคู่กับระบบเกียร์ CVT ใหม่

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย แบบ 5 ที่นั่ง ราคา 755,000 บาท และ 7 ที่นั่ง 820,000 บาท

สุดท้ายกับ โตโยต้า เซียนต้า กระจังหน้าขนาดใหญ่สีดำพร้อมโลโก้ ต่ำลงมาเป็นช่องดักลมสีดำ มีเส้นสีดำเชื่อมชายล่างกับไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ Bi-Beam LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED กระจกมองข้างพับ/ปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

ประตูด้านท้ายขนาดใหญ่ โดยมีเส้นสายสีดำบริเวณชายล่างลากเชื่อมไปยังไฟท้ายทั้ง 2 ด้าน

ที่เด่นสุดไม่พ้นประตูผู้โดยสารเปิดแบบสไลด์ เพื่อความสะดวกในการขึ้นลง และสามารถเปิด-ปิดได้จากที่นั่งคนขับด้วย

ภายในเน้นโทนดำ คอนโซลหน้ามีแถบเส้นสีเงินพาดขวาง และแทรกไว้เป็นจุดๆ มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron จอแสดงข้อมูลขับขี่ 4.2 นิ้ว พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง ตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมเครื่องเล่น DVD / CD / MP3 / WMA และแสดงภาพจากกล้องมองขณะถอยหลัง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบสตาร์ตอัจฉริยะ (Push Start) พร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) เกียร์อัตโนมัติแบบขั้นบันได

เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะ 2 แถวหลังพับได้หลากรูปแบบ ในจังหวะเดียว เพดานเจาะช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DUAL VVT-i ความจุ 1,496 ซีซี กำลังสูงสุด 108 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด

ราคาจำหน่าย 750,000-865,000 บาท