เบนซ์‘GLC 250 d 4MATIC’

‘เอสยูวีหรู’แรงก็ได้-ลุยก็ดี

คอลัมน์ ทดสอบ

โดย…กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

เบนซ์‘GLC 250 d 4MATIC’ – มาแรงแซงทุกเซ็กเมนต์ กับรถยนต์ SUV ดูได้จากยอดขายที่ขยายตัวกันอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ประกอบกับปัจจุบันมีตัวเลือกในราคาที่รับได้ออกมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะขนาดเล็ก ขนาดใหญ่

อย่างค่ายดาวสามแฉก ‘เมอร์เซเดส–เบนซ์’ มีกลุ่มรถ SUV มีให้เลือกอย่างครบครัน ว่าแล้วสอบถามเข้าไปยังทีมงานประชาสัมพันธ์ ได้รับคำตอบว่ามีเจ้า เมอร์เซเดส–เบนซ์ ‘GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic’ ว่างอยู่ ถือว่าเข้าทาง เพราะเป็น SUV ขนาดกลางไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป

นัดรับรถกันช่วงสายๆ วันธรรมดา ที่ย่านสาทร สำนักงาน เมอร์เซเดส–เบนซ์ ประเทศไทย การจราจรไม่ถึงกับหนาแน่นติดขัด แต่ก็มากไปด้วยเพื่อนร่วมทาง

แต่ด้วยความสุนทรียะของเครื่องเสียง ชั้นดี ระบบวิทยุ–ซีดี MB Audio 20 ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลายชนิด หรือแม้แต่บลูทูธ ช่วยคลายความเครียดลงไปได้เป็นอย่างมาก

ยิ่งได้ระบบเตือนเข้าใกล้รถคันหน้า ที่ขึ้นเป็นสัญลักษณ์ที่หน้าปัดความเร็ว ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยขึ้นเป็นอย่างมาก

เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร เรียกกำลังมาใช้ได้ตั้งแต่ตีนต้น กดคันเร่งนิดเดียว ก็เร่งแซงเพื่อนร่วมทางซ้าย–ขวา ได้อย่างสบายมือ

รุ่งขึ้นมีภารกิจขึ้นเหนือมุ่งหน้าสู่ จ.เชียงใหม่ ระยะทางกว่า 700 ก.ม. ตัดสินใจออกเดินทางแต่เช้ามืด ใช้เส้นทางผ่านประตูน้ำพระอินทร์ ถนนโล่งมากชนิดไม่มีรถเลยสักคัน เลยไม่ปล่อยโอกาสที่จะทดสอบความเร็วปลาย

เข็มไมล์ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงกดน้ำหนักเท้า 170-180-190 ก.ม.ต่อช.ม. แถมยังมีให้ไปต่อ เพียงแต่วันนั้นมีเส้นทางเพียงเท่านี้ ช่วงล่างบนย่านความเร็วสูง ให้ความรู้สึกหนึบแน่น

เหลือบเห็นปุ่มปรับโหมดการขับขี่ อยู่บริเวณคอนโซลกลาง เลือกปรับเป็นแบบ COMFORT ให้ความรู้สึกนุ่มนวลชวนฝัน ผ่านคอสะพานได้แบบแทบไม่มีรอยสะดุด

ปรับเป็นโหมด SPORT และ SPORT+ เพิ่มความเร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยความดุดันจากเสียงเครื่องยนต์ที่แผดคำราม เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด (9G-TRONIC) ที่ลากรอบมากขึ้น ระบบช่วงล่างที่แข็งขึ้น แต่ไม่ถึงกับกระเด้งกระดอน ช่วยเข้ามาเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตได้เป็นอย่างดี

จากนั้นมาใช้โหมด ECO เน้นเรื่องความประหยัด แต่ยังคงให้สัมผัสสมรรถนะอย่างเต็มที่เหมือนเดิม ติดใจกับโหมดนี้ ขับกันไปยาวๆ ตั้งแต่ จ.กำแพงเพชร ต่อเนื่องไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ช่วงจากอ.ขุนตาล จ.ลำปาง มุ่งหน้าสู่จ.ลำพูน ก่อนเข้าจ.เชียงใหม่

เส้นทางเลาะไหล่เขา มีโค้งลึกขึ้นลงลาดชันเป็นระยะๆ คราแรกว่าจะปรับเป็นโหมด SPORT หรือ SPORT+ แล้วใช้เกียร์แพดเดิล ชิฟต์ ที่หลังแป้นพวงมาลัยมาช่วยการขับขี่

แต่ด้วยความอยากลองสักตั้งว่าโหมด ECO จะมีอาการอย่างไรบ้าง บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ กำพวงมาลัยพอหลวมๆ ความแม่นยำช่วยให้บังคับทิศทางได้ดั่งใจ และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเพิ่มความมั่นคงของตัวรถ

ถอนคันเร่งเมื่อต้องลงทางลาด หรือจะเชนจ์เกียร์ช่วยจากแพดเดิล ชิฟต์ แต่ถ้ายังรู้สึกเร็วเกินไป แตะเบรกบ้างเป็นบางครั้ง ก็ทำได้อย่างเนียนๆ เผลอแป๊บเดียวผ่านเส้นทางลาดชัน ที่มีอยู่สัก 20-30 ก.ม. ก็ผ่านพ้นไปได้อย่างสบายมือ

เข้าตัวจ.เชียงใหม่ ปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้น เสียงเตือนระดับน้ำมันในถังดังขึ้นพอดี เหลือบมองที่จอแสดงข้อมูลแจ้งว่า ขับกันไปแล้ว 868 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 6.6 ลิตรต่อ 100 ก.ม. คำนวณกลับมาแล้วอยู่ที่ 15.2 ก.ม.ต่อลิตร ซึ่งไม่น่าแปลกใจ เพราะเข็มวัดรอบส่วนใหญ่ป้วนเปี้ยนอยู่ที่ 1,500 รอบต่อนาที

เมื่อเทียบกับรูปร่างใหญ่โต และเส้นทางที่ใช้อันหลากหลาย ถือได้ว่าเป็นอัตราที่น่าประทับใจ สำหรับดีไซน์ภายนอกที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งบึกบึน ตามสไตล์รถแบบ SUV กระจังหน้าที่มีโลโก้ดาวสามแฉกขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน

ฝาท้ายบานใหญ่เปิด–ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยท่อไอเสียโครเมียมคู่ บันไดข้างสแตนเลสภายในให้รู้สึกถึงความโปร่งโล่งสบาย เบาะนั่งปรับไฟฟ้าขนาดใหญ่มากโอบกระชับสรีระไว้ได้หมด แม้จะมีรูปร่างใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทยไปเล็กน้อยก็ตาม พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ไฟเรืองแสงรอบห้องโดยสาร มีให้เลือก 3 สี

หน้าจอขนาดใหญ่แสดงข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือการควบคุมระบบตัวรถ ที่สั่งการได้จากแป้นพวงมาลัย หรือทัชแพด ที่คอนโซลกลาง ซึ่งคล้ายกับเมาส์คอมพิวเตอร์ หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เลื่อนเปิด–ปิดไฟฟ้า

แวะไปทดลองขับแบบจัดเต็มกับเมอร์เซเดส–เบนซ์ GLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic ที่โชว์รูมเมอร์เซเดส–เบนซ์ ทั่วประเทศ

ข้อมูลทางเทคนิค

แบบตัวถัง อเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง

เครื่องยนต์ ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบฯ

ความจุ 2,143 ซีซี

กำลังสูงสุด 204 แรงม้า/3,800 รอบฯ

แรงบิดสูงสุด 500 นิวตั–เมตร/1,600-1,800 รอบฯ

มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,890×4,656×1,639 ม.ม.

ราคา 3,690,000 บาท