‘นิสสัน ลีฟ ใหม่’ แรงทันใจ-วิ่งได้ยาวๆ

คอลัมน์ ข่าวสดยานยนต์

โดย กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

‘นิสสัน ลีฟ ใหม่’ แรงทันใจ-วิ่งได้ยาวๆ – ในที่สุดก็ได้ทดสอบ ‘นิสสัน ลีฟ ใหม่’ เจเนอเรชั่นที่ 2 รถยนต์ไฟฟ้า 100% เวอร์ชั่นบ้านเรากันเสียที หลังจากที่เปิดตัวกันมาตั้งแต่ งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายปีที่แล้ว

ทีมงานนิสสัน นำโดย ‘ชยภัค ลายสุวรรณ’ ผู้จัดการทั่วไปสายงานสื่อสารผลิตภัณฑ์ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เนรมิตพื้นที่ว่างย่านถ.พระราม 9 ให้กลายเป็นสนามทดสอบสมรรถนะแบบเบาๆ ในช่วงเช้า

จากนั้นช่วงบ่ายให้เดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ตามที่กำหนดไว้ เน้นให้เห็นว่า นิสสัน ลีฟ ใหม่ สามารถใช้งานจริงบนถนนเมืองไทย กับการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง

กิจกรรมช่วงเช้าแนะนำตัวว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ขายดีที่สุดในโลก ยอดขายสะสมตั้งแต่เปิดตัวปี 2553 ใน 50 ประเทศทั่วโลกแล้วกว่า 410,000 คัน

ไม่เคยมีปัญหาการเคลมทั้งระบบไฟฟ้า และแบตเตอรี่ เป็นข้อพิสูจน์ได้ถึงความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี

นอกจากนิสสัน ลีฟ ใหม่ จะมีหน้าตาขยับเข้าใกล้รถยนต์ทั่วไปมากขึ้นแล้ว ประสิทธิภาพของทั้งระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ยังได้ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น

แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออน ที่มีน้ำหนักเบาแต่จุกระแสไฟได้มากขึ้น ชาร์จเต็ม 100% ได้เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก ที่เคลมไว้สูงสุด 311 ก.ม.

นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการชาร์จแบตเตอรี่ ที่ไม่ได้มีความยุ่งยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ หากชาร์จไฟบ้านด้วยสายชาร์จที่มี มาให้ ใช้เวลา 12 ช.ม. เต็ม 100%

ส่วนวอลบ็อกซ์ หรือชุดชาร์จ ที่ให้กำลังไฟแรงขึ้นเท่าตัว ใช้เวลา 6 ช.ม. เต็ม 100% แต่หากไปชาร์จในสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่มีควิกชาร์จ ใช้เวลา 40 นาที ได้กระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ 80% เพียงพอที่จะไปไหนต่อได้อีกเป็น 100 ก.ม.

ดีไซน์ของ นิสสัน ลีฟ ใหม่ เน้นเติมเต็มอารมณ์สปอร์ต ในแบบฉบับรถแฮตช์แบ๊ก 5 ประตู ตัวรถสีขาว หลังคาสีดำ เหนือกระจังหน้าซ่อนจุดชาร์จไฟฟ้าไว้อย่างเนียนตา กระจังหน้าแบบ V-Motion เอกลักษณ์ของนิสสัน ไฟทรงบูมเมอแรง เส้นสายด้านข้างไหลลื่นต่อเนื่องไปจนถึงด้านท้าย ขณะที่ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 มองเห็นเด่นชัด

ภายในโทนสีดำ แต่ยังเติมอารมณ์สปอร์ตด้วยการเดินด้าย สีฟ้า มองบางมุมก็เหมือนจะดูทันสมัย แต่หลายมุมก็ออกจะ เรโทรย้อนยุคอยู่สักหน่อย อย่างที่ทันสมัยต้องยกให้หัวเกียร์ที่มี ขนาดเล็กกะทัดรัด พวงมาลัย 3 ก้าน แบบ D-Shape พร้อม มัลติฟังก์ชัน ควบคุมทุกอย่างด้วย ปลายนิ้ว

ขณะที่หน้าจอข้อมูลและความบันเทิงระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว กับระบบเครื่องปรับอากาศดูเรียบง่าย

การทดสอบในสนาม เน้นให้เห็นถึงความแรงและปราดเปรียว ด้วยการกำหนดให้ขับทางตรงยาวเพื่อดูอัตราเร่ง ซึ่งแน่นอนว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์ ทำให้กดเป็นมาทันใจวัยรุ่นเสียจริงๆ รวมถึงการ ขับแบบสลาลม และเข้าโค้งแคบ ให้เห็นถึงความหนึบแน่นของช่วงล่าง

ภาคบ่ายนักข่าวนั่งกันไปคันละ 2 คน เลือกเส้นทางกันเอง ที่แนะนำมีทั้งหมด 5 จุด ไกลสุดอยู่ที่อ.นครชัยศรี แต่ข่าวสด ยานยนต์ ตกลงกับน้องกระจอกข่าวสาว นักทดสอบแห่งสำนักประชาชาติธุรกิจ ‘วุฒิณี ทับทอง’ ว่าเราเน้นขับในเมือง น่าจะดีกว่า

ว่าแล้วหันหัวรถมุ่งหน้าสู่ถ.งามวงศ์ วาน วิ่งไปจนถึงสนามบินน้ำ กลับรถมาวิ่งบนถ.วิภาวดี ผ่านห้าแยกลาดพร้าว ไหลต่อไปถ.พระราม 6 ถ.เพชรบุรีแล้ววกกลับมาอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อมายังจุดเริ่มต้นที่ ถ.พระราม 9

ทุกถนนที่เข้าไปล้วนมีเพื่อนร่วมทางคับคั่งหนาแน่น ช่วงแรกลองขับเลือกใช้โหมด Eco หรือโหมดประหยัด ใช้เกียร์ตำแหน่ง D พร้อมทั้งใช้งาน e-Pedal ที่ทีมงานนิสสัน ภูมิใจว่า ทำให้แป้นเดียว เป็นทั้งคันเร่ง และเบรก โดยตัวรถจะชะลอความเร็วลงอย่างรวดเร็ว จนถึงหยุดสนิทโดยไม่ต้องแตะเบรก

หลังจากที่ได้ทดลองอยู่พักใหญ่พบว่าไม่ค่อยเข้ากับลักษณะการขับของตัวเองสักเท่าไหร่ เลยลองเปลี่ยนรูปแบบใหม่ หันมาใช้เกียร์ตำแหน่ง B เมื่อถอนคันเร่งแล้ว ตัวรถชะลอความเร็วลงเร็วกว่าเกียร์ D แบบเนียนๆ ไม่มีรอยกระตุกให้ได้รู้สึก พร้อมนำพลังงานจากแรงเฉื่อยที่มีในขณะนั้นกลับไปที่แบตเตอรี่ ทำให้ประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้น 30%

ช่วงที่ออกนอกเมืองไปสนามบินน้ำ มีจังหวะพอเพิ่มความเร็วได้บ้าง กดคันเร่งหนักขึ้นเร่งแซงสบายมือ ขณะที่การหลบหลีกเพื่อนร่วมทางก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยรูปร่างที่กะทัดรัด และทัศนวิสัยที่มีมาให้เต็มที่

ก่อนที่จะออกมาทดสอบบนถนนจริง หน้าจอข้อมูลแจ้งไว้ว่า นิสสัน ลีฟ ใหม่ คันนี้ชาร์จไฟฟ้าไว้ที่ 98% สามารถวิ่งได้ระยะทาง 297 ก.ม. ขับบนถนนจริงที่ทั้งทำความเร็วบ้างเล็กน้อย กับส่วนใหญ่ที่เจอสถานการณ์รถติดสาหัส ระยะทางรวม 73.6 ก.ม. ปรากฏว่าปริมาณไฟฟ้าลงมาอยู่ที่ 64% เหลือระยะทางให้วิ่งได้อีก 164 ก.ม.

ถือว่าทั้งประหยัดและรักษ์โลกจริงๆ