ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’ ปิกอัพขวัญใจผู้ค้า‘ฟู้ดทรักส์’
คอลัมน์ ทดสอบ
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’ – คนเราทุกคนล้วนมีความฝัน แล้วอะไรที่จะนำพาให้ฝันนั้นเป็นจริง จั่วหัวแบบนี้ไม่ได้ติดดราม่าแต่อย่างใด เพียงแต่ล่าสุดได้ไปร่วมทริปทดสอบรถบรรทุกขนาดย่อม หรือที่เรียกว่าไลต์ทรักส์ ของค่ายซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย กับ เจ้าซูซูกิ แคร์รี่ ใหม่ ที่เปิดตัวไปไม่กี่วันก่อนหน้านี้
และสโลแกนของรถรุ่นนี้รู้สึกสะดุดหูที่ว่า “เคียงข้างทุกเส้นทางฝัน” (CARRY YOUR DREAM) ประมาณว่าเหมาะกับ ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ที่กำลังมองหาเครื่องมือในการช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าและเติบโตต่อไป
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’
ตอกย้ำสโลแกนกันด้วยพรีเซ็นเตอร์ พ่อค้าอาหารทะเลแห้งออนไลน์ ‘บังฮาซัน’ อนุรักษ์ สรรฤทัย ที่กำลังโด่งดังกลายเป็นเคสสตัดดี้ ในด้านการตลาดของหลายสำนัก และยังถือเป็นแบบอย่างให้กับผู้ที่กำลังมองหาทางฝันในการดำเนินธุรกิจ
นัดเจอกันย่าน ถ.เลียบทางด่วน รามอินทรา–อาจณรงค์ อธิบายรายละเอียดตัวรถกันก่อนตามธรรมเนียม พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับรุ่นที่ทำตลาดอยู่ก่อนหน้า ว่าดีขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะขนาดที่ทั้งกว้างขึ้น 85 ม.ม. ยาวขึ้น 40 ม.ม. ส่วนความสูงลดลง 5 ม.ม. เพื่อให้แอโรไดนามิกที่ดีขึ้น
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’
กระบะท้ายผลิตจากเหล็กเสริมกัลวาไนซ์ มีคุณสมบัติป้องกันสนิม ลดการสึกกร่อน แบบพื้นเรียบ เปิดได้ 3 ด้าน กว้างขึ้น 75 ม.ม. ยาวขึ้น 365 ม.ม. แต่ความสูงวัดจากพื้นจนถึงพื้นกระบะลดลง 55 ม.ม. เพื่อให้การยกสัมภาระขึ้น–ลงได้สะดวกมากขึ้น รองรับ น้ำหนักบรรทุกได้เพิ่มขึ้นเป็น 945 ก.ก.
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัต หลังเป็นแบบคานแข็งพร้อมแนบ 5 ชั้น วางบนเพลา ใส่สินค้าได้จำนวนมาก จะต่อตู้เป็นร้านค้าเคลื่อนที่ หรือฟู้ดทรักส์ ที่กำลังได้รับความนิยมได้อย่างสบายๆ
เครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบเบนซิน แต่ปรับขนาดลงจาก 1.6 ลิตร มาเป็น 1.5 ลิตร บล็อกเดียวกับซูซูกิ เออร์ติก้า และซูซูกิ จิมนี่ แต่แตกต่างกันในรายละเอียด ให้กำลัง 97 แรงม้า แรงบิด 135 นิวตัน–เมตร แรงขึ้นกว่าตัวเดิมพอสมควร
ก่อนออกเดินทางยังพอมีเวลา เลยถือโอกาสสัมผัสตัวเป็นๆ อย่างใกล้ชิด บอกเลยว่าหน้าตาของเจ้าซูซูกิ แคร์รี่ ใหม่ ดูเป็นรถเพื่อใช้งานเชิงพาณิชย์มากขึ้น ไม่ได้น่ารัก คิกขุเหมือนรุ่นก่อนหน้า
ได้เวลาออกเดินทาง นำทีมโดยผู้บริหารหนุ่มแฟมิลี่แมน วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขาย และการตลาด ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย แบ่งกระจอกข่าวออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกขับไป จุดหมายปลายทางที่ จ.ฉะเชิงเทรา ระยะทางรวม 100 ก.ม. คันละ 2 คน
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’
ลองของจริง‘ซูซูกิ แคร์รี่’
แต่ด้วยเพราะเพื่อนกระจอกข่าวที่ไปด้วย ติดภารกิจไม่สามารถร่วมทริปได้ ข่าวสด ยานยนต์ เลยได้ขับรวดเดียวจบ ทีมงานได้จัดสัมภาระประเภทผักผลไม้ใส่กระบะไว้ด้วย น้ำหนักประมาณ 100 ก.ก.
ขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับ ขยับปรับแต่ง ที่นั่ง เพราะสามารถเลื่อนหน้า–หลังได้ 105 ม.ม. แม้จะดูไม่มาก แต่ก็ช่วยให้ตำแหน่งที่นั่งลงตัวมากขึ้น การตกแต่งภายในเรียบง่าย ตามสไตล์รถใช้งาน ติดตั้งวิทยุแบรนด์ดัง ไพโอเนียร์ มีช่องเสียบยูเอสบีแอร์เย็นฉ่ำจนออกหนาว
คลัตช์นิ่ม เกียร์นุ่ม แทบไม่เชื่อว่าเป็นรถกระบะเพื่อใช้งานขนของ เหยียบเบาๆ ก็ใส่เกียร์ได้สบาย เพียงแต่ช่วงแรกไม่ค่อยคุ้นกับตำแหน่งเกียร์ที่อยู่บริเวณคอนโซลหน้า ทำให้จังหวะเชนจ์เกียร์ คว้าอากาศในตำแหน่งเกียร์ปกติอยู่หลายหน
แม้จะเป็นช่วงเวลาค่อนข้างสายแล้วของวันธรรมดา แต่การจราจรยังคงหนาตา แต่ด้วยความที่เป็นรถหน้าตัด และยังได้ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความคล่องตัวอย่างมาก
ขับตามกันไปเพลินๆ ระหว่างทางลงสะพานข้ามแยก รถคันหน้าเกิดเบรกกะทันหัน ต้องเบรกตาม ดีว่าเจ้าซูซูกิ แคร์รี่ ใหม่ ติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) มาไว้ให้พร้อม ทำให้ไม่ลื่นไถล และยังควบคุมไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างใจ เหลือบมองกระจกซ้ายไม่มีรถมา หักหัว ออกได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล
กว่าถนนจะเริ่มโล่งให้ทำความเร็วได้บ้าง ต้องรอให้ผ่านทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ บน ถ.มอเตอร์เวย์ ค่อยๆ เพิ่มน้ำหนักเท้า 60-70-80 ก.ม.ต่อช.ม. ตัวรถมั่นคง รวมถึงจังหวะเข้าโค้ง สร้างความมั่นใจค่อนข้างมาก ความนุ่มนวลของช่วงล่างดีกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมาก แม้จะยังคงแข็งตามสไตล์รถกระบะใช้งาน แต่ไม่ถึงกับกระด้าง
เพิ่มความเร็วขึ้นไปถึง 90 ก.ม.ต่อช.ม. มี 2 อย่างที่เริ่มสัมผัสได้ เสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารชัดเจน และช่วงล่างที่มีอาการสะท้านเล็กๆ
จัดไปยาวๆ 120-130-140 ก.ม.ต่อช.ม. ไปสุดที่ 150 ก.ม.ต่อช.ม. บอกเลยว่าไปได้ เพียงแต่กำพวงมาลัยให้กระชับขึ้น รวมถึงสมาธิต้องดีจริงๆ เอาเป็นว่าถ้ารีบก็สามารถทำความเร็วได้ระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าวันปกติพ่อค้าแม่ขายคงไม่ขับเร็วขนาดนั้น ซูซูกิ แคร์รี่ ใหม่ ค่าตัวสุดคุ้ม 385,000 บาท
