‘โคโรลล่า อัลติส ไฮบริด’ อัตราเร่งแจ่ม-ช่วงล่างนิ่ง

‘โคโรลล่า อัลติส ไฮบริด’ อัตราเร่งแจ่ม-ช่วงล่างนิ่ง – ได้ชื่อว่าเป็นตัวพ่อแห่งวงการยานยนต์ ด้วยเพราะอายุอานามของ ‘โตโยต้า โคโรลล่า’ ที่ช่วงหลังมามีคำว่า ‘อัลติส’ ห้อยท้าย ปาเข้าไปเกินครึ่งศตวรรษ เพราะก่อกำเนิดกันตั้งแต่เมื่อปี 2509 โน่น

รุ่นใหม่ที่เปิดตัวกันไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 12 กันเข้าไปแล้ว

เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ พร้อมทั้งพิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ทีมงานประชาสัมพันธ์ และการตลาด โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จึงจัดทริปทดสอบ ‘โคโรลล่า อัลติส ใหม่’ เส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา

นัดเจอกันที่ TOYOTA Driving Experience Park ต้นถ.บางนา-ตราด บอกกล่าวเล่าสิบเรื่องราวของ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ที่ใช้ทดสอบซึ่งเป็นรุ่นไฮบริด 1.8 Hybrid High ตัวท็อป เกียร์ E-CVT

การทดสอบเริ่มจากหักพวงมาลัยซ้าย-ขวา ที่ความเร็วประมาณ 10-20 ก.ม.ต่อช.ม. ให้อารมณ์เหมือนวิ่งอยู่ในเมืองที่การจราจรคับคั่ง และต้องเปลี่ยนเลนไปมา เพื่อให้รู้สึกถึงความเบาของพวงมาลัย ขยับนิดเดียวก็เปลี่ยนทิศทางของตัวรถได้สบาย

ต่อกันที่การเบรกบนพื้นถนนเปียก ระบบ ABS ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และนุ่มนวล รวมถึงระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) และระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability) ที่เข้ามาช่วยทำให้ตัวรถไม่เซไถล

จากนั้นให้ขับที่ความเร็วประมาณ 90-100 ก.ม.ต่อช.ม. แล้วเบรกพร้อมเปลี่ยนเลน เพื่อให้เห็นถึงการยึดเกาะถนนของระบบช่วงล่างที่หนึบแน่น ไม่มีอาการท้ายปัดให้ได้รู้สึก

และมาจบที่ระบบ Dynamic Radar Cruise Control ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติตามรถคันหน้า พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ที่สามารถเลือกใช้ระบบนี้ได้ในทุกย่านความเร็ว

พร้อมออกเดินทาง น้องผู้สื่อข่าวสาวนักทดสอบจากสำนักประชาชาติธุรกิจ ‘ต้า’วุฒิณี ทับทอง อาสาเป็นผู้ทดสอบก่อนในช่วงแรก ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะไปนั่งเท่อยู่ที่เบาะหลัง

สัมผัสแรกที่รับรู้ได้คือความกว้างของพื้นที่วางขาด้านหน้า น้อยลงกว่ารุ่นก่อนหน้า เพราะเมื่อนั่งแล้วถ้าจะเหยียดขาให้สบายไม่คุดคู้ ต้องยื่นหน้าเท้าไปไว้ที่ใต้เบาะหน้า ส่วนเบาะหนังหนานุ่มรองรับต้นได้เต็มที่

ช่วงล่างอาจจะไม่ได้นุ่มนวล แต่ไม่ถึงกับกระแทกกระทั้นกันจนไส้คลอน ออกจะรับรู้ได้ถึงความหนึบแน่น ขับผ่านหลุมบ่อ คอสะพานที่ความเร็วสูง กระเด้งแล้วตึบเดียวอยู่ ส่วนการเข้าโค้งมีแรงเหวี่ยงอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน

ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัต/เหล็กกันโคลง ด้านหลังปีกนกคู่/เหล็กกันโคลง

ได้เวลาเปลี่ยนตำแหน่งมานั่งเป็นคนขับบ้าง ด้วยดีไซน์ภายในเน้นสีดำ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วขนาดใหญ่ ควบคุมเครื่องเสียง แสดงข้อมูลต่างๆ รวมถึงสถานะการทำงานของเครื่องยนต์ ว่ากำลังใช้พลังงานจากแหล่งใด

ส่วนหน้าจอแสดงข้อมูลที่หน้าปัดให้รายละเอียดเยอะมาก แต่ตัวหนังสือค่อนข้าง เล็ก ทำให้เวลาดูข้อมูลต้องเพ่งเล็กน้อย ใช้เวลาสักพักถึงเริ่มชินว่าสิ่งที่ต้องการอยู่ ตรงไหน

แต่พอเหลือบดูที่กระจกหน้า ซึ่งได้ติดตั้ง ‘Head Up Display’ แสดงความเร็วของรถ และข้อมูลที่จำเป็นแบบไม่ต้องละสายตาจาก ถนน ก็ได้เห็นรอบเครื่องยนต์เป็นบาร์ แนวนอน ทำให้มองเป็นรอบเครื่องยนต์ได้อย่างชัดเจน

เท่าที่สังเกตรอบเครื่องยนต์แล้ว ความเร็ว 120 กม.ต่อชม. ยังไม่ถึง 2,000 รอบต่อนาที น่าจะประหยัดอยู่พอสมควร

ช่วงที่ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ทดสอบเป็นทางลัดเพื่อไปออกถ.สุขุมวิท เป็น 2 เลนสวน ทำให้ต้องหาจังหวะเร่งแซงรถที่ขับช้ากว่า กำลังของเครื่องยนต์เรียกมาใช้ได้แม้จะไม่จี๊ดจ๊าด หลังติดเบาะ แต่ก็มาได้ทันใจอยู่พอสมควร เพียงแต่เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างดังในช่วงบู๊ตอยู่สักหน่อย

ย่านความเร็วสูงเสียงเครื่องยนต์เบาลงมาก เรียกว่าไม่สะดุดหูให้ได้รู้สึก และรวมถึงเสียงลมที่เข้ามาในห้องโดยสารที่กว่าจะได้ยินผ่านจุดปราบเซียน 120 ก.ม.ต่อช.ม. ไปแล้วทุกครั้ง

เส้นทางลัดมีโค้งให้ได้ลองระบบช่วงล่างเป็นระยะๆ แม้จะเข้าโค้งบนความเร็วสูงกว่าที่ควรจะเป็น ยังคงหนึบแน่น ไม่มีอาการหน้าดื้อท้ายบาน หรืออาการหลุดโค้ง เข้า-ออกได้กระชับฉับไว

ขึ้นถ.สุขุมวิทได้ มีจังหวะให้ทำความเร็วสูง จัดเสียโดยไว ขยับความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ 120-130-140 ก.ม.ต่อช.ม. ไปได้อย่างไหลลื่นต่อเนื่อง

วันนั้นไปสุดอยู่ที่ 170 ก.ม.ต่อชม แม้จะเค้นเท่าไหร่ก็ไม่ไปกว่านี้ จึงรู้สึกแปลกใจจนได้รับคำตอบจากทีมวิศวกรโตโยต้าว่า ล็อกความเร็วไว้เท่านี้

ช่วงล่างบนย่านความเร็วสูง ไม่มีอาการหวิวเลยแม้แต่น้อย ต้องดูซ้ำว่าตอนนั้นขับความเร็วอยู่เท่าไหร่ เพราะให้ความรู้สึกว่าขับอยู่ประมาณ 120 กม.ต่อชม. ทั้งๆ ที่จริงแล้วความเร็วอยู่ที่ เกือบ 150 กม.ต่อชม. เข้าไปแล้ว

‘โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่’ ไฮบริด เป็นรถยนต์ซีดานขนาดกลาง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ให้ทั้งความสนุก ความมั่นใจในการขับขี่ และยังได้เรื่องความประหยัด

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ