ขับ‘โรลส์–รอยซ์ คัลลิแนน’ นุ่มนวลราวกับนั่ง‘พรมวิเศษ’
โรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน – ย้อนเวลากลับไปเมื่อวัยเยาว์ ครั้งที่ได้อ่านเรื่อง ‘อะลาดิน’ ที่มียักษ์ในตะเกียง บันดาลสิ่งของต่างๆ ให้อะลาดินพระเอกไว้ใช้งาน โดยเฉพาะพรมวิเศษ ที่เหาะเหินไปทุกที่ได้อย่างรวดเร็ว และนิ่มนวล จนนึกอยากลองสัมผัสดูสักครั้งว่าจะสนุกสักเพียงไหน
จวบจนเติบใหญ่ผ่านมาหลายสิบปี ความคิดดังกล่าวก็เลือนหายไปตามกาลเวลา กระทั่งล่าสุดค่ายโรลส์–รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงค็อก ส่งเทียบเชิญให้ไปร่วมทดสอบ โรลส์–รอยซ์ “คัลลิแนน” เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของโรลส์–รอยซ์ เพื่อสัมผัสถึงความหรูหรา และสมรรถนะที่นัยว่าเป็นขีดสุด
รวมถึงไฮไลต์ของรถค่ายนี้ที่ว่า ให้ความนุ่มนวลราวกับนั่งอยู่บนพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride)
ตอบตกลงในทันที เพราะนอกจากจะได้งานที่มานำเสนอข้อมูลให้แฟนานุแฟน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ รับทราบ ยังถือเป็นการตอบโจทย์ความฝันในวัยเยาว์ แม้จะไม่ใช่พรมวิเศษจริงๆ ก็ตาม
นัดเจอกันที่โชว์รูมย่านพระราม 3 มี ‘กฤษฎา สวามิภักดิ์’ ผู้จัดการทั่วไป โรลส์– รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงค็อก คอยต้อนรับ พร้อมทั้งให้ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะประวัติความเป็นมา ความตั้งใจในการออกแบบตัวรถ ที่คัดเลือกแต่ของที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ด้วยการผลิตที่เรียกว่า ‘คราฟต์ แมน ชิพ’ เป็นงานที่รังสรรค์ขึ้นโดยช่างฝีมือ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น เส้นสีที่พาดผ่านตัวรถ ยังต้องเป็นศิลปินเบอร์ต้นๆ ใช้มือวาด จนประกอบออกมาเป็นคัน แล้วจึงจะสรุปเรื่องราคาขาย
แน่นอนไม่ว่ารถยนต์โรลส์–รอยซ์แต่ละรุ่นจะราคาเท่าไหร่ มีทั้งแฟนพันธุ์แท้ที่ซื้อไปใช้งานและเก็บสะสม หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเลือกเป็นของขวัญให้กับตัวเอง และคนสำคัญใกล้ตัว
เส้นทางที่ใช้ทดสอบออกจากโชว์รูม วิ่งเข้าถนนพระราม 3 จากนั้นวกขึ้นสะพานภูมิพล ไปลงฝั่งปู่เจ้าสมิงพราย แล้ววกรถกลับทางเดิม ระยะทางประมาณ 25 ก.ม.
“คัลลิแนน” เป็นชื่อของเพชรที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก ปัจจุบันถูกนำไปประดับอยู่บนมงกุฎของพระราชินีแห่งอังกฤษ จึงไม่น่าแปลกใจว่าจะสุดหรูหราอลังการเพียงใด
ประตูทรงรถม้าปิดเข้าหากันแบบอิสระ เอกลักษณ์เฉพาะของโรลส์–รอยซ์ ประตูท้ายเปิดปิดอัตโนมัติได้ที่รีโมต แบ่งออกเป็น 2 ส่วน เพิ่มความสะดวกในการเก็บสัมภาระ ยิ่งขึ้น
โครงสร้างตัวถังแบบใหม่ที่เบาลง ช่วงล่างถุงลมขนาดใหญ่ ดูดซับแรงสะเทือนได้ดี ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และพละกำลังอันมหาศาลจากเครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 6.75 ลิตร ทวินเทอร์โบ ให้แรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำ 1,600 รอบ/นาที
ห้องโดยสารให้ทั้งความหรูหราและสมดุล แผงหน้าปัด คอนโซลกลาง ที่พักแขน เบาะนั่ง พวงมาลัย เลือกใช้แต่วัสดุชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นหนัง ไม้ และโลหะ
เบาะนั่งด้านหลังออกแบบมาให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว กว้างขวางเพียงพอกับการนั่ง 3 คนสบายๆ
ก้าวขึ้นรถเสร็จกดปุ่มสตาร์ต รับรู้ได้ทันทีว่าตัวรถปรับสูงขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งปกติ หลังจากที่ลดลงไป 40 ม.ม. เพื่อความสะดวกในการขึ้นรถ
ตัวรถที่ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ช่วงแรกที่อยู่บนถนนเกร็งอยู่พอสมควร เหลือบซ้ายแลขวาไปมาอยู่ตลอด สักพักเริ่มคุ้นชิน ประกอบกับความสูงของตัวรถ ช่วยให้มองการณ์ได้ไกล การเร่งแซงเพื่อนร่วมถนนทำได้สบายมือ
ด้วยกำลังของเครื่องยนต์ที่มีอยู่อย่างมหาศาล จังหวะขึ้นสะพานภูมิพลขยับความเร็วไปได้เรื่อยๆ จนถึง 150 ก.ม.ต่อช.ม.อย่างชิลชิล
ถึงจุดวกรถกลับ เจ้าหน้าที่โรลส์–รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส แบงค็อก ที่ร่วมเดินทางมาด้วยเป็นผู้ทำหน้าที่ขับขากลับ ได้เวลาไปนั่งที่เบาะหลัง
เบาะนั่งขนาดใหญ่ พื้นที่กว้างขวาง วัสดุอุปกรณ์ที่หรูหรา เติมความรู้สึกราวกับนั่งอยู่บนโซฟาชั้นดี เสียงที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารมีเพียงน้อยนิด แม้จะเป็นช่วงที่เค้นกำลังขึ้นทางชันของสะพานภูมิพล ช่วยให้รู้สึกถึงความสงบเป็นส่วนตัว
ลงมาวิ่งบนถนนพระราม 3 บอกได้เลยว่านี่คือจุดพีกสุดของการทดสอบครั้งนี้ เพราะไม่แน่ใจว่าประเทศนี้เกิดอะไร ถนนเกือบทุกสายในกรุงเทพฯ เหมือนถูกเปิดออกเพื่อทำอะไรใต้ถนน แล้วนำแผ่นปูนสำเร็จมาวางปิด ซึ่งไม่เสมอกับพื้นถนน กลายเป็นลอนคลื่นสะเทือนเลื่อนลั่น
แต่การที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังของเจ้าโรลส์–รอยซ์ “คัลลิแนน” แทบไม่รู้สึกถึงรอยสะเทือนที่ดักอยู่เป็นระยะๆ เลยแม้แต่น้อย ราวกับนั่งอยู่บนพรมวิเศษก็มิปาน
เป็นอีกหนึ่งความประทับใจกับบททดสอบโรลส์–รอยซ์ “คัลลิแนน”
โดย – กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
