คอลัมน์ ข่าวสดยานยนต์

ทดสอบ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

“พวกเราร่วมกันพัฒนา ฮอนด้า ซีวิค แฮตช์แบ็ก ใหม่ ให้มีดีไซน์ และสมรรถนะที่โดดเด่นที่สุดในเจเนอเรชั่นที่ 10 ของฮอนด้า ซีวิค รวมถึงมีความหนุ่มสาว และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า”

คำยืนยันหนักแน่นของทีมผู้บริหารฮอนด้า ช่วงแนะนำให้ข้อมูลรถ ก่อนเริ่มการทดสอบ “ฮอนด้า ซีวิค แฮตช์แบ็ก” บนเส้นทางหัวหิน-แก่งกระจาน-หัวหิน

เชื่อว่านักเลงรถเมืองไทยทั้งหลายจะพยักหน้าเห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะการออกแบบโดยรวมให้อารมณ์สปอร์ตแบบเต็มๆ

ภายนอกรูปลักษณ์ปราดเปรียว แม้ตัวถังจะกว้างขึ้น 30 ม.ม. ก็ตาม ขณะที่ตัวรถต่ำลงเมื่อเทียบกับรุ่นซีดาน 20 ม.ม. ทำให้ขยับเข้าไปใกล้กับรถยุโรปชั้นดี และนั่นรวมถึงสมรรถนะด้วย

เพราะทีมงานเลือกไปทดสอบระหว่างที่พัฒนากันถึง ถ.ออโตบาห์น ประเทศเยอรมนี ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นถนนที่ไม่จำกัดวามเร็ว เรียกว่าใครมีเท่าไหร่ใส่ให้หมด และเจ้า ฮอนด้า ซีวิค แฮตช์แบ็ก ใหม่ ไม่ทำให้ผิดหวัง ทำความเร็วได้ 200 ก.ม./ชั่วโมง กันเลยทีเดียว

กลับมาเรื่องดีไซน์ต่อ ฝากระโปรงหน้างุ้มลงทำให้ดูเหมือนตัวรถพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา กันชนหน้าขนาดใหญ่ ติดตั้งไฟตัดหมอกไว้ที่ช่องดักลมแบบรังผึ้ง ไฟหน้าดีไซน์สปอร์ตแบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน

เส้นข้างตัวรถคมชัด เส้นหลังคาท้ายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นซีดาน ไฟท้ายรูปตัว C แบบ LED กันชนท้ายออกแบบให้มีเหลี่ยมสัน และช่องระบายอากาศแบบรังผึ้ง

ภายในเติมเต็มอารมณ์สปอร์ต ด้วยโทน สีดำ มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูล การขับขี่แบบเรืองแสง แผงคอนโซลกลางออกแบบภายใต้แนวคิด Tech Center เปรียบเสมือนศูนย์กลางเทคโนโลยี เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อแอปเปิล คาร์ เพลย์ หรือจะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นผ่านช่องเสียบยูเอสบี หรือ เอชดีเอ็มไอ

พวงมาลัย 3 ก้านมัลติฟังก์ชัน ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายกว้างขวาง เพิ่มพื้นที่ด้วยการพับเบาะนั่งแถวสอง เพื่อให้สามารถวางสัมภาระได้หลากหลายรูปแบบ รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกลางแจ้งได้สบายๆ

พร้อมออกเดินทาง ระยะทางรวมเกือบ 250 ก.ม. “ข่าวสด ยานยนต์” ได้ทดสอบในช่วงขากลับ ระยะทางกว่า 130 ก.ม. ขาไปที่เพื่อนนักทดสอบเป็นผู้ขับ จึงเลือกไปเป็น ผู้โดยสารเบาะหลัง

เบาะนั่งนุ่มขนาดใหญ่ไม่ต่ำจนเกินไป นั่งแล้วไม่รู้สึกว่าตัวจม ขณะที่พื้นที่เหนือศีรษะหรือเฮดรูม มีมากพอ ไม่รู้สึกอึดอัด พื้นที่วางเท้าเหยียดขาคลายเมื่อยได้พอสมควร

เรียกว่ากว้างขวางกว่ารถประเภทเดียวกันหรือแม้แต่ซีดานบางรุ่นเสียด้วยซ้ำ

ส่วนความนุ่มนวลยังคงเป็นเอกลักษณ์ของค่ายฮอนด้า เพราะไม่ว่าจะผ่านหลุมบ่อ คอสะพาน แรงกระแทกที่มีมาถึงเบาะนั่งถือได้ว่าน้อย เมื่อดูจากความเร็วที่ขับผ่าน การเข้าโค้งยังคงมีแรงเหวี่ยงให้ได้รับรู้อยู่เล็กน้อย

ถึงเวลาขึ้นนั่งเป็นผู้ทดสอบ เบาะนั่งโอบกระชับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่วยให้หาตำแหน่งที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น กระจกหน้าบานใหญ่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ พวงมาลัยขนาดกระชับมือ

เสียงเครื่องยนต์เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารพอประมาณ พอให้ได้อารมณ์สปอร์ต

ดึงคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง D กำลังของเครื่องยนต์เรียกมาใช้งานได้ดีตั้งแต่ตีนต้น ไหลลื่นต่อเนื่องถึงตีนปลาย

เผลอเหยียบคันเร่งหนักไปนิด ทำเอาหลังติดเบาะในช่วงออกตัว ขณะที่ความเร็วปลายไต่ไปแบบเนียนๆ วันนั้นสุดอยู่ที่ปริ่ม 190 ก.ม./ชั่วโมง ซึ่งยังไปได้ต่ออีกอย่างแน่นอน

เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น แต่ถ้าอยากสนุกมากขึ้นปรับตำแหน่งเกียร์ไปที่โหมดสปอร์ตรูปตัว “S” สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตัวเอง ที่แป้นหลังพวงมาลัย

ช่วงล่างบนย่านความเร็วสูง ให้ความเสถียรมั่นคง กว่าจะรู้สึกว่าต้องกำพวงมาลัยแน่นขึ้นหน่อยก็เกิน 160 ก.ม./ชั่วโมง ไปแล้ว ขณะที่ความนุ่มนวลมีมาให้มากพอ ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะกระเด้งกระดอน

ส่วนจังหวะเข้าโค้งที่ขณะนั่งเป็นผู้โดยสารเบาะหลัง รับรู้แรง เหวี่ยงเล็กๆ ถึงตรงนี้ได้คำตอบแล้วว่า มาจากอะไร โดยเฉพาะโค้งลึกบนความเร็วสูง เหมือนพวงมาลัยมีช่วงฟรีอยู่นิดหนึ่ง ทำให้ต้องเติมพวงมาลัยอีกหน่อย

แต่ถ้าเข้าบนความเร็วที่เหมาะสมทุกอย่างทำได้อย่างราบเรียบไหลลื่น เรียกว่าคมพอตัวเลยทีเดียว

ข้อมูลทางเทคนิค

แบบตัวถัง เก๋ง 5 ประตู (แฮตช์แบ็ก)

เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTEC TURBO

กำลังสูงสุด 173 แรงม้า/5,500 รอบฯ

แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร/1,700-5,500 รอบฯ

ระบบรองรับ(หน้า) แม็กเฟอร์สันสตรัต/เหล็กกันโคลง

ระบบรองรับ(หลัง) มัลติลิงก์/เหล็กกันโคลง

มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,799 x 4,501 x 1,421 ม.ม.

ราคา 1,169,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน