คอลัมน์ ข่าวสดยานยนต์

สัมภาษณ์

แม้จะรั้งตำแหน่งประธานบริหาร คนไทยคนแรกของค่ายซูม ซูม “มาสด้า” ได้เพียงครึ่งปีนิดๆ แต่ดูเหมือน “ชาญชัย ตระการอุดมสุข” ยังคงมีโปรเจ็กต์ที่จะสร้างแบรนด์มาสด้า ให้ครองใจคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

“ข่าวสด ยานยนต์” มีโอกาสพบปะพูดคุยอย่างใกล้ชิด จึงมีข้อมูล และวิสัยทัศน์ของ ผู้บริหารหนุ่มมาดนุ่มคนนี้มาเล่าสู่กันฟัง

มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหลังเข้ามา

ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือเรื่องของการสื่อสาร เพราะวันนี้ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย มีผู้บริหารเป็นคนญี่ปุ่นอยู่เพียง 2-3 ตำแหน่งเท่านั้น ที่เหลือเป็นคนไทยทั้งหมด ช่วยให้การสื่อสารมีความกระชับชัดเจน และเข้าใจตรงกัน สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะกับดีลเลอร์มีความมั่นใจกับแบรนด์และวิสัยทัศน์ขององค์กร ซึ่งตรงนี้มีความจำเป็นมาก เพราะดีลเลอร์ต้องมีการลงทุน หากสามารถ คาดการณ์อนาคตย่อมสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดี

นโยบายการบริหารงาน

การบริหารงานจะมุ่งสร้างคุณค่าแบรนด์ มาสด้าให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกับลูกค้าปัจจุบัน ที่จะกลับมาซื้อซ้ำ ซื้อเพิ่ม หรือแนะนำให้คนรู้จักซื้อ ซึ่งคุณค่าแบรนด์มาสด้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งล่าสุด มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ได้รับรางวัล ไทยแลนด์ คาร์ ออฟ เดอะเยียร์ ซึ่งมีเพียงคันเดียวในการตัดสินแต่ละปี จะช่วยสร้างความมั่นใจกับลูกค้าได้อีกเป็นอย่างมาก

พร้อมกันนี้ได้เร่งสร้างการรับรู้ว่าปัจจุบันราคาอะไหล่ของมาสด้าไม่ได้แตกต่างจากค่ายอื่น มีราคากลางชัดเจนโปร่งใส และไม่ต้องรอนาน เพราะวันนี้จัดส่งอะไหล่ไปหาดีลเลอร์วันละ 2 รอบ รับประกันว่าอะไหล่มาสด้าจะถึงโชว์รูมภายใน 24 ชั่วโมงอย่างแน่นอน รวมถึงการปรับปรุงโชว์รูมให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยรวมเราเรียกนโยบายทั้งหมดว่า”วงจรแห่งชัยชนะ”

ตั้งเป้าเปิดโชว์รูมเพิ่มกี่แห่ง

วันนี้เรามีดีลเลอร์ 71 ราย โชว์รูม 147 แห่ง ครอบคลุมหัวเมืองหลัก บางจังหวัดมี 2-3 แห่ง จากนี้ไปจะเน้นขยายลงไประดับอำเภอ ตั้งเป้าเปิดโชว์รูมใหม่เพิ่มอีก 20 แห่ง ภายในปี 2562 แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 9 แห่ง ต่างจังหวัด 11 แห่ง โดยให้สิทธิ์ดีลเลอร์ในพื้นที่ก่อน หากไม่พร้อมหรือไม่สนใจจึงจะไปหาดีลเลอร์อื่น ส่วนการปรับโชว์รูมให้เป็นรูปแบบใหม่ ที่นอกจากเลือกใช้วัสดุทันสมัยแล้ว การจัดวางรถยนต์ จำลองมาจากบูธมอเตอร์โชว์ มีเลานจ์ให้ลูกค้าได้พักผ่อน พนักงานต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย วันนี้โชว์รูปแบบใหม่ เปิดให้บริการแล้ว 7 แห่ง ตั้งเป้า แล้วเสร็จครบทั้ง 147 แห่ง ในปี 2562 เช่นเดียวกัน

คาดหวังอะไรในอนาคต

สิ่งสำคัญอันดับแรกคือสร้างความ พึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงความศรัทธาของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ มาสด้า ขณะที่พันธมิตรทางธุรกิจอย่าง ดีลเลอร์ ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกัน พร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อรองรับความก้าวหน้าในอนาคต จะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนยอดขายแน่นอนคนทำธุรกิจต้องมีเป้า ปัจจุบัน มาสด้า มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 5.5% ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นเป็น 8% ภายในปี 2563

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน