เปิดโลกอนาคตกับ‘ฮอนด้า’ งาน‘โตเกียว มอเตอร์โชว์2019’
คอลัมน์ – รายงานพิเศษ
โตเกียว มอเตอร์โชว์2019 – งานแสดงยานยนต์ที่ถือได้ว่าเป็นที่รอคอย ของบรรดานักเลงรถทั่วโลก ต้องนับงาน ‘โตเกียว มอเตอร์โชว์’ เข้าไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยเพราะนอกจากค่ายรถยนต์ใหญ่น้อย ไม่ว่าจะในแดนปลาดิบเอง หรือจากถิ่นอื่น เลือกใช้เวทีนี้เปิดตัวรถยนต์ครั้งแรกของโลก หรือที่เรียกว่า‘เวิลด์ พรีเมียร์’
พร้อมทั้งตอกย้ำแนวทางการพัฒนารถยนต์ ว่าในอนาคตอันใกล้ ค่ายรถยนต์ของตัวเองจะเดินหน้าไปทางใด ทั้งด้านดีไซน์ และเทคโนโลยี มาให้ผู้ที่สนใจได้อัพเดตเทรนด์ยานยนต์กันทั่วหน้า
โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2019 ปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 46 ภายใต้แนวคิด ‘OPEN FUTURE’หรือเปิดโลกอนาคต ยังคงจัดกันที่ ‘โตเกียว บิ๊กไซซ์’ ศูนย์แสดงสินค้าขนาดใหญ่
‘ข่าวสด ยานยนต์’ได้ร่วมเข้าชมงานนี้ จากความเอื้อเฟื้อของค่าย ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย นำโดย ‘พิทักษ์ พฤทธิ สาริกร’ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ พร้อมทีมงานการตลาด และประชาสัมพันธ์
มาดูกันว่าค่ายฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น ในปีนี้มี ยนตรกรรมอะไรที่น่าสนใจบ้าง
ที่ต้องยกให้เป็นไฮไลต์ของบูธไม่พ้น ‘ฮอนด้า ฟิต’ ใหม่ (All-new Fit) เพราะนอกจากเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกแล้ว ฮอนด้า ฟิต ยังถือเป็นอนุพันธ์ของ ‘ฮอนด้า แจ๊ซ’ ที่ขายในบ้านเรา เมื่อเปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นไม่นาน ก็จะเข้ามาเปิดตัวทำตลาดในบ้านเรา กับรูปโฉมโนมพรรณใกล้เคียงกัน
ฮอนด้า ฟิต เจเนอเรชันที่ 4 มาพร้อมพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ของเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถพับและปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
มีระบบมอเตอร์ไฮบริด 2 ตัว ขนาดกะทัดรัด แต่ให้ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยฮอนด้า ฟิต ใหม่ จะเป็นรถยนต์รุ่นที่แนะนำเข้าสู่ตลาดภายใต้กลุ่ม ‘e:HEV’
e:HEV เป็นชื่อที่ใช้ในการสื่อสารเกี่ยวกับระบบไฮบริดที่มาพร้อมมอเตอร์ 2 ตัว ซึ่งจะเป็นแกนหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า และระบบไฮบริดใหม่สำหรับยนตรกรรมของฮอนด้า ที่ใช้พลังงานขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก
ติดตั้งระบบ Honda CONNECT และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในตลาดประเทศญี่ปุ่น เดือนก.พ. 2563
ฮอนด้า ฟิต ใหม่ ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 รุ่น 5 สไตล์ให้เลือก ได้แก่ HOME, CROSSTAR, LUXE, NESS และ BASIC ตอบโจทย์ลูกค้าตามแต่ไลฟ์สไตล์
ส่วนบ้านเราต้องลุ้นกันว่าหน้าตาจะออกมาใกล้เคียงกับรุ่นไหน แต่ที่แน่ๆ ทุกรุ่นล้วนหน้าตาน่ารักน่าชัง สไตล์ญี่ปุ่นคิกขุ อาโนะเนะ
ในงานนี้ฮอนด้า ยังประกาศการใช้ชื่อ ‘ฮอนด้า อี : เทคโนโลยี’ (Honda e : TECHNOLOGY) ชื่อที่ใช้เรียกแทนเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าของฮอนด้า ที่จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีในการจัดการพลังงานต่างๆ ของฮอนด้าในอนาคต
เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางวิสัยทัศน์ 2030 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการใช้ชีวิตของผู้คน ทั้งในด้านการเดินทางและการใช้ชีวิต
‘ฮอนด้า อี’ (Honda e) มาพร้อมมอเตอร์ และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ไร้มลพิษ และง่ายต่อการควบคุม จอภาพคู่ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ ระบบกล้องมองข้างที่นำมาใช้งานแทนกระจกข้างทั่วไป
ฮอนด้า อี จึงเป็นยนตรกรรมที่สามารถเชื่อมโยงเทคโนโลยี แห่งการขับเคลื่อนกับการดำเนินชีวิตของทุกคนได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยระบบ Honda Personal Assistant ที่มีฟังก์ชันสั่งการด้วยเสียง ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ล้ำหน้า (AI)
นอกจากนี้ยังมีรถอเนกประสงค์ประตูสไลด์ขวัญใจคนไทย ‘ฮอนด้า ฟรีด’ ที่มาในดีไซน์ทันสมัย ดูกะทัดรัดมากขึ้น ฟังก์ชันใช้งานภายในหลากหลายรูปแบบ เพียงแต่บ้านเราคงยากที่จะเข้ามาทำตลาด ด้วยเงื่อนไขบางประการ
ขณะที่‘ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่’ ที่กลับเข้าทำตลาดในญี่ปุ่นอีกครั้ง โดยรุ่นที่เปิดขายนั้น ผลิตในโรงงานที่ประเทศไทยนี่เอง แต่จะเป็นเวอร์ชั่นที่ขายในสหรัฐอเมริกากันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
ส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยนต์ เปิดตัว ฮอนด้า ซีที 125 (CT125) เป็นครั้งแรกในโลก รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ได้รับการพัฒนาต่อยอด จาก ซีรีส์รถจักรยานยนต์แห่งตำนาน ซูเปอร์ คับ (Super Cub) ที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก
นอกจากนี้ยังจัดแสดงรถจักรยานยนต์ CRF1100L Africa Twin Dual Clutch Transmission, CRF1100L Africa Twin Adventure Sports ES Dual Clutch Transmission และ เอดีวี 150 (ADV150) เป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
รวมทั้งการเผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลกของ‘ฮอนด้า เบ็นลี่ อี’(Benly e:) รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่จะก้าวไปสู่การขายจริงในอนาคต และฮอนด้า จีโร่ อี (Gyro e:) รถสกู๊ตเตอร์สามล้อไฟฟ้า ที่ใช้งานร่วมกับ ฮอนด้า โมบายล์ เพาเวอร์แพ็ก (Honda Mobile Power Pack) แบตเตอรี่แบบพกพา ที่สามารถสับเปลี่ยนได้
เพิ่มความสบายใจให้กับผู้ที่ยังคงเป็นกังวล เรื่องเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้มลายหายไปโดยสิ้นเชิง
รวมถึงส่วนจัดแสดงพิเศษ‘การส่งมอบความสุขให้กับผู้คนทั่วโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพของการใช้ชีวิต’
นอกเหนือจากการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ฮอนด้ายังได้จัดแสดงนิทรรศการพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปี ของการจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ‘CB Series’ และการเข้าร่วมการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของฮอนด้า พร้อมทั้งการจัดแสดงพิเศษอื่นๆ นั้น อาทิ กิจกรรมที่ผู้เข้าร่วมงานสามารถสัมผัสประสบการณ์ และเรียนรู้เกี่ยวกับสมรรถนะการขับขี่ การออกแบบ หรือแนวคิดการพัฒนาเครื่องบินฮอนด้า เจ็ท เป็นต้น
นอกจากค่ายฮอนด้าแล้ว ในงานนี้ยังมีรถรุ่นที่น่าสนใจอีกไม่น้อย อาทิ ค่าย ‘ซูมซูม’ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เลือกเวทีนี้ เผยโฉมรถไฟฟ้าที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นครั้งแรกภายใต้ชื่อ Mazda MX-30 ภายใต้ปรัชญา ‘Car as Art’
Mazda MX-30 ออกแบบโดยคำนึงถึงความสำคัญของการยกระดับคุณค่าทางด้านศิลปะ ในแบบฉบับของมาสด้า KODO design – Soul of Motion ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Human Modern’
พื้นที่ภายในและบริเวณคอนโซลกลาง ออกแบบทำให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการคัดสรรวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ วัสดุลายไม้ และผ้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล โดยดึงเอาจุดเด่นด้านความเป็นธรรมชาติ เพื่อออกแบบพื้นที่ภายในที่ให้ความรู้สึกสบาย
Mazda MX-30 ยังเลือกใช้ประตูแบบ Free Style เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างหลากหลาย
ขณะที่ค่าย ‘นิสสัน’ เผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ ‘อริยะ คอนเซ็ปต์’(Ariya Concept) ครอสโอเวอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า มาพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้อัตราเร่งทรงพลัง และเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่
ดีไซน์ภายนอกแบบ V-motion รูปทรง ‘โล่’ หรือ shield อันเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เส้นสายด้านข้างให้ความรู้สึกถึงความเป็นรถเอสยูวีพันธุ์แท้ และแผงไฟท้ายที่สะดุดตา
อริยะ คอนเซ็ปต์ มีห้องโดยสารระดับพรีเมียมพร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัย และรูปทรงที่ถ่ายทอดความบริสุทธิ์ และสะอาดในแบบของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
หลอมรวมวิสัยทัศน์ของการเดินทางส่วนบุคคลของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility)
ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า และความอัจฉริยะของยานยนต์จะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น และปรับเปลี่ยนได้โดยปราศจากอุบัติเหตุหรือมลพิษที่เป็นอันตราย
‘โตเกียว มอเตอร์โชว์ 2019’เป็นงานแสดงยานยนต์ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทั้งรุ่นที่เปิดขายกันในปัจจุบัน และรถอนาคต ที่ทำให้ผู้เข้าชมพอจะมองเห็นเค้าโครงของรถ และเทคโนโลยีที่จะมาในเวลาอันใกล้
โดย – กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
