ภัทรฉัตร วิเชียรสรรค์

อยากเที่ยวด้วยบิ๊กไบก์….แต่จะขี่รถสปอร์ตทางไกลๆ ก็กลัวจะเมื่อย กลัวจะปวดหลัง จะขี่รถครุยเซอร์ได้ท่านั่งที่สบายแต่อาจไม่เร้าใจและหวือหวากับความเร็วมากนัก

จะดีกว่าไหมที่จะรวมเอาทั้งสองความต้องการ (สบาย+ความเร็ว) มารวมเป็นหนึ่งเดียว

ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว “คาวาซากิ นินจา 1000” คงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย
1
เจ้านินจาคันงามนี้ “ข่าวสด ยานยนต์” ได้รับกุญแจมาจาก “คุณกอ” ผจก.หนุ่มแห่งศูนย์เรียลมอเตอร์สปอร์ต สาขาแจ้งวัฒนะ เพื่อออก ทริปร่วมก๊วนกับทางเรียลฯ ในการเดินทางไป จ.อุทัยธานี ซึ่งมีถนนให้เล่นได้ครบ ไม่ว่าจะเป็นทางตรงยาวสุดลูกหูลูกตา หรือโค้งน้อยใหญ่ให้ได้ทดสอบสมรรถนะ

นินจา 1000 ออกแบบให้มีท่านั่งที่สบายๆ ทั้งจากตำแหน่งพักเท้าและแฮนด์บาร์ที่พอดิบพอดี ช่วยให้ท่านั่งไรเดอร์ไม่อยู่ในท่าหมอบเหมือนรถสปอร์ตทั่วไป น้ำหนักระดับ 231 ก.ก. และความสูงเบาะที่ 820 ม.ม. ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอฟัดพอเหวี่ยง
2
สำหรับผมแล้วสูง 180 ซ.ม.ไม่มีปัญหาเหยียบพื้นได้เต็ม แต่ถ้าตัวเล็กกว่านี้คงได้ “เขย่งเก็งกอย”กันบ้าง

ถังน้ำมันขนาดใหญ่จุ 19 ลิตรช่วยให้เดินทางได้ไกลขึ้นอีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นเหมือนปราการสำคัญในการยันตัวผู้ขี่ในจังหวะที่ต้องกดเบรก ในขณะที่เบาะซ้อนท้ายมีราวจับสำหรับสก๊อยสาว

แถมยังออกแบบให้สามารถ “ติดกล่อง” ซึ่งเป็นแอ๊กเซสเซอรี่เพิ่มเติม สำหรับการบรรทุกสัมภาระในการออกทริป

เพื่อความจัดเต็มด้านความปลอดภัย มาพร้อมระบบ KTRC (KAWASAKI Traction Control) ช่วยรักษาเสถียรภาพ และสามารถเลือก TC ได้ 3 ระดับ หากเก๋าพอก็ปิดมันซะ
3
รวมถึง Power Mode โหมดการขับขี่ 2 โหมดคือ โหมด F ที่จะส่งพลังเครื่องยนต์ออกมาอย่างเต็มที่ และโหมด L ลดกำลังลงมา 70 เปอร์เซ็นต์ให้การขับขี่นิ่มนวลมากขึ้น
4
ระบบเบรก ABS ทำงานร่วมกันทั้งหน้า-หลัง มาพร้อมดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 300 ม.ม. คาลิปเปอร์โมโนบล็อก 4 ลูกสูบ จานหลังขนาด 250 คาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว
5
ผมไม่รอช้าที่จะหวดตั้งแต่ออกตัว เครื่องยนต์ลูกนี้ทำงานตามสั่ง เปิดคันเร่งแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความเร้าใจ

เกียร์ 6 จังหวะ พร้อมปรับปรุงระบบ Airbox ใหม่ให้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่โดมเผาไหม้อย่างรวดเร็ว และส่งไอเสียออกทางท่อคู่ซึ่งเดินคอท่อแบบ 4-2-2

อัตราทดเกียร์ค่อนข้างชิดเพราะเน้นการตอบสนองอย่างเร้าใจ แม้ในรอบต่ำที่เกียร์สูงอาจมีอาการกระอักกระอ่วนบ้าง แต่มันก็เล็กน้อยเมื่อเทียบกับความดีทั้งหมดที่มันมี มาให้

ในทางตรงซัดแบบเบาะๆ เผลอแป๊บเดียวทะลุ 180 ก.ม./ช.ม.อย่างง่ายดาย ซึ่งมันยังไปได้ถึงระดับ 250-260 ก.ม./ช.ม.

กระแสลมไม่เป็นปัญหาหากอยู่ในท่าหมอบ เพราะวินชิลล์ที่ปรับได้ 3 ระดับจัดการมวลอากาศให้ไหลผ่านตัวไปอย่างผิวๆ

แม้น้ำหนักรถจะเยอะแต่มันช่วยกดให้นิ่ง ช่วงล่างแบบสั่งได้ โช้กหน้าเทเลสโคปิก 41 ม.ม. ที่ผสานการทำงานกับโช้กหลังแบบ เฮอริซอนทอล โมโนช็อก ซึ่งมีซับแท็งก์อยู่ข้างตัวรถ สามารถปรับได้อย่างละเอียดยิบ

ช่วยให้การเข้าโค้งแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความมั่นใจ ขนาดยางหน้า-หลัง 120/70-190/50 รัดวงล้ออะลูมินั่มอัลลอย 17 นิ้ว เหลือเฟือที่จะพาคุณเดินทาง หรือแม้กระทั่งแบนต่ำในโค้งได้อย่างเพียงพอ

การเดินทางไกลที่ความเร็ว 110-140 ก.ม./ช.ม. เฉลี่ยการกินน้ำมันอยู่ที่ 16-18 ก.ม./ลิตร รับรองว่าเต็มถังจะเดินทางได้ราว 300 ก.ม. แต่ถ้าเฆี่ยนกันแบบไม่ลืมหูลืมตาคงไม่เกิน 200 ก.ม.ต้องแวะปั๊มกันบ่อยหน่อย

ซึ่งถ้าคุณเปิดคันเร่งได้เนียนพอ ไฟเตือนสถานะ Economical Riding (ECO) จะติดโชว์บ่งบอกว่ากำลังขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน

ขณะที่การทำงานของระบบเบรกนั้นเนียนมือและไร้ที่ติ แม้จะเป็นระบบเบรกที่คาวาซากิพัฒนาขึ้นมาใช้เอง แต่สมรรถนะเกินตัว

การกดเบรกแต่ละครั้งเหมือนมีกำแพงมาหยุดความเร็วได้อย่างชะงัด ซึ่งระบบ ABS จะไม่เข้ามายุ่มย่ามง่ายๆ จนหมดสนุก เว้นเสียแต่ว่าหากวิเคราะห์แล้วว่าจะเข้าสู่อันตราย เช่น การเบรกบนพื้นเปียก เป็นต้น

นินจา 1000 หากไม่คิดถึงน้ำหนักที่มากไปนิดเป็นรถที่มีทุกอย่างไว้รอคุณพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นพละกำลังเครื่องยนต์ เทคโนโลยี ความสะดวกสบายและความปลอดภัย

ข้อมูลทางเทคนิค

เฟรมรถ Aluminum Backbone

เครื่องยนต์ DOHC 4 จังหวะ 4 สูบ

ความจุ 1,043 ซีซี

กำลังสูงสุด 138 แรงม้า/9,600 รอบฯ

แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร/7,800 รอบฯ

มิติ(กว้างxยาวxสูง) 790 x 2,105 x 1,170 ม.ม.

ราคา 629,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน