ฮุก-มอร์ไซค์

ภัทรฉัตร วิเชียรสรรค์

“ฮอนด้า” ตระกูล “500 ซีรีส์” สร้างความฮือฮาอีกครั้งหลังเปิดตัวรุ่นใหม่ไมเนอร์เชนจ์ไปในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ที่เมืองทองธานี

4

ล่าสุด เอ.พี.ฮอนด้า จัดทริปทดสอบสมรรถนะเพื่อให้นักข่าวสายสองล้อได้ทดสอบกันครบทั้ง 3 รุ่น 3 สไตล์

ได้แก่ รถสปอร์ตเร้าใจในรหัส “ซีบีอาร์ 500 อาร์” (CBR500R) หรือจะดูหล่อด้วยลุกส์เท่ๆ แอบดุดันแบบสปอร์ตเปลือย “ซีบี 500 เอฟ” (CB500F) และปิดท้ายด้วยการเอาใจขาเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์ “ซีบี 500 เอ็กซ์ “(CB500X)

เส้นทางสั้นๆ กทม.-นครนายก-เขาใหญ่ ซึ่ง “ข่าวสด ยานยนต์” เข้าร่วมทริปนี้ด้วย

มี “มนสิชา เกษประดิษฐ” ผจก.ฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และ “ยุทธนา มั่งคั่ง” ผู้จัดการฝ่ายบิ๊กวิง และบิ๊กวิงกรุงเทพฯ ร่วมกันเปิดประสบการณ์การขับขี่ในครั้งนี้พร้อมสื่อมวลชน

ฮอนด้า 500 ซีรีส์ทั้ง 3 รุ่นนั้น เป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ของตระกูล 500 ซีซี ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัยขึ้น พร้อมอรรถ ประโยชน์ครบครัน

ทั้ง 3 รุ่นอัพเกรดชิ้นส่วนใหม่ในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบแฟริ่งใหม่รอบคันให้มีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น

ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ในขณะที่เรือนไมล์ยังเป็นชุดเดิมจากรุ่นแรก

เปลี่ยนก้านเบรกใหม่เป็นแบบปรับระดับได้ 5 ระดับ พร้อมกุญแจป้องกันการโจรกรรม (H.I.S.S)

ช่วงล่างเปลี่ยนโช้กหน้าใหม่ 41 ม.ม. ปรับค่า Preload ได้ที่หัวโช้ก ส่วนด้านหลังโช้กอัพแบบโปรลิงก์ปรับได้ 9 ระดับ

ระบบเบรก ABS ทั้งด้านหน้าและหลัง ขนาดจานหน้า 320 ม.ม. คาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ ด้านหลังขนาด 240 ม.ม. คาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยว

ถังน้ำมันใหม่ที่จุมากขึ้นจากรุ่นก่อนเป็น 17 ลิตร พร้อมฝาถังแบบบานพับ hinged fuel cap ไม่ต้องถือฝาถังขณะเติมเชื้อเพลิงแบบรุ่นแรก

เบาะคนซ้อนออกแบบใหม่มีความกระชับ มีสันโหนกป้องกันการลื่นไถล

ปิดท้ายที่ท่อไอเสียแบบใหม่สำหรับ CBR500R และ CB500F

ขุมพลังทั้ง 3 รุ่นใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกัน เบนซิน 2 สูบ Parallel twin ขนาด 471 ซีซี กระบอกสูบขนาด 67.0×66.8 ม.ม. ระบบขับวาล์วดับเบิลโอเวอร์เฮด แคมชาฟต์ (DOHC) ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด PGM-FI

ระบบเกียร์ 6 จังหวะ ล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว ยางหน้าขนาด 120/70 ด้านหลัง 160/60

ด้วยข้อจำกัดภายใน 1 วัน ต้องขี่ให้ครบ 3 รุ่น จึงขอสตาร์ตความมันด้วยรถเน็กเกตไบก์อย่าง CB500F ที่ออกแบบให้มีความเปรี้ยวซ่าด้วยสีสันเจ็บๆ เฟรมรถแบบแบ๊กโบน มิติ (กว้างxยาวxสูง) 781×2, 082×1,054 ม.ม. น้ำหนัก 193 ก.ก.

6

สำหรับท่านั่งนั้น CB500F ให้ความกระชับและคล่องแคล่วในการหักเลี้ยวมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ชุดแฮนด์บาร์ทรงกว้าง

ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ในเรื่องความคล่องตัวเหมาะแก่การใช้งานในเมือง แต่สำหรับความเร็วสูงอาจจะเหนื่อยกับกระแสลมที่เข้ามาปะทะบ้าง

ส่วนรถสปอร์ต CBR500R มาบนเฟรมแบบแบ๊กโบน มิติ (กว้างxยาวx สูง) 739×2,082×1,144 ม.ม. ความสูงเบาะ 785 ม.ม. น้ำหนักรวม 195 ก.ก.

รุ่นนี้จัดท่านั่งใหม่ใช้แฮนด์จับโช้กแบบ Clip-on ทำให้น้ำหนักตัวผู้ขี่ถ่ายเท มาด้านหน้ามากขึ้น ถือว่าเอาใจขาเรซซิ่ง แต่ท่านั่งก็ยังสบายๆ แบบสปอร์ตทัวริ่งที่จะใช้ขี่ใกล้ก็ได้ขี่ไกล ก็ดี ซึ่งหากหมอบสุดชุดแฟริ่งแบบใหม่ช่วยจัดกระแสลมได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนพอสมควร ช่วยทำให้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากรุ่นแรก

รวมถึงการโหนเข้าออกโค้งที่ให้ความรู้สึกมั่นคงและนิ่งกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อยจากช่วงล่างใหม่ที่ปรับเซ็ตได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ช่วยให้รีดสมรรถนะจากขุมพลังบล็อกเดิมได้เต็มเหนี่ยว

ปิดท้ายที่ CB 500X รถแนวแอดเวนเจอร์ที่มาพร้อมเฟรมแบบ Diamond มิติ (กว้างxยาวxสูง) 821×2,098×1,263 ม.ม. น้ำหนัก 197 ก.ก.

รุ่นนี้ท่านั่งจะให้ความสบายมากที่สุดเหมาะเดินทางไกล แต่ระดับเบาะจะสูงกว่าเพื่อนที่ 810 ม.ม. วินด์ชิลใหม่ ที่สูงขึ้นช่วยบังอากาศที่เข้ามาปะทะตัวคนขับและยังป้องกันเศษหิน-กรวดที่ปลิวจากท้ายรถบรรทุกได้ด้วย

CBR500R มีให้เลือก 3 สี ประกอบด้วย สีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็กเมทัลลิก, สีแดง มิลเลนเนียมเรด, สีเทาอินดี้เกรย์ เมทัลลิก ราคา 215,500 บาท

CB500F มีให้เลือก 3 สีประกอบด้วย สีส้มแคนดีเอเนอร์จีออเรนจ์, สีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็กเมทัลลิก และสีเลมอนไอซ์เยลโล่ ราคา 210,000 บาท

และ CB500X บิ๊กไบก์สไตล์แอดเวนเจอร์ มีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย สีแดงมิลเลนเนียมเรด, สีน้ำตาลแมตเฟรสโกบราวน์, สีขาวแมตเพิร์ลซัมมิตไวต์ และสีดำแมตกันพาวเดอร์แบล็กเมทัลลิก ราคา 220,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน