ภัทรฉัตร วิเชียรสรรค์ / เรื่อง รัฐสีมา พงษ์เสน / ภาพ

ย้อนรอยอดีตอันเกรียงไกรของ “ฮอนด้า” สำหรับรถสปอร์ตในตระกูล “CBR” มีต้นกำเนิดจากรถโปรโตไทป์ในรุ่น “CBR 750” ซึ่งเป็นการออกแบบในปลาย ยุค 80 จนกระทั่งปี 1992 “CBR 900 RR” จึงถูกส่งลงสู่ท้องถนนเป็นครั้งแรกด้วยพิกัดเฉียด 1 ลิตร

จากนั้นฮอนด้าก็ปล่อยโมเดลอื่นตามหลังมาเรื่อยๆ เช่น CBR 929 RR, CBR 954 RR ก่อนยกระดับเป็นรถสปอร์ตพิกัด 1 ลิตร เต็มตัวครั้งแรกในปี 2004 ในโมเดล “CBR 1000 RR”

ผ่านมา 23 ปีเต็มกับความเป็นรถซูเปอร์สปอร์ต และในวันนี้”ข่าวสด ยานยนต์”ได้มีโอกาสลิ้มรสเจ้าพายุสลาตัน”CBR 1000 RR”

ต้องบอกว่าเป็นรถสปอร์ตในฝันของใครหลายๆ คนรวมถึงผมด้วย และต้องขอขอบคุณจริงๆ กับทาง “ฮอนด้า บิ๊กวิง กรุงเทพ” ที่ได้ยื่นกุญแจมาให้

รถคันนี้เป็นรถใหม่เลขไมล์เพียงแค่ 500 ก.ม.เศษเท่านั้น อีกทั้งยังผ่านมือนักบิดระดับโลกอย่าง “จีโน่ เรีย” อดีตแชมป์โลก ST6 ปี 2009 ทำเอาผมต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

“CBR 1000 RR” รุ่นขายในไทยนั้นจะเป็นสเป๊กของประเทศญี่ปุ่น ถูกตัดตอนแรงม้าลงมา อาจทำให้สาวกปีกนกหลายคนถึงกับร้องยี้ หลังเห็นพละกำลังที่ทำได้จากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 999 ซีซี ซึ่งสำหรับสเป๊กอเมริกาจะมีแรงม้าจัดเต็มถึง 178 แรงม้า

การทดสอบจัดขึ้น ที่สนามไทยแลนด์เซอร์กิต จ.นครปฐม ได้รับความเอื้อเฟื้อจากโปรโมเตอร์ร่างใหญ่ใจดีอย่าง “พี่แท่น”ไกรทส วงษ์สวรรค์ รวมถึง”พี่เพชร”ผจก.สนามที่ดูแลและช่วยอำนวยความสะดวกเสมอมา

รุ่นนี้มาพร้อมเฟรมรถแบบ Diamond ; die-cast auminium twin-spa…ท่านั่งแฮนด์ต่ำ หลังก้ม พักเท้าชัน ส่งผลให้น้ำหนักตัวเทไปข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้เมื่อยบ้างหากขี่ไกลๆ แต่นี้คือ ท่านั่งของรถสปอร์ตเต็มตัวที่เอื้อต่อการควบคุมในสนาม

ฟังก์ชันเรือนไมล์มีมาให้ครบ ทั้งไฟชิพไลต์ วัดรอบ ความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ อุณหภูมิ หน่วยวัดระยะ(ทริป) อัตราวัดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบ Rea Time ระบบวัดเวลาต่อรอบสำหรับจับเวลาในสนาม ในขณะเดียวกันรุ่นนี้ไม่มีระบบวัด เชื้อเพลิงแต่หากไฟเตือนติดจะเหลือเชื้อเพลิงในถัง 2.8 ลิตร จากเต็มถัง 17.7 ลิตร ซึ่งจะไปต่อได้อีกประมาณ 50 ก.ม.พอให้วิ่งแวะเข้าปั๊มได้ทัน หากไม่ซัดกันหนักเกินไป

ก่อนถึงเวลาซัดโฮกปล่อยลมยางออกเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสำหรับการขับขี่ในสนาม ยางติดรถ Bridgestone Battax Hypersport ขนาดหน้า-หลัง 120/70 และ 190/50 ที่หลังผ่านการวอร์มไปเพียง ไม่กี่รอบ เนื้อยางเริ่มมีอุณหภูมิพอเหมาะซึ่งพร้อมแล้วสำหรับการหวดแบบไม่ยั้งในสนาม

ในทางตรงหน้าพิตเลนผมบิดหมดปลอกรอบเครื่องยนต์กวาดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังผ่าน 4,000 รอบฯ เสียงเครื่องยนต์จะแผดซ่านเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบระบบคายไอเสียที่มีเซอร์โวคอยทำหน้าที่เปิด-ปิดบายพาสไอเสีย ระหว่างรูปลายท่อต่างขนาดเล็กและใหญ่

ส่งผลให้เครื่องยนต์สามารถเรียกรอบส่งกำลังได้ดีขึ้น ทั้งในรอบต้นและรอบปลาย จุดนี้ทำเอาฟินเหมือนกัน

มาถึงโค้งแล้วคงต้องเบรกกันตัวโก่ง เชนจ์เกียร์ลงไปพร้อมกดเบรก ซึ่งระบบกระจายแรงเบรก C-ABS ทำงานช่วยให้การลดความเร็วลงได้อย่างมั่นใจ โดยส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังระบบเบรกทั้งด้านหน้าและหลังจึงช่วยสร้างสมดุลที่ดี

ดิสก์คู่หน้าขนาด 320 ม.ม.คาลิปเปอร์ Tokico 4 พอร์ต และ ดิสก์เบรกหลังขนาด 220 ม.ม.คาลิปเปอร์ Nissin 1 พอร์ต เหลือๆ กับแรงม้าที่ถูกฆ่าตัดตอนไปแล้ว

ผมสนุกสำหรับการห้อเจ้า CBR 1000 RR คันนี้ทะยานผ่านโค้งในสนามไทยแลนด์เซอร์กิตเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อมั่น ในศักยภาพของช่วงล่าง Showa ที่ปรับเซ็ตได้อย่างละเอียดยิบทั้ง ด้านหน้าและด้านหลัง ไม่ได้แตะต้องมันแต่อย่างใดแม้ว่าการใช้งานบนถนนมันอาจกระด้างจนสุดทนแต่ในสนามแล้วมันตอบสนองได้นิ่งอย่างน่าแปลกใจ

เมื่อผสานการทำงานกับกันสะบัดไฟฟ้า HESD ที่ซ้อนตัวอยู่ใต้แผงคอ ช่วยปรับความหน่วงของแฮนด์ไปตามความเร็วด้วยแล้วนั้น ค่อนข้างที่จะตอบสนองได้อย่างสุขุมและเฉียบคมในโค้งมากเสียจริงๆ

ขณะที่เทคโนโลยีการขับขี่นั้นไม่มีอะไรเลย ปราศจากระบบ Traction contro system มาคอยช่วยเหลือ ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับมือขวาของคุณเท่านั้น ที่จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการตอบสนองของระบบช่วงล่างและการถ่ายเทพละกำลัง รวมถึงการบาลานซ์เฉลี่ยน้ำหนักหน้าหลังให้มีเสถียรภาพ
2
“CBR 1000 RR”เป็นรถสปอร์ตจ๋าที่มีพละกำลังและความดิบ ในตัวของมันเอง กับราคาซึ่งนับว่าถูกเกือบถึงที่สุดแล้วในบรรดา รถสปอร์ตเรปพลิก้า

ข้อมูลทางเทคนิค

แบบตัวถัง สปอร์ต

เครื่องยนต์ DOHC 4 จังหวะ 4 สูบ

ความจุ 999 ซีซี

กำลังสูงสุด 116 แรงม้า / 9,500 รอบฯ

แรงบิดสูงสุด 95 นิวตันเมตร / 8,250 รอบฯ

ระบบส่งกำลัง 6 จังหวะ

มิติ(กว้างxยาวxสูง) 720×2,075×1,135 ม.ม.

น้ำหนักรวม 212 ก.ก.

ราคา 623,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน