‘ซูซูกิ เซียส’ไมเนอร์เชนจ์
ตะลุยเหนือ-ขึ้นดอยสบาย
‘ซูซูกิ เซียส’ไมเนอร์เชนจ์ ตะลุยเหนือ-ขึ้นดอยสบาย – ได้ชื่อว่าเป็นอีโคคาร์ ซีดาน ที่เรียบหรู กว้างขวาง สะดวกสบาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ ‘ซูซูกิ เซียส’ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี แม้จะอยู่ในตลาดมากว่า 4 ปีแล้วก็ตาม
ด้วยอายุอานามที่ไม่น้อยจึงได้เวลาปรับโฉมเสริมหล่อเพื่อสร้างสีสัน พร้อมทั้งดึงความสนใจจากลูกค้าที่อาจจะยังลังเล
ยังคงคอนเซ็ปต์ความสะดวกสบาย ภายใต้สโลแกน ‘สัมผัสใหม่ สบายทุกมิติ’
เพื่อให้สามารถสื่อสารไปถึงลูกค้า ทีมงานซูซูกิ นำโดย ‘วัลลภ ตรีฤกษ์งาม’ กรรมการบริหาร ด้านการขาย และการตลาดซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จัดทริปทดสอบในเส้นทาง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไปยัง อ.เชียงดาว
ระยะทางไป-กลับร่วมๆ 200 ก.ม. แต่ละคันมีผู้สื่อข่าวนักทดสอบ 4 คน เต็มพิกัด เรียกว่างานนี้หวังให้พิสูจน์สมรรถนะ ทั้งกำลังเครื่องยนต์และการยึดเกาะถนนของช่วงล่าง ที่ต้องเจอเส้นทางหลากหลายรูปแบบ
ตกลงกับน้องผู้สื่อข่าวว่าจะขอว่าการช่วงขาไปรวดเดียว เกือบๆ 100 ก.ม. และยังได้ความหลากหลายของเส้นทาง ทั้งในเมือง นอกเมือง เลนสวน ทางชัน เรียกว่าครบรส
ก่อนออกเดินทางแวะเวียนพิจารณารอบคันกันเสียให้จบ โดยทุกคันเป็นรุ่น RS หรือตัวท็อป
กระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ให้เอกลักษณ์ และดุดัน ชุดแต่งโครเมียมโมเดิร์นรอบคัน ตั้งแต่ปลายฝากระโปรงต่อกับกระจังหน้า กรอบไฟตัดหมอก มือจับประตู และกรอบไฟสะท้อนที่กันชนท้าย ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ LED และไฟหรี่แบบ LED ไฟท้ายดีไซน์สปอร์ต พร้อมสปอยเลอร์หลังไดนามิก
ภายในยังคงเดิมทุกประการ ด้วยเพราะ ที่ผ่านมาถือว่าตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม เป้าหมายเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ต พวงมาลัย หุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์ เมื่อเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธ
มาตรวัดความเร็ว และรอบ พร้อมจอ แสดงข้อมูลการขับขี่ อาทิ อัตราสิ้นเปลือง ระยะทางที่ขับต่อได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่ เป็นต้น ระบบความบันเทิงควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์ และระบบนำทาง เนวิเกเตอร์ ล่างลงมาเป็นระบบปรับอากาศ ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน
พร้อมออกเดินทาง ช่วงแรกเส้นในเมืองการจราจรของจ.เชียงใหม่แม้จะสายแล้วบอกเลยว่าไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากรุงเทพฯ สักเท่าไหร่พวงมาลัยน้ำหนักค่อนข้างเบาช่วยให้โยกซ้ายแซงขวาได้แบบสบายมือขณะที่กำลังเครื่องยนต์ตีนต้นอาจต้องออกแรงรีดกำลังเล็กน้อย หากต้องการได้แบบปัจจุบันทันด่วน แต่ถ้าออกตัวทั่วไปทำได้แบบ ชิลชิล
ออกนอกเมืองเริ่มทำความเร็วได้ ขยับเติมคันเร่งเครื่องยนต์ 1.25 ลิตร มีพละกำลังมากพอที่จะรีดได้สบายๆถึง 150 ก.ม./ชั่วโมง
นอกจากอัตราเร่งในช่วงทางราบที่น่าประทับใจแล้ว อีกอย่างที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนคือเรื่องความเงียบ ที่แม้ความเร็วเกินจุดปราบเซียน 120 ก.ม./ชั่วโมง ไปแล้ว แต่เสียงลมที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารดูจะเบาพอสมควร
ขึ้นทางเขามุ่งหน้าสู่อ.เชียงดาว ไต่ทางไม่ชันมากได้ไหลลื่น ทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ และยังมีโค้งอยู่เป็นระยะๆ ดีที่มีปุ่มสปอร์ตให้กดใช้งานบริเวณหัวเกียร์เรียกกำลังรถมาใช้งานในแบบโอเวอร์ไดรฟ์ ช่วยนำพาไปได้ไม่ยาก
ช่วงล่างในย่านความเร็วประมาณ 100-120 ก.ม./ชั่วโมง มั่นคงหนักแน่น แต่เมื่อผ่านความเร็ว 140 ก.ม./ชั่วโมง ไปแล้ว มีบางจังหวะที่รู้สึกถึงอาการลอยของตัวรถบ้าง
ถึงจุดหมายปลายทางทดสอบกันไปร่วม 100 ก.ม. เส้นทาง หลากหลายรูปแบบ ขึ้นเขาเติมคันเร่ง ใช้โหมดสปอร์ตกันเป็นระยะๆ อัตราสิ้นเปลืองหน้าจอแจ้งไว้ว่าอยู่ที่ 14.5 ก.ม.ต่อลิตร เป็นรถอีกคันหนึ่งที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์อย่างมาก
‘ซูซูกิ เซียส’ เป็นอีกตัวเลือกในกลุ่มอีโคคาร์ ซีดาน ที่มีความน่าสนใจไม่น้อย ด้วยสมรรถนะที่มีมาพอตัว ไม่มากไม่น้อย ความกว้างขวางสะดวกสบาย ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นมีมาให้เหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือหน้าตาตกแต่งใหม่ไฉไลไม่หยอก
สนนราคาที่ 689,000 บาท แต่หากจองในช่วงแนะนำราคาอยู่ที่ 675,000 บาท
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง เก๋ง 4 ประตู เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VVT ความจุ 1,242 ซีซี กำลังสูงสุด 91 แรงม้า/6,000 รอบฯ แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร/4,800 รอบฯ ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ CVT ระบบรองรับ(หน้า) แม็กเฟอร์สันสตรัต/คอยล์สปริง ระบบรองรับ(หลัง) ทอร์ชั่นบีม/คอยล์สปริง มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,730×4,495×1,475 ม.ม.
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
