บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เผยโฉมบีเอ็มดับเบิลยู‘R nine T Urban G/S’ มอเตอร์ไซค์โรดสเตอร์ผสมผสานดีไซน์ของมอเตอร์ไซค์สุดคลาสสิคเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย

นายมาร์คุส เกลเซอร์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย กล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู R nineT Urban G/S เป็นโมเดลที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์แต่ยังคงคาแรคเตอร์ที่เราคุ้นเคย นับเป็นส่วนผสมระหว่างเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดและลุคสุดคลาสสิคที่สมบูรณ์แบบ จึงสืบทอดเจตนารมณ์ของมอเตอร์ไซค์ GS รุ่นก่อนหน้า โดยยังสามารถรักษาจิตวิญญาณออฟโรดจากอดีต และให้ความสำคัญอย่างไม่แพ้กันต่อปัจจุบันด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยไว้ในตัว

มาร์คุส เกลเซอร์

รูปลักษณ์ถอดแบบมาจากมอเตอร์ไซค์รุ่นพี่ ทั้งยังคงคอนเซ็ปต์โทนสีเอาไว้โดยไม่ได้ปรับเปลี่ยนแต่อย่างใด เช่นเดียวกับเมื่อ 35 ปีที่แล้ว ถังน้ำมันและบังโคลนด้านหน้ายังมาในสีขาว Lightwhite non-metallic อันโดดเด่น เข้าคู่กับหน้ากากไฟหน้า ที่ออกแบบมาตามสไตล์มอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู GS ของยุคนั้น R nineT Urban G/S ยังมาพร้อมกับการตกแต่งแบบดั้งเดิม ด้วยสองโทนสีน้ำเงินบนถังน้ำมัน และที่นั่งสำหรับสองคนสีแดงสว่าง ซึ่งเป็นการตีความคู่สีที่สื่อถึงบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์สปอร์ตในปีก่อนๆ นอกจากนั้นเฟรมสีดำยังสะท้อนภาพในอดีตได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

แผงหน้าปัดออกแบบให้เข้ากับหน้ากากไฟหน้าอย่างกลมกลืน ประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วทรงกลมแบบอนาล็อก ไฟสัญลักษณ์ และหน้าจอ LCD สองแถว รายละเอียดหรูหรายังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ R nineT Urban G/S ที่รวมไปถึงอะไหล่อลูมิเนียมต่างๆ เช่น fork bridge แคลมป์จับแฮนด์อลูมิเนียม

ล้อแบบซี่ลวด ล้อหน้าขนาดใหญ่กว่า 19 นิ้ว และยางออฟโร้ด 120/70 ZR 19 ตอบโจทย์ลุคสไตล์เอ็นดูโร่ที่เป็นที่รู้จักกันดีของมอเตอร์ไซค์รุ่นคลาสสิค เข้าคู่อย่างสมบูรณ์แบบกับล้อหลัง 17 นิ้ว พร้อมยาง 170/60 ZR 17 คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ สายเบรกหุ้มโลหะ และดิสเบรกที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 320 มิลลิเมตร จึงทำให้ระบบเบรก ABS ประสิทธิภาพสูงทำการลดความเร็วได้อย่างดีเยี่ยมและมั่นคง

เครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ ระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1,170 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 81 กิโลวัตต์หรือ 110 แรงม้า สั่งงานด้วยเกียร์ 6 สปีด โดยถูกออกแบบให้ลดอัตราการปล่อยมลภาวะตามเกณฑ์ EU4 pollutant class ระบบไอเสียสแตนเลสมาพร้อมกับท่อไอเสียที่วางตำแหน่งไว้ด้านซ้าย สะท้อนสไตล์คลาสสิคอันคุ้นตา

สามเหลี่ยมแห่งสรีรศาสตร์จาก Urban G/S ช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกคล่องตัว เสริมความมั่นใจบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์ที่ยกสูงขึ้นเล็กน้อย พื้นผิวที่นั่งที่ยาวและลึกขึ้น ที่พักเท้าหลังที่มีขนาดกว้างขึ้น ล้วนส่งผลให้เกิด ประสบการณ์การขับขี่ที่ผ่อนคลายและเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจยิ่งกว่า ด้านความสูงมาตรฐานของที่นั่ประจำซีรีส์นี้อยู่ที่ 850 มม.

BMW R nineT Urban G/S ราคา 975,000 บาท

พร้อมกันนี้บีเอ็มฯ ประกาศการแข่งขัน GS Trophy Southeast Asia Qualifier 2017 โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกนี้จะค้นหาสุดยอดนักบิดจากไทยเพียงหนึ่งเดียว เพื่อเข้าร่วมทีมตัวแทนจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปแข่งขันในรายการ International GS Trophy 2018 ที่ประเทศมองโกเลีย ซึ่งนอกจากจะเป็นการประชันความเร็วแล้ว การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ระดับสูงนี้ยังเป็นบททดสอบในด้านทักษะการขับขี่ ทีมเวิร์ค และความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจอีกด้วย

International GS Trophy เป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์เอ็นดูโร่ระดับโลกจัดขึ้น 2 ปีครั้ง โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องเอาชนะบททดสอบที่หลากหลายด้วยมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู GS ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในสภาพพื้นผิวอันท้าทายหรือทักษะการทำงานเป็นทีม โดยการแข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาคตลอดทั้งปี 2017 จะนำทางไปสู่การแข่งขันระดับนานาชาติใน International GS Trophy 2018 สำหรับในประเทศไทยนั้น การแข่งขัน GS Trophy Qualifier 2017 รอบคัดเลือก จะจัดขึ้นในวันที่ 1-2 กันยายน พ.ศ. 2560 ณ คีรีมายา รีสอร์ท เขาใหญ่

รับสมัครสิงห์นักบิด GS เพียง 100 คน เพื่อคัดเลือกตัวแทนจากประเทศไทยเพียง 1 คน ไปเข้าร่วมทีมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการแข่งขัน International GS Trophy 2018 ที่ประเทศมองโกเลีย พร้อมเตรียมสัมผัสภูมิประเทศตระการตาและหลากหลายบททดสอบเอ็นดูโร่แสนท้าทาย ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ที่ www.bmw-motorrad.co.th/gstrophy2017 หรือผ่านทาง Line ที่ @gstrophysea2017 หรือที่เบอร์โทร 097-202-7239 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน