คอลัมน์ หลากหลายรถยนต์ : รีโว่ร็อคโค่4×42.8ลิตร ปิกอัพขับสนุก-อารมณ์เอสยูวี
รีโว่ร็อคโค่4×42.8 ลิตร – กลายเป็นกระแสสร้างแรงกระเพื่อมให้ตลาดรถปิกอัพบ้านเรากลับมาคึกคัก อีกครั้ง พลันที่ ‘โตโยต้า’ ได้เปิดตัว ‘รีโว่’ รุ่นบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ ที่งานนี้บอกเลยว่าไม่ได้มาเล่นๆ เพราะจัดเต็มครบทุกรุ่นย่อย และยังรวมถึงรถปิกอัพดัดแปลง (PPV) โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ พร้อมกันไปด้วย
เปิดตัวได้ไม่ถึงสัปดาห์เชิญผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ ได้สัมผัสกับสมรรถนะแบบเบาๆ ทั้งแบบออนโรด และออฟโรด กับรีโว่ ร็อคโค่ ดับเบิลแค็บ 4×4 เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ที่สนามทดสอบรถยนต์โตโยต้า (TOYOTA Driving Experience Park) ถ.บางนา-ตราด ก.ม.3
ดีไซน์ภายนอกกระจังหน้าเอกลักษณ์ใหม่เพิ่มความดุดัน และดูมีความแข็งแกร่งมากขึ้นไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Bi-Beam ไฟ LED Daytime Running Light โดดเด่นขึ้นด้วย ชุดตกแต่งพิเศษ อาทิ สปอร์ตบาร์ และล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษ พร้อมยางแบบ White Letters แบบฉบับขาลุย
ห้องโดยสาร มาตรวัดดีไซน์ใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay เชื่อมต่อความบันเทิง พร้อม T-Connect ระบบเชื่อม ผู้ขับขี่ และรถยนต์
เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบ Off-Road เครื่องยนต์มีการปรับลดความเร็วรอบเดินเบา (จาก 850 รอบต่อนาที เป็น 680 รอบต่อนาที) สามารถลุยเส้นทาง Off-Road ได้อย่างมั่นคงราบรื่น
ได้เวลาออกไปพิสูจน์สมรรถนะเริ่มกันที่การทดสอบแบบออนโรด ให้รับรู้แรงเหวี่ยงเวลาเปลี่ยนเลนกระทันหัน การควบคุมทิศทางของพวงมาลัย ระบบช่วงล่างเมื่อผ่านพื้นผิวไม่เรียบ และคอสะพาน
รอบแรกเป็นผู้โดยสารด้านหลัง เพราะมีน้องนักข่าวสาว ‘วุฒิณี ทับทอง’ จากประชาชาติธุรกิจ เป็นผู้ทดสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สนามที่คอยบอกเส้นทาง
พนักพิงเบาะดีไซน์ให้มีความลาดเอียง เล็กน้อย ช่วยให้การนั่งไม่หลังตรงตั้งฉาก อีกทั้งเบาะนั่งค่อนข้างสูง ทำให้เมื่อนั่งแล้วเข่าไม่งอ ลดอาการเมื่อยล้า
บนทางราบยามหักหลบกรวยยาง ซ้าย-ขวาหรือเข้าโค้งบนความเร็ว มีแรงเหวี่ยงให้ได้รับรู้อยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับหัวสั่นหัวคลอน
จังหวะจั้มคอสะพานรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกแต่ไม่ชมากช ถ้ามาบนความเร็วต่ำค่อยๆ ผ่าน อาจจะลืมไปเลยว่านั่งอยู่บนรถปิกอัพ
ด่านสุดท้ายของการทดสอบ ออนโรดคือการขับผ่านเส้นทางขรุขระ และมีเนินสลับไปมา สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล ราวกับอยู่บนรถ SUV ชั้นดี
ขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับ สิ่งแรกที่สะดุดตา คือปุ่มควบคุมที่พวงมาลัยมากมายชนิดที่บอกครั้งเดียวจำได้ไม่หมด แต่ทุกปุ่มล้วนเพื่อให้ผู้ขับขี่ ไม่ต้องละสายตาจากถนน
ลองหมุนพวงมาลัยขณะที่ยังจอดนิ่งอยู่ แม้สตาร์ตเครื่องยนต์แล้ว รู้สึกถึงความหนักและหน่วง แต่พอตัวรถเคลื่อนออกไป น้ำหนักของพวงมาลัยเปลี่ยนไปในทันที ออกจะเบาเสียด้วยซ้ำ
จังหวะเปลี่ยนเลนกะทันหัน หมุนซ้าย-ขวา เบาๆ ก็ทำได้สบายมือ หรือการเข้าโค้งไม่ได้รู้สึกหนัก เพิ่มความมั่นใจเข้าโค้งออกโค้ง
ย้ายมาที่สถานีออฟโรด มี 2 ด่าน คือไต่เนินที่มีความชันประมาณ 40 องศา เพื่อพิสูจน์ว่าแรงบิดที่มีอยู่ 500 นิวตัน-เมตร แถมปรับรอบเดินเบาลดลง ช่วยให้ผ่านอุปสรรคนี้ไปได้อย่างราบรื่นหรือไม่ กับเนินสลับแบบชนิดที่ล้อลอยอยู่ในอากาศ 1 ล้อ
เมื่อรถเริ่มไต่เนินทีมงานที่นั่งไปด้วยแจ้งว่าลองถอนคันเร่ง เพื่อดูว่ากำลังเครื่องยนต์ไปต่อได้หรือไม่ ตัวรถค่อยๆ ไปข้างหน้า
เมื่อเห็นว่าเริ่มจะไม่ไหวแค่เติมคันเร่ง เบาๆ ก็สามารถพาไปถึงยอดสุดของเนินได้สบายๆ
นอกจากกำลังที่มีมากพอแล้ว ยังมีระบบหน่วงตัวรถไว้ให้ 3 วินาที เพื่อให้มีเวลาย้ายเท้าจากเบรกมาที่คันเร่ง เพียงพอกับการที่ไม่ทำให้รถไหลลงด้านหลัง
ทีมงานคนเดิมให้จอดสนิทบนยอดเนินขาลง แล้วค่อยๆ ปล่อยรถไหลลงไปด้านล่างโดยเท้าไม่ต้องแตะคันเร่ง และเบรก เพื่อให้เห็นถึงระบบที่เข้ามาช่วยคำนวณความเร็ว และช่วยเบรกให้แบบที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องทำอะไรเลย
มาถึงเนินสลับที่จังหวะสลับนั้น มีล้อที่ลอยอยู่ในอากาศ 1 ล้อ เพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ จะคำนวณและส่งกำลังไปยังล้อทุกล้ออย่างเหมาะสม ทำให้อุปสรรคที่มีอยู่กลายเป็นเรื่องที่ผ่านไปได้ง่ายๆ
‘รีโว่ ร็อคโค่ ดับเบิลแค็บ 4×4’ ทั้ง หล่อและขับสนุก-ขับสบายไม่แพ้เอสยูวีดีๆ คันหนึ่ง
สนนราคา 1,239,000 บาท