นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังของปี 2017 เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงยึดมั่นแนวคิดที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของแบรนด์รถยนต์หรูในประเทศไทย ล่าสุดแนะนำรถยนต์กลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ The GLA โฉมใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์สปอร์ตเร้าใจ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยล่าสุด มานำเสนอให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่มีคาแรคเตอร์ที่ชื่นชอบการผจญภัยท่องเที่ยว แต่แฝงไปด้วยความสปอร์ตที่ไม่เหมือนใคร

ดีไซน์ภายนอก ของ The GLA โฉมใหม่ ยังคงเอกลักษณ์ของดีไซน์อันเร้าอารมณ์ในแบบฉบับรถยนต์คอมแพ็ค ที่ผสานกับความสปอร์ต อเนกประสงค์ และสมรรถนะอันดีเยี่ยม เหมาะทั้งการขับภายในเมืองและนอกเมืองได้เป็นอย่างดี โดยทั้ง GLA 200 Urban และ GLA 250 AMG Dynamic มาพร้อมกับการยกตัวถังให้สูงขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโร้ดให้ดีขึ้น ด้วยตำแหน่งที่นั่งซึ่งยกสูงขึ้นและรูปลักษณ์ที่ดูสมบุกสมบันมากกว่าที่เคย

กันชนแบบใหม่, ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance มาทดแทนระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาผู้ขับขี่เมื่อต้องขับรถในเวลากลางคืน พร้อมระบบ Adaptive highbeam Assist ที่ช่วยปรับไฟสูงแบบอัตโนมัติ เพื่อลดการบดบังทัศนวิสัยของผู้ร่วมใช้ถนน, ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในกรอบไฟหน้า, ไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า, ราวหลังคาอะลูมิเนียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมี่ยม 2 ท่อ

GLA 200 Urban จะมาพร้อมกับไฟตัดหมอกหน้าและล้ออัลลอย แบบ 5 ก้าน ขนาด 18″ และรถยนต์ GLA 250 AMG Dynamic จะมาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบ ไฟฟ้า, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ, ชุดแต่ง AMG bodystyling (กันชน หน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง), ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ Mercedes -Benz บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi – spoke ขนาด 19″

ดีไซน์ภายใน มาพร้อมกับระบบมัลติมีเดียมาตรฐานรุ่นใหม่ อย่าง หน้าจอขนาด 8 นิ้ว, มาตรวัดรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับเข็มชี้สีแดงซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารอ่านค่าสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และระบบ HANDFREE ACCESS ที่สามารถเปิดประตูท้ายได้โดยไม่ใช้มือในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic

GLA 200 Urban ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สำหรับ GLA 250 AMG Dynamic ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต ซึ่งทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบ ไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังปรับองศาได้ พร้อมกล่องเก็บของ ตาข่ายสัมภาระซ้าย-ขวา และช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์ บริเวณที่เก็บสัมภาระด้านท้าย

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 2 โซน, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน, วิทยุ-ซีดี MB Audio 20, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (BlueTooth), รองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD-Card Navigation), ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay), MB Apps, ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 12 สี และกาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz

ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ที่เพิ่มเติมสำหรับทั้ง 2 รุ่น คือการติดตั้งระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ, ระบบเตือนแรงดันยาง, ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ และอื่นๆอีกครบถ้วน

นอกจากนี้มสีรุ่นพิเศษ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC ปรุงทั้งรูปลักษณ์และคุณสมบัติทางเทคนิคไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งการปรับแต่งคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยอุปกรณ์ภายนอกใหม่ๆ เช่น ฝากระโปรงหน้ารูปแบบใหม่และปลายขอบ สปอยเลอร์หลังคาที่ปรับแต่งให้ลู่ลมยิ่งขึ้นนั้น มิได้เพียงแต่จะช่วยลดแรงต้านที่ตัวรถ แต่ยังช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความสมดุลย์ขณะขับขี่อีกด้วย

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้ารูปแบบใหม่ที่มีรูปทรงที่ลู่ลมกว่าเดิม ซึ่งทำให้ด้านหน้าของตัวรถดูโฉบเฉี่ยวขึ้น, ลวดลายของช่องรับอากาศด้านหน้าใหม่, ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ชุดแต่ง AMG Night Package, AMG Aerodynamic package ที่เพิ่มชุดตกแต่งกันชนหน้าและกันชนหลังสีดำแบบไฮ-กลอสให้มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

ภายในโดดเด่นด้วยเบาะที่นั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต โดยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และระบบอุ่นร้อน, ชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต, พวงมาลัยแบบพิเศษ AMG Performance Steering Wheel Nappa / DINAMICA ที่เพิ่มความกระชับและมั่นใจตลอดการขับขี่ ตกแต่งภายในด้วย AMG Design trim in black / red แบบ CARBON FIBRE ที่คมเข้มดุดัน มาพร้อมกับเข็มขัดนิรภัยสีแดงที่เข้ากับสีเบาะ, กาบบันไดเรืองแสงประตูหน้าแบบ AMG และAMG DYNAMIC SELECT, ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 20″ และอุปกรณ์มัลติมีเดีย อย่าง วิทยุ-ซีดี MB Audio 20, หน้าจอแบบยกตัว ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเพิ่มความรื่นรมย์ตลอดการขับขี่ด้วยเครื่องเสียงแบบ Harman Kardon Logic 7 surround sound system ที่ให้เสียงรอบทิศทาง รวมถึงหลังคาพาโนรามิค ซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

GLA 200 Urban ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 1,595 ซีซี. กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร

ส่วนGLA 250 AMG Dynamic ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 1,991 ซีซี.กำลังสูงสุด 211 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร

ขณะที่ Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 1,991 ซีซี กำลังสูงสุด 381 แรงม้า แรงบิด 475 นิวตันเมตร

ราคาจำหน่าย

GLA 200 Urban 2,090,000 บาท

GLA 250 AMG Dynamic 2,390,000 บาท

Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC 4,840,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน