ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณบริษัท บีเอ็มดับเบิ้ลยู มอเตอร์ราด (ประเทศไทย) เป็นอย่างสูง ที่ได้ชักชวนกระทาชายนักบิดจ้าวสำอางจาก “ข่าวสด” ให้ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรม BMW Track Experience เพื่อเสริมประสบการณ์ซิ่งในสนามและทดสอบสมรรถนะบิ๊กไบค์ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ รวมถึงรูปภาพสวยๆประกอบคอลัมน์จาก “พี่นก” ขวัญชัย เหลืองสถิต ที่ลงมือลั่นชัตเตอร์ให้สื่อสายซิ่งได้มีภาพติดมือกลับบ้านกัน งานนี้ข่าวสดได้ทดสอบ 2 รุ่นใหญ่ คือ รถสปอร์ตสุดเท่ Bmw S1000RR และรถแอดเวนเจอร์ Bmw S1000XR

2

ทั้งสองรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกัน เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1,000 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ โดยรถสปอร์ต S1000RR มีแรงม้าสูงสุด 199 แรงม้า/13,000 รอบฯ พร้อมแรงบิด 113 นิวตันเมตร / 10,500 รอบฯ ส่วน S1000XR นั้นเนื่องจากเป็นรถแนวแอดเวนเจอร์จึงถูกลดดีกรีลงมาเหลือ 160 แรงม้า/ 11,000 รอบฯ และมีแรงบิด 112 นิวตันเมตร / 9,250 รอบฯ รวมถึงช่วงล่างไฟฟ้าแบรนด์ SACHS ที่มาพร้อมระบบ Dynamic Damping Control (DDC) ระบบเบรคABS และ Traction Control ก็มีมาเสริมความปลอดภัยเต็มพิกัด

bmw-f800r

สำหรับเซ็กชั่นแรก ผมมีเวลา 20 นาทีสำหรับการหวด S1000RR ฟีลลิ่งแรกหลังขึ้นคร่อม ต้องบอกว่าเป็นท่านั่งเป็นแบบรถสปอร์ตขนานแท้ เพราะเมื่อวางแขนที่แฮนด์ลำตัวก็เกือบจะอยู่ในท่าหมอบไปโดยปริยาย หากขี่ทางไกลอาจเมื่อยกว่าเพื่อน แต่มันให้การออกท่าทางควบคุมรถเป็นอิสระกระฉับกระเฉง โดยไรดิ้งโหมดในการขับขี่ครั้งนี้ ผมเลือก Sport ส่วนโหมด Slick ต้องให้พ้นระยะรันอิน 1,000 กม.ไปเสียก่อน แต่โหมด rain และ race ยังใช้ได้

bmw-s1000xr

เมื่อเข้าสู่ทางตรงผมบิดหมดปลอก รอบเครื่องกวาดขึ้นไปถึงระดับเรดไลน์อย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์แผดซ่านออกมาเสียงเสนาะหูยิ่งนักแม้จะเป็นท่าเดิมติดรถ และในทันทีที่ไฟชิพไลท์ติดขึ้น ระบบควิกชิพท์เตอร์ช่วยให้ผมเปลี่ยนเกียร์ได้ราบรื่นและรวดเร็วโดยไม่ต้องใช้ครัชท์ อีกทั้งในจังหวะลดเกียร์ก็เหยียบลงได้ทันทีเนื่องจากมีระบบ Downshift Blipper System ตวัดรอบเครื่องขึ้นมารับกับการลดเกียร์ลงอัตโนมัติ

on

ระบบช่วงล่างไฟฟ้า Dynamic Damping Control (DDC) ทำงานได้ไร้ที่ติ แม้ว่าจะเปิดคันเร่งในจังหวะที่แบนต่ำก็ยังให้ความมั่นใจ ช่วยให้เข้า-ออกโค้งได้นิ่งและคมกริบ ส่วนระบบเบรกABSให้ความไว้ใจได้และมัน ไม่ได้เข้ามายุ่มยามเร็วเกินไปแม้จะเบรคอย่างรุนแรงและต่อเนื่องมาหลายเซ็กชั่นแล้วก็ตาม ก่อนที่จะกลับมาสนุกอีกครั้งจากอัตราเร่งชนิดสั่งได้ทุกรอบเกียร์ ความเร็วทะลุ 250 กม./ชม.ทำได้สบายๆบนทางตรง และยังมีเหลืออีกเยอะ

ช่วงบ่ายลงไปหวด S1000XR มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกระทาชายสายสปอร์ตที่ต้องการรถแรงๆไว้ขี่ท่องเที่ยว เนื่องจากท่านั่งหลังตรงและตำแหน่งพักเท้ารวมถึงแฮนด์บาร์ทรงกว้างช่วยจัดท่านั่งให้สบายกว่ารถสปอร์ต แต่ดีกรีความร้อนแรงก็ไม่เป็นรอง แถมยังพอเอาไปลุยทางแบบออฟโร้ดได้บ้าง ถือว่าเป็นรถเอนกประสงค์ที่ร้อนแรงอีกรุ่นหนึ่ง

ส่วนตัวแล้วการขับขี่สองล้อรูปแบบเซอร์กิตจะเป็นรถสปอร์ตเสียส่วนใหญ่ นี้เป็นครั้งแรกที่ต้องขี่รถแอดเวนเจอร์ในสนาม แต่เมื่อได้ลองแล้วต้องบอกเลยว่าทั้งช่วงล่างและอัตราเร่งที่รวดเร็วและเร้าใจ ดันให้ S1000XR ขึ้นมาเป็นรถแอดเวนเจอร์จิตวิญญาญรถสปอร์ตได้อย่างไม่มีข้อสงสัย เพราะไม่ว่าจะพลิกซ้ายพลิกขวาก็ทำได้อย่างคล่องตัว แม้จะอยู่ในร่างที่สูงโย่งก็ตาม ขณะที่อัตราเร่งก็ไม่ยิ่งหย่อนไปเสียกว่ากันเท่าไหร่นัก
เบาะสูงจากพื้นเพียง 790 มม. พอที่จะเอื้อให้คนตัวเล็กขึ้นไปขี่ได้สบายๆ ในขณะที่รถแนวนี้รุ่นอื่นๆจะสูงเกิน 800 มม.++ กันหมด ขณะที่น้ำหนักรวม 228 กก. ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์เท่าใดนักเนื่องจากรถวางบาล้านซ์มาค่อนข้างดี แถมยังมีโหมดขับขี่ให้เลือก 4 โหมดด้วยกัน rain , road , dynamic , dynamic pro

สำหรับการทดสอบรถทั้งสองรุ่น ให้ความเพลิดเพลินในการขี่ในสนามไม่น้อย อีกทั้งยังอยู่ในการควบคุมดูแลจากทีมมาร์แชล์ และได้ขับขี่รถที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมจึงมีความมั่นใจในความปลอดภัยจากระบบเซฟตี้ที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มเหนี่ยว แม้ราคาทั้งสองรุ่นอาจจะดูสูงไปบ้าง Bmw S1000RR 820,000 บาท Bmw S1000XR 890,000 บาท แต่หากเทียบกับสมรรถนะที่ได้รับก็คงจะช่วยให้กระทาชายสายซิ่งตัดสินใจไม่ยาก

ภัทรฉัตร วิเชียรสรรค์ /// เรื่อง

สเปค BMW s1000rr – s1000xr
เครื่องยนต์ 4สูบ Dohc ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ความจุ 999 ซีซี
เกียร์ 6 จังหวะ
น้ำหนัก 204-208 กก.
ความจุเชื้อเพลิง 17.5-20 ลิตร
มิติกว้างxยาวxสูง 826×2,050×1,140มม – 940×2,183×1,408 มม.
ราคา 820,000 – 890,000 บาท

online online1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน