แม้จะไม่มีรถใหม่เปิดตัวในช่วงนี้ แต่ใช่ว่าค่ายซูม ซูม มาสด้า จะหยุดสร้างความคึกคัก มีแคมเปญ โปรโมชั่น และกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเติบโตได้อย่างไม่มีสะดุด
อย่างล่าสุดจัดกิจกรรม MAZDA SKYACTIV CARAVAN นำรถยนต์เทคโนโลยีสกายแอ๊กทีฟ รวมกว่า 30 คัน ครบทั้ง 7 รุ่น มาให้ผู้สื่อข่าวทดสอบ เส้นทางกรุงเทพฯ-เขาใหญ่
ได้เจ้ามาสด้า 3 ใหม่ ฟาสต์แบ๊ก 5 ประตู มาทดสอบ แต่ละคันทดสอบกัน 2 คน แบ่งกันเอง ใครขับช่วงไหน “ข่าวสดยานยนต์” เลือกทดสอบก่อน ขาไปรวดเดียวจบ
สำรวจกันหน่อยว่ามีอะไรใหม่ขึ้นบ้าง มาสด้าได้วางตำแหน่ง มาสด้า 3 ให้เป็นยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียม แตกต่างจากรถญี่ปุ่นทั่วไป
ตั้งแต่ดีไซน์เน้นให้มีกลิ่นอายของรถสปอร์ตจากฝั่งยุโรป ภายใต้แนวคิด Kodo-Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่าย แต่งดงาม
ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์แบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Lamp แบบ Signature พร้อมระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ
หนึ่งเดียวในเซ็กเมนต์ เติมเต็มความหรูหรา ด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้า ใกล้ชิดธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น สีภายนอกใหม่ สีบรอนซ์ แพลทินัม ควอตซ์ ที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลกยานยนต์ในปัจจุบัน
ภายใน เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง สะดวกเมื่อมีการปรับเปลี่ยนผู้ขับขี่ไปมา
แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี MID และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ไม่ต้องละสายตาจากถนน
หน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander คอนโซลกลางใกล้คันเกียร์ ทำให้ไม่ต้องเอื้อมมือหรือต้องโน้มตัว
เชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟนผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto ระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
ได้เวลาออกเดินทาง จุดเริ่มต้นย่าน ถ.เลียบด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ การจราจรแม้จะเป็นช่วงสายแล้ว แต่ก็ยังมีเพื่อนร่วมถนนหนาตาอยู่พอควร
แต่นั่นไม่ได้สร้างปัญหา หรือเพิ่มความเครียดให้กับการควบคุมเจ้ามาสด้า 3 แม้แต่น้อย ด้วยรูปร่างที่ปราดเปรียว หลบหลีกซอกแซกได้สบายมือ
แถมด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เรียกม้าหนุ่มที่มีอยู่ 165 แรงม้า แรงบิด 213 นิวตัน-เมตร มาใช้งานได้ตั้งแต่ตีนต้น ชนิดเผลอกดคันเร่งแรงไปหน่อยอาจเจ็บหลังจากแรงกระแทกเบาะเอาได้ง่ายๆ
ออกนอกเมือง นึกว่าจะเบาลงบ้าง ที่ไหนได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีรถขับช้าวิ่งเลนขวาซ้ำเข้ามาอีก ทำให้ต้องไล่เก็บหน่วยกิตทีละคัน
กว่าจะเริ่มทำความเร็วได้จริงจัง ต้องเลย อ.วังน้อยไปแล้วโน่น ไม่รอช้าเพิ่มน้ำหนักที่คันเร่ง ตัวเลขไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ แบบไม่มีท้อ
จาก 120-140-160-180 ก.ม.ต่อช.ม. ไหลลื่นต่อเนื่อง วันนั้นไปสุดที่กว่า 190 ก.ม.ต่อช.ม. แบบชนิดมีให้ไปต่อ เพียงแต่ว่าถนนมีแค่นั้น
ช่วงหนึ่งที่ทำความเร็ว เร่งแซงออกเลนซ้าย เพราะรถขวาช้ากว่า มีเศษยางรถบรรทุกที่ระเบิดกองอยู่กลางถนน
มองกระจกซ้ายขวาไม่มีรถอยู่ในรัศมี หักหลบในทันทีที่ความเร็วเกิน 120 ก.ม.ต่อช.ม. ตัวรถไม่มีอาการสะบัดหรือเหวี่ยง แถมกลับมาตั้งลำตรงอยู่ในเลนได้ในชั่วพริบตา
ต้องยกความดีให้กับช่วงล่างแสนหนึบแน่น ทำงานร่วมกับระบบ GVC Plus หนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ Skyactiv-Vehicle Dynamics ที่แม่นยำ พร้อมทั้งสร้างความสมดุลให้กับตัวรถไม่ว่าจะเข้าโค้งหนัก หรือบนสถานการณ์ฉุกเฉิน
ผ่าน ต.กลางดง ก่อนเข้า อ.มวกเหล็ก มีทางขึ้นเขาเป็นระยะๆ แม้จะไม่สูงมากและมีหลายเลน แต่ด้วยจำนวนรถที่มาก เต็มทุกเลน
ทำให้ต้องเร่งแซงขวา โยกลงซ้าย ดีว่าทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และพวงมาลัยที่คมกริบ เติมคันเร่งเข้าไป เปลี่ยนเลนไปมาก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่ารถโคลงหรือหวิวเลยแม้แต่น้อย
แต่ถ้าอยากสนุก หรือเรียกกำลังมาใช้งานให้ได้ดั่งใจ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มีโหมดแมนวลให้เล่น ทั้งการโยกคันเกียร์ขึ้นลง บวกลบ หรือจะปรับที่แพดเดิล ชิฟต์ หลังแป้นพวงมาลัยก็ได้
ระบบความปลอดภัยมีมาให้แบบเน้นๆ เช่น ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติ ขณะถอยหลัง ทำงานได้จริง แถมเบรกแรงเสียด้วย เล่นเอาตกใจอยู่ไม่น้อย เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ถึงจุดหมายปลายทาง ดูระยะทางที่ขับไป 222 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 11 ก.ม.ต่อลิตร ดูตัวเลขอาจจะไม่มาก แต่บอกเลยว่าขับโหด
ทั้งทำความเร็วสูง เร่งแซงตลอด ไต่ทางชัน แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือเจ้ามาสด้า 3 คันนี้เติมน้ำมันได้สูงสุดถึง E85 เหมาะกับยุคน้ำมันแพงแบบทุกวันนี้ยิ่งนัก
ส่วนจะคุ้มกับค่าตัวของรุ่นท็อป 2.0 SP Sports ราคา 1.198 ล้านบาทหรือไม่ ต้องแวะไปพิสูจน์และทดลองขับที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศกันเอาเอง
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ
