เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้มีประชาชนส่วนหนึ่งได้รับความเดือดร้อนจากโครงการรถยนต์คันแรก ซึ่งเป็นโครงการในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่าน มีเจ้าของรถหลายรายได้เดินทางไปยังกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เพื่อขอโอนรถให้กับบุคคลอื่น เนื่องจากครอบครองรถมาเกินระยะเวลา 5 ปี ตามหลักเกณฑ์ของโครงการแล้ว แต่ปรากฎว่ากรมการขนส่งทางบกแจ้งว่าไม่สามารถโอนรถได้ เนื่องจากข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์แจ้งว่ารถคันดังกล่าวถูกกรมสรรพสามิตระงับการโอนสิทธ์ แนะนำให้ไปติดต่อสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นกับกรมสรรพมิตแทน

หลังเจ้าของรถสอบถามไปยังกรมสรรพสามิตได้รับคำชี้แจงว่า ขณะนี้รถคันดังกล่าวอยู่ในข่ายกำลังถูกตรวจสอบจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือสตง. ว่าทำผิดเงื่อนไขการขอรับสิทธิ์ในโครงรถยนต์คันแรก ซึ่งสตง.กำลังเข้ามาตรวจสอบการดำเนินการของกรมสรรพสามิต ว่ามีความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ โดย สตง. ระบุว่าขณะนี้มีข้อสงสัยเรื่องการดำเนินการของกรมสรรพสามิต ในการพิจารณาอนุมัติให้สิทธิ์รถยนต์คันแรกแก่ประชาชนจำนวนกว่า 1 แสนราย เนื่องจากตรวจสอบพบว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้กรมสรรพสามิตพิจารณาเกินระยะเวลาตามเงื่อนไขการขอใช้สิทธ์ ที่กำหนดให้ยื่นเอกสารมาภายในวันที่ 31 ธ.ค. 2555

อย่างไรก็ตามประชาชนที่ไม่สามารถทำธุรกรรมดังกล่าวระบุว่าในช่วงเวลานั้น เนื่องจากกรมสรรพสามิตแจ้งขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งผู้ซื้อรถก็ส่งมอบเอกสารให้ จนนำไปสู่การแจ้งผลว่ามีการอนุมัติและส่งมอบเช็คให้

โดยหากสตง. สรุปผลว่า ประชาชนผู้ขอใช้สิทธิ์กว่า 1 แสนรายทำผิดเงื่อนไข ไม่ควรได้รับสิทธิ์รถยนต์คันแรก ดังนั้นประชาชนกลุ่มที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบจาก สตง. จะต้องนำเงินลดภาษี มาคืนให้กรมสรรพสามิตทั้งหมด เบื้องต้นสรรพสามิตคืนส่วนต่างภาษีให้ผู้ซื้อในโครงการคันละ 30,000 – 100,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน