เปิดตัวสร้างกระแสกันไป สำหรับรถยนต์รุ่นพิเศษของค่ายซูม ซูม มาสด้า ภายใต้ชื่อ Carbon Edition ที่นำรถยนต์รุ่นฮิตตัวท็อป มาแต่งแต้มสีสันให้สดใส และมีความเฉพาะตัวยิ่งขึ้น

โดยนำมาปรับโฉมทั้งหมด 4 รุ่น มาสด้า 2 มาสด้า 3 มาสด้า CX-3 และ มาสด้า CX-30 ที่แต่ละรุ่นมี รายละเอียดแตกต่างกันไปตาม คาแร็กเตอร์แต่ละคัน

เดิมทีมงานมาสด้าตั้งใจทดสอบรถรุ่นนี้กันตั้งแต่ปลายปี ที่แล้วตอนเปิดตัวใหม่ๆ แต่ด้วยต้องเร่ง ส่งมอบให้ลูกค้าก่อนเป็นหลัก ทำให้ไม่มีรถในการทดสอบ

จนล่าสุดพอมีรถทดสอบ อุทัย เรืองศักดิ์ ผู้อำนวยการส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ไม่รอช้า จัดทริปกันในบัดดล

นัดเจอกันแต่เช้าย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา จุดหมายปลายทางไปจ.ชลบุรี ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้ทดสอบ มาสด้า CX-30 ครอสโอเวอร์ตัวจี๊ด ที่ใครเห็นเป็นต้องเหลียวมามอง

ยิ่งได้สีเทา แมชชีน เกรย์ และ เทา โพลีเมทัล เกรย์ หรือที่นักเลงรถทั่วไปเรียกว่า สีเทานม ขับเน้นความโดดเด่น ให้เจิดจรัส อยู่บนท้องถนนยิ่งขึ้น

เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยกรอบกระจกมองข้างสีดำ ล้ออัลลอยสีดำ ขนาด 18 นิ้ว เบาะนั่งหุ้มหนังสีแดง คอนโซลหน้า แผงประตูข้าง บุหนังสีดำ เดินด้ายแดง

ช่วงแรกให้เพื่อนร่วมคันเป็นผู้ทดสอบไปก่อน เพราะต้องการสัมผัสอารมณ์ผู้โดยสารที่เบาะหลัง ซึ่งปกติน้อยครั้งนักที่จะได้ มีโอกาสเช่นนี้

เบาะนั่งหนังนุ่มแน่น โอบกระชับ รองรับหลังและต้นขาได้เป็นอย่างดี

แต่รู้สึกแคบอยู่สักหน่อย ด้วยเพราะเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ขนาดใหญ่ กับพื้นที่วางขามีมาให้พอประมาณ ดีว่าพื้นที่เหนือศีรษะค่อนข้างสูง ลดความอึดอัดลงไปได้มาก

กลางพนักพิงหลังดึงลงมาเป็นที่เท้าแขน พร้อมที่วางแก้ว 2 จุด ช่องแอร์ขนาดเล็กท้ายคอลโซลกลาง ที่เสียบชาร์จไฟ มีแบบ USB ให้ที่ใต้คอนโซลหน้า และในช่องเก็บของในคอนโซลกลาง เอาจริงใช้งานยากนิดหนึ่ง เมื่อเทียบกับไว้ที่ด้านท้าย แต่อย่างไรเสียก็ดีกว่าไม่มี

เครื่องเสียง Bose กระหึ่มเสียงรอบทิศทาง ด้วยลำโพง 12 ตำแหน่ง แม้จะนั่งอยู่เบาะหลัง เสียงที่ได้ยินชัดเจนและมีมิติ

ช่วงล่างของมาสด้า CX-30 ให้ความรู้สึกหนึบแน่น ไม่มีอาการหวิวให้รู้สึกแม้จะอยู่บนย่านความเร็วสูง

ส่วนช่วงเปลี่ยนเลนกะทันหันและเข้าโค้งรับรู้แรงเหวี่ยงเล็กๆ ถือว่าค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับบุคลิกรถ ช่วยลดอาการเมารถไปได้มาก เป็นผลมาจากระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่ G-VECTORING CONTROL PLUS (GVC PLUS)

ได้เวลาทดสอบ ตัวรถที่สูงเล็กน้อยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ให้มองเห็นข้างหน้าได้ไกลขึ้น เลือกขับขี่ไปในเลนที่เหมาะสม

กำลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร SKYACTIV-G เรียกกำลังมาใช้งานได้ตั้งแต่ออกตัว ด้วย กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด นำพาตัวรถไหลลื่นต่อเนื่อง

แต่ถ้าอยากสนุก หรือต้องการเชนจ์เกียร์ มีโหมดเกียร์ธรรมดา เลือกดันบวก-ลบได้ตามต้องการ

การเก็บเสียงในห้องโดยสารทำได้ดี มีเพียง เสียงกระหึ่มท่อไอเสียที่แทรกเข้ามาเท่านั้น เมื่อกดคันเร่งหนักๆ และเป็นเสียงที่ทุ้มน่าฟังราวกับรถสปอร์ตชั้นดี

ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี มีช่วงว่างให้ทำ ความเร็ว จัดเสียเลย จาก 120 ก.ม.ต่อช.ม. ไป 140-150 ก.ม.ต่อช.ม. ทำได้ทันใจ วันนั้นจัดไป 160 ก.ม.ต่อช.ม.

ลงทางด่วนมาเจอเพื่อนร่วมทางเต็มพื้นที่ อาศัยความคล่องตัวจากรูปร่างค่อนข้างกะทัดรัด ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ที่เรียกกำลังมาใช้งานได้ทันใจ ทำให้หลบหลีกซ้าย-ขวาได้อย่างสบายมือ ลดความเครียดลงไปได้อย่างมาก

ราคาค่าตัวของ มาสด้า CX-30 Carbon Edition อยู่ที่ 1.211 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติตัวท็อป 15,000 บาท เมื่อเทียบกับของที่ใส่มาแล้วค่อนข้างคุ้มค่าคุ้มราคาอยู่พอตัว แต่จะชอบบุคลิกการขับหรือไม่ต้องไปทดลองขับกันดูที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน