เผลอแป๊บเดียว วันนี้ค่ายรถยนต์สายเลือดจากแดนผู้ดี ‘MG’ ที่วันนี้อยู่ในอุ้งมือมังกร เข้ามาเป็นตัวเลือกที่หลากหลายให้กับนักเลงรถบ้านเราครบ 10 ปีเข้าไปแล้ว

วันก่อนมีโอกาสได้เจอหน้าผู้บริหารหนุ่ม พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการ ผู้จัดการ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ไม่พลาดที่จะสอบถามแนวทางการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้ว่าจะไปในทิศทางใด

◆ ความสำเร็จ 10 ปี เอ็มจีประเทศไทย
ระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสร้างแบรนด์ พร้อมกับความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าคนไทย แน่นอนว่ารถยนต์จากประเทศจีนอาจต้องใช้เวลาอยู่บ้าง ซึ่งเป็นปกติของผู้เล่นหน้าใหม่ เน้นให้เห็นถึงความคุ้มค่ากับการใช้งาน อีกทั้งเป็นค่ายรถยนต์ที่มีความหลากหลาย ครบทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่รถเก๋ง รถอเนกประสงค์ ไปจนถึงรถปิกอัพ

รวมถึงมีทางเลือกในการเลือกใช้พลังงาน ไม่ว่าจะเครื่องยนต์สันดาปภายใน ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือไฟฟ้า 100% มีความตั้งใจจริงในการทำตลาดอย่างยั่งยืนในระยะยาว สร้างเครือข่ายโชว์รูม และศูนย์บริการ 161 แห่ง เป้าหมายภายในปีนี้มีให้ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล เมื่อต้องเข้าใช้บริการเช็กระยะหรือซ่อมบำรุง

“วันนี้ลูกค้าคนไทยเปิดใจรับแบรนด์ MG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีรถยนต์ MG วิ่งอยู่บนถนนเมืองไทยแล้วกว่า 160,000 คัน ถือได้ว่าทำได้ดี และน่าพอใจค่อนข้างมาก”

◆ ผลงานปีที่แล้ว
สถานการณ์ปี 2565 ที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ทุกรายติดปัญหาไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตามความต้องการของลูกค้า เนื่องจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ แน่นอนว่า MG ประเทศไทยได้รับผลกระทบนี้เช่นเดียวกัน แต่ยังสามารถสร้างยอดขายได้ที่ 28,000 คัน อยู่อันดับ 7 ของตลาดรวม

หากไม่ติดปัญหาเรื่องการผลิตแล้ว ประเมินว่ายอดขายอาจขึ้นไปได้ถึง 35,000 คัน เพราะยอดจองมีเข้ามาค่อนข้างมาก โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เดิมก่อนหน้านี้ บริษัทแม่ที่ประเทศจีนส่งเข้ามาได้ 700-800 คันต่อเดือน เพียงพอกับยอดจอง อาจมีค้างส่งมอบบ้างเล็กน้อย แต่ลดลงเหลือเพียง 300-400 คันต่อเดือน ทำให้เมื่อปีที่แล้ว MG ประเทศไทยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้เพียง 4,000 คันเท่านั้น

◆ ปีนี้สถานการณ์ดีขึ้น
ยังต้องเฝ้าจับตาเรื่องเซมิคอนดักเตอร์อย่างใกล้ชิด แม้ดูเหมือนจะเริ่มคลี่คลายบ้างแล้ว อีกทั้งมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ทั้งความขัดแย้งระหว่างประเทศ และการที่สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ แต่ทั้งนี้มองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวมากขึ้นจากภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตเร็วมาก การลงทุนของหน่วยงานรัฐบาล และเอกชน รวมถึงมีการเลือกตั้ง ซึ่งทำให้มีเงินสะพัดมากขึ้น

ประเมินยอดขายตลาดรวมรถยนต์ปีนี้อยู่ที่ 900,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำไว้ได้ประมาณ 850,000 คัน

สำหรับ MG ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 40,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% จำนวน 10,000 คัน เพราะบริษัทแม่ยืนยันแล้วว่าสามารถส่งรถได้มากกว่า 1,000 คันต่อเดือน ที่เหลือ 30,000 คันเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน ไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด

พร้อมทั้งมุ่งหวังที่จะขึ้นไปอยู่ในท็อป 5 ของตลาดรวม โดยเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งแบบไฟฟ้า 100% และเครื่องยนต์โมเดล เชนจ์ 1 รุ่น และบิ๊ก ไมเนอร์ เชนจ์อีก 1 รุ่น มั่นใจว่าจะเข้ามาสร้างสีสัน และกระตุ้นความต้องการเพิ่มขึ้น

◆ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคึกคักมาก
มีแบรนด์ใหม่เข้ามา ทำให้ตลาดมีสีสันและคึกคัก ประเมินว่าปีนี้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ที่ 40,000 คัน เพิ่มขึ้นสูงมาก แต่เมื่อเทียบกับตลาดรวมแล้วมีสัดส่วนไม่ถึง 5% เป็นช่วงทดลอง และเรียนรู้การใช้งานของลูกค้ากลุ่มที่ชื่นชอบเทคโนโลยี

แต่ตลาดส่วนใหญ่ยังคงเป็นรถยนต์ ที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะรถปิกอัพที่มองว่าการใช้พลังงานไฟฟ้ายังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกล เนื่องจากเงื่อนไขเรื่องของน้ำหนักบรรทุกและระยะทาง หากต้องการให้เดินทางได้ไกล แบตเตอรี่ต้องมีขนาดใหญ่ ราคาจำหน่ายจะสูงมาก อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการและใช้งานได้อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน