บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จของ ‘ฮอนด้า เอชอาร์-วี’ ที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Global Model ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงกว่า 1.5 ล้านคัน (ธันวาคม 2556 – ธันวาคม 2560) นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคม 2556

ส่วนในประเทศไทยได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ส่งผลให้ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดในตลาดเอสยูวี 3 ปีซ้อน ด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงกว่า 62,000 คัน ถือเป็นผู้เปิดตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์ระดับคอมแพคท์เซ็กเมนต์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 80% หรือคิดเป็น 29% ของตลาดรถยนต์เอสยูวีรวมในปี 2560 รวมทั้งคว้ารางวัลยนตรกรรมยอดเยี่ยมในไทยได้ถึง 10 รางวัล จาก 6 สถาบันชั้นนำ ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นยนตรกรรมสปอร์ตครอสโอเวอร์ที่ลงตัวในทุกมิติ ด้วยดีไซน์ภายนอกสไตล์สปอร์ต ผสานกับพื้นที่ภายในกว้างขวาง สะดวกสบายเหนือระดับ และมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานในระดับพรีเมียม อีกทั้งยังมีสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังและเร้าใจในสไตล์สปอร์ต ตลอดจนผสานมาตรฐานความปลอดภัยที่ล้ำสมัยและครบครัน ฮอนด้า เอชอาร์-วี จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวและเติมเต็มความต้องการของลูกค้าจากหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ของรถยนต์ในระดับคอมแพคท์เซ็กเมนต์

พิทักษ์ พฤทธิสาริกร

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่การเปิดตัว ฮอนด้า ซีอาร์-วี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2539 จนประสบความสำเร็จในการเข้ามาสร้างตลาดรถยนต์เอสยูวีในระดับบน ทำให้ความต้องการรถเอสยูวีเพิ่มมากขึ้น และกระจายไปสู่ลูกค้าทุกกลุ่ม ฮอนด้า จึงเปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี เติมเต็มตลาดรถยนต์เอสยูวีในระดับคอมแพคท์เซ็กเมนต์ จากนั้นจึงเปิดตัว ฮอนด้าบีอาร์-วี ในปี 2559 เติมเต็มความต้องการรถเอสยูวีในระดับซับคอมแพคท์ ส่งผลให้ไลน์ผลิตภัณฑ์รถเอสยูวีของฮอนด้าครอบคลุมทุกระดับของตลาด ส่งผลให้ฮอนด้าเป็นผู้นำตลาดรถเอสยูวีด้วยส่วนแบ่งการตลาดรวมสูงถึง 63% ในปี 2560 ที่ผ่านมา

“ฮอนด้าขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นในยนตรกรรมเอสยูวีของฮอนด้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยฮอนด้าจะยังคงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีการขับขี่ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิตและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า รวมทั้งสร้างสังคมแห่งความสุข สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นองค์กรที่สังคมต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป”นายพิทักษ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน