“Audi Road to Korat” กิจกรรมพิเศษที่ค่าย‘อาวดี้’ จัดทริปพานักข่าว นักทดสอบ และอินฟูลฯ ราวๆ 80 คน เดินทางไปร่วมเปิดโชว์รูมอาวดี้ นครราชสีมา โดยขนรถทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยมาให้ทดสอบแบบจุใจ
ขาไปเดินทางเป็นคาราวานแบ่งเป็นกรุ๊ปๆ รวม 4 กรุ๊ป ส่วนขากลับวิ่งแบบฟรีรัน ต่างคนต่างไป อยากแวะไหนก็แล้วแต่สะดวก แต่ละคันนั่ง 2 คนเพื่อสลับมือกับขับ เพราะระยะทางไป-กลับรวมกว่า 600 ก.ม.
นัดเจอกันแต่เช้าที่ร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ สาขาคริสตัล พาร์ค ล้อหมุนในช่วง 10.00 น. มีคุณกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย ร่วมต้อนรับและดูแลตลอดการเดินทาง
ผมกับเพื่อนร่วมรถได้เอสยูวีตัวกลั่น“Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition” วางตัวไว้เป็นคันสุดท้ายของกรุ๊ป 4 ซึ่งกรุ๊ปนี้อีก 9 คันที่เหลือมีแต่เก๋งสปอร์ตตัวแรงตระกูล“RS” กันเสียส่วนใหญ่
ไม่รู้ว่าด้วยหน้าตาและประสบการณ์ด้านอายุเยอะเกินไปหรือเปล่า จึงได้รุ่นนี้เพราะเน้นขับสบาย และนุ่มนวลกว่ารถสปอร์ต ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วยตัวรถที่กว้างใหญ่ บวกกับช่วงล่างนุ่มนวล และเสถียรในย่านความเร็วสูง
ขุมพลังยิ่งหายห่วงเป็นปลั๊กอินไฮบริดครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ ขนาด 2,995 ซีซี ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อผสานการทำงานกันให้พละกำลัง 462 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 5.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แบตเตอรี่ลิเธียม-อิออนแรงดันสูงมีความจุ 17.9 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จได้สูงสุดถึง 7.4 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายใน 2.5 ชั่วโมง สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้มากกว่า 40 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ที่ความเร็วกว่า 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง
การออกแบบแบตเตอรี่แยกโมดูล ทำให้หากกิดปัญหาสามารถเปลี่ยนอะไหล่และแบตเตอรี่แยกย่อยเป็นแต่ละโมดูลได้ ทำให้ค่าบำรุงรักษาเมื่อแบตเตอรี่หมดระยะรับประกันจะต่ำลง ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริด e-tron mode
EV (electric driving) ซึ่งเป็นโหมดที่รถจะขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า 100% Auto Hybrid (intelligent use of battery charge) มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์จะทำงานร่วมกันอัตโนมัติ ระบบนี้ยังทำงานควบคู่กับระบบ Predictive Operating Strategy (POS) ที่จะประเมินการขับขี่ว่าเป็นการใช้ในเมืองที่มีรถติด หรือในเมืองที่รถเคลื่อนตัวได้ดี หรือการวิ่งนอกเมือง เพื่อจะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม
Battery Hold (maintain battery charge) เหมาะสำหรับการเดินทางจากนอกเมืองเพื่อเข้าในเมือง โดยรถยนต์จะใช้งานเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อน เพื่อรักษาระดับประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ให้สูงคงที่เท่าเดิม เพื่อจะเก็บพลังงานจากแบตเตอรี่เอาไว้ใช้ในขณะเข้าเมืองให้วิ่งได้ไกลที่สุดเท่าที่จะไปได้
Battery Charge (increase battery charge) รถยนต์จะใช้งานเครื่องยนต์และระบบนำพลังงานกลับมาใช้ (Recuperation) เพื่อที่จะพยายามชาร์จแบตเตอรี่แรงดันสูงให้เพิ่มมากขึ้น
“Audi Q7 60 TFSI e quattro S line Black Edition” ราคา 4,899,000 บาท
ใช้เส้นทางพิเศษกาญจนาภิเษก มุ่งสู่วงแหวนรอบนอก ไปลงพหลโยธิน มุ่งสูงจุดหมายแรกที่ร้านมิดวินเทอร์ เขาใหญ่ ช่วงนี้ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ท่ามกลางการจราจรติดขัดบ้างเล็กน้อย คิว7 เป็นรถที่นั่งสบาย ภายในโอ่โถง ตกแต่งเป็นแบบ S line Interior พวงมาลัยท้ายตัดพร้อมเบาะนั่งพร้อมตราสัญลักษณ์ S line มี Paddle shift เปลี่ยนเยร์ที่พวงมาลัยด้วย
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบ MMI Navigation plus พร้อม MMI touch ขนาด 10.1 นิ้ว และจอควบคุม multi-function แบบสัมผัส เครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3 โซน ด้านหน้า 2 และช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังอีก 1 โซน
เบาะนั่งโอบกระชับได้ดี การเหวี่ยงตัวของรถน้อยมาก ในยามต้องเปลี่ยนเลนแรงๆ และเร็วๆ ตอนเร่งแซง เพื่อตามเกาะขบวนรถ รวมถึงแซงรถช้าวิ่งขวา ที่เจอเป็นระยะๆ ซึ่งจุดนี้น่าตกใจกับพฤติกรรม แปะป้ายไวนิลติดไว้ท้ายรถ เขียนข้อความทำนองว่าไม่สะดวกในการขับเลนอื่นเพราะบรรทุกของ หรือ บลาๆๆๆ พอติดป้ายนี้แล้ว จึงเป็นเหตุผลอันชอบธรรม ให้รถเหล่านี้วิ่งเลนขวาสุดด้วยความเร็วไม่เกิน 60-70 ก.ม./ชั่วโมง
หลังแวะจุดแรกเรียบร้อย มุ่งหน้าเมืองโคราชระหว่างทางแว๊บเข้าไปในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เพื่อขับผ่านอุโมงค์ต้นจามจุรีที่ทอดยาวและโค้งไปตามถนนกว่า 500 เมตร ก่อนตรงไปโชว์รูม อาวดี้ โคราช ศูนย์บริการครบวงจร สาขาที่ 8 ตั้งอยู่เลขที่ 8 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา
คุณกฤษณะกร บอกถึงการเลือกโคราชเปิดโชว์รูปอันดับ 8 ของอาวดี้ เพราะเป็นประตูสู่ภาคอีสาน เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญที่มีความพร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก การคมนาคม สาธารณูปโภค อาวดี้ โคราช อยู่ในแผนการขยายธุรกิจ เพิ่มจำนวนโชว์รูมให้ครบ 9 สาขา ทั่วประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2566 เพื่อเตรียมความพร้อมไปสู่เป้าหมายยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้”
ขณะที่นายจิรัชยุติ์ อัมยงค์ กรรมการบริหาร อาวดี้ โคราช (บริษัท เอเค 18 จำกัด) บอกถึงจุดเด่นของโชว์รูมนี้ว่าใช้งบลงทุนกว่า 250 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยกว่า 1,500 ตารางเมตร จัดแสดงรถในโชว์รูมได้มากถึง 9 คัน รองรับการบริการลูกค้าทั้งการขายและบริการหลังการขาย ศูนย์บริการมีจำนวน 5 ช่องซ่อม ที่พร้อมต่อขยายเพิ่มอีกกว่า 10 ช่องซ่อม รองรับลูกค้าได้กว่า 250 คัน/เดือน และอนาคตมีแผนขยายเพิ่มเพื่อรองรับได้กว่า 700 คัน/เดือน ดูแลลูกค้าในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง ครอบคลุมจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์
ช่วงค่ำมีงานเปิดตัวรถรุ่นพิเศษ“RS Q3 Sportback edition 10 years” หน้าตาภายนอกสวยสง่า มาในเฉดสีใหม่ สีเทา Chronos Grey กระจังหน้าขนาดใหญ่มาพร้อมกับชุดแต่ง Black edition รอบคันคู่กับ RS Sports exhaust ไฟหน้าแบบ Matrix LED ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ มีไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟ Projector LED ที่ประตูคู่หน้าลาย Rhombus ส่องลงพื้นเวลาเปิดประตู ดูเท่ไปอีกแบบ ล้อลวดลายใหม่ขนาด 21 นิ้ว สำหรับ edition 10 years คาลิปเปอร์เบรกสี Anthracite grey ระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports
ภายในเน้นไปในแนว Motorsport ตกแต่งห้องโดยสารภายในลาย Carbon เบาะคู่หน้าไม่ต่างจากรถแข่งแบบ RS Bucket Seat ตกแต่งแบบ honeycomb เดินด้ายสี copper เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Fine Nappa และ Dinamica microfibe หลังเบาะตกแต่งด้วย matte carbon
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara ตกแต่งด้วยด้ายสี copper พร้อมสัญลักษณ์ RS มีปุ่ม Paddle shift ไว้เปลี่ยนเกียร์อยู่ด้านหลังพวงมาลัย คันเกียร์หุ้มหนัง Alcantara สีดำ พร้อมตกแต่งด้วยด้ายสี copper ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน หลังคาพาโนรามิคเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเครื่องเสียงพรีเมียม SONOS พร้อมระบบเสียง 3 มิติ กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ
ขุมพลังเครื่องยนต์ 5 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ชั่วโมง เพียง 4.5 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro เอกลักษณ์ของค่ายอาวดี้ ช่วงล่างแบบ RS Sports รองรับทุกย่านความเร็ว
“RS Q3 Sportback edition 10 years” ราคา 5,299,000 บาท
เช้ารุ่งขึ้นจากโรงแรมเซ็นทารา โคราช มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯ ยังใช้รถคันเดิม ช่วงครึ่งแรกเพื่อนร่วมทางรับหน้าที่สารถี ผมนั่งคู่ตอนหน้าช่วงแวะจอดมีโอกาสเข้าไปนั่งด้านหลัง สบายมากสามารถปรับพนักและเลื่อนเบาะเข้า-ออก เพิ่มพื้นที่วางเท้า หรือเพิ่มพื้นที่บรรทุกด้านหลัง รวมทั้งสามารถแบ่งพับราบแบบ 40-20-40 ที่ว่างด้านหลังจุสัมภาระถึง 650 ลิตร มากที่สุดในรถขนาดเดียวกัน
มาถึงกลางทางช่วงเลยเขาใหญ่เล็กน้อย สลับมือกันขับ อัตราเร่งยังทรงพลัง กดชู๊ตเพื่อทำความเร็วจังหวะเร่งแซง วิ่งฉิวไม่ต่างจากรถสปอร์ตชั้นดี กลับถึงจุดหมายคริสตัล พาร์ค โดยสวัสดิภาพก่อนแยกย้ายเหลือไว้เพียงความทรงจำ และความประทับใจสนุกๆ กับทริป“Audi Road to Korat”
สันติ จิรพรพนิต….เรื่อง
