เข้ามาเติมไลน์อัพ ทำให้ค่ายรถจากแดนมะกัน ฟอร์ดประเทศไทย มีสินค้าสดใหม่ กระตุ้นตลาด กับเจ้าฟอร์ดเรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร ดีเซล V6 ตัวแรงที่มาตอบสนอง นักเลงรถปิกอัพขาลุยไว้เป็นทางเลือก
และเพื่อให้รับรู้ว่าแรงแค่ไหน แจ้งไปยังผู้บริหารสาว กมลชนก ประเสริฐสม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย และตลาดอาเซียน ว่า “ข่าวสด ยานยนต์” ต้องการนำมาทดสอบ ได้รับคำตอบให้เข้าไปรับได้ทันที
นัดรับรถกันที่ศูนย์ฝึกอบรมฟอร์ด ย่านบางนา ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร ดีเซล V6 สีเหลือง Luxe Yellow ขับเคลื่อนสี่ล้อ แบบ 4 ประตู จอดรอโดดเด่นอยู่แล้ว ดูผาดๆ แล้วอาจจะว่าไม่ต่างจากรุ่นอื่นของฟอร์ดสักเท่าใด แต่ถ้าลงรายละเอียดแล้วมีปรับเปลี่ยนไปอยู่ไม่น้อย
ภายนอกไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED รูปตัว C ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบแอลอีดี
ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ กระจังหน้าแบบ Wildtrak สปอร์ตบาร์ และราวหลังคา ฝาท้ายแบบผ่อนแรง Easy Lift ที่เหยียบขึ้นกระบะที่บริเวณด้านท้ายอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้การขึ้นลงกระบะง่ายขึ้น
ภายในตกแต่งตามแบบฉบับไวลด์แทรค เดินด้ายสีส้มสีเดียวกับสีภายนอก พวงมาลัย มัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งด่านหน้าทั้งฝั่งคนขับ และผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ที่ชาร์จ USB 4 จุด โดย 1 จุดอยู่บริเวณกระจกมองหลัง ทำให้การติดกล้องบันทึกด้านหน้า ไม่ยุ่งยาก หรือมีสายระโยงระยางอีกต่อไป และยังมีแท่นชาร์จไร้สายให้อีก 1 จุด
หน้าจอแสดงผลแบบสีขนาด 8 นิ้ว มองเห็นชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น มีขนาดใหญ่ไม่ต้องเพ่งเหมือนแต่ก่อน เสียดายอย่างเดียวไม่มีข้อมูลเวลาเพราะไปอยู่ซ้ายสุดบนหน้าจอกลางซึ่งไกล แถมกลางวันสะท้อนจนแทบมองไม่เห็น
หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว เชื่อมต่อบลูทูธ แอปเปิ้ล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต แบบไร้สาย สั่งงานได้ด้วยเสียง SYNC 4A สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น
พร้อมออกเดินทาง ถ.บางนา เป็นที่รู้กันว่าคลาคล่ำไปด้วย รถใหญ่ไม่ว่าจะหกล้อ สิบล้อ ไปจนถึงรถพ่วงคอนเทนเนอร์ แม้เจ้า ฟอร์ดเรนเจอร์ ไวลด์แทรค 3.0 ลิตร ดีเซล V6 จะมี รูปร่าง ใหญ่โต แต่ก็ยังสามารถหลบหลีกเพื่อนร่วมทางได้อย่างสบายมือ
ด้วยความสูงที่ช่วยให้มองเห็นเหตุการณ์ได้แต่ไกล ประเมินสถานการณ์ได้ว่าควรอยู่เลนไหนถึงจะปลอดภัย ที่สำคัญกำลังจากเครื่องยนต์ 3.0 ดีเซล เทอร์โบ V6 ที่ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร
เรียกกำลังมาใช้งานได้อย่างทันอกทันใจ ชนิดมีเผลอกดคันเร่งหนักไปหน่อย หลังติดเบาะเอาง่ายๆ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ทำงานได้อย่างไหลลื่น ทั้งจังหวะออกตัวและเร่งแซง
ขับมาสักพักใหญ่เพิ่งสังเกตได้ว่าเสียงเครื่องยนต์เงียบมาก เงียบชนิดที่คิดว่ากำลังขับรถเครื่องยนต์เบนซิน รวมถึงเสียงอื่นๆ ที่แทรกเข้ามาในห้องโดยสารมีน้อยมาก ไม่ว่าจะใช้งานในเมือง หรือขับทางไกลนอกเมือง เอาเป็นว่ากว่าจะได้ยินเสียงลมปะทะผ่านจุดปราบเซียน 120 ก.ม.ต่อช.ม.ไปแล้วพอสมควร
วิ่งออกนอกเมืองถ.มอเตอร์เวย์ ไม่รอช้าเพิ่มน้ำหนักเท้า หาความเร็วปลาย เข็มไมล์ไต่ระดับขึ้นไปแบบไม่มีเหนื่อยไม่มีท้อ 120-130-140 ก.ม.ต่อช.ม. ช่วงล่างยังนิ่งกริบ พวงมาลัยค่อนข้างคม ไม่ว่าจะเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้ง
วันนั้นจัดไปร่วมๆ 180 ก.ม.ต่อช.ม. แน่นอนว่าเครื่องยนต์ใหญ่ขนาดนี้มีให้ไปต่อได้อีก แต่วันนั้นถนนมีให้วิ่งได้เท่านี้ ช่วงล่างหลังจากความเร็วเกิน 160 ก.ม.ต่อช.ม. รู้สึกได้ถึงอาการลอยๆ อยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับเสียอาการหรือเอาไม่อยู่
ช่วงล่างแม้จะใช้คำว่านุ่มนวลไม่ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับกระด้างจนกระโดดกระเด้งจนหัวสั่นหัวคลอน อาจด้วยเพราะไม่มีน้ำหนักบรรทุกที่กระบะ แถมยังขับคนเดียว
ขับกันอยู่ดีๆ จากฟ้าใสแจ่มแจ้งกลายเป็นมืดครึ้ม พร้อมกับสายฝน เลือกโหมดการขับขี่ไปที่โหมดถนนลื่น ที่อยู่ในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีให้เลือกทั้งหมด 6 โหมด ด้วยการใช้มือซ้ายหมุนปุ่มตรงคอนโซลกลางได้ง่ายๆ รู้สึกได้ถึงตัวรถที่กระชับหนักแน่นมากขึ้น
ไม่รู้สึกถึงการลื่นไถลทั้งจังหวะทำความเร็วหรือเบรกหนัก รวมถึงทำความเร็วผ่านแอ่งน้ำก็ไม่มีอาการเหินน้ำให้ได้เห็น ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เป็นอย่างมาก
ระบบความปลอดภัยของเจ้าฟอร์ดเรนเจอร์ ไวลด์แทรค3.0 ลิตร ดีเซล V6 มีมาให้ไว้เต็มคัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนออกนอกเลนด้วยการสั่นเบาๆ ที่พวงมาลัย ระบบเตือนการชนด้านหน้าซึ่งทำงานอย่างรวดเร็ว เพราะมีหลายครั้งที่มีมอเตอร์ไซค์ออกจากซอยแบบพรวดพราด ระบบส่งเสียงแจ้งเตือนในทันที แม้จะอยู่ห่างพอสมควร
สุดท้ายก่อนส่งคืนรถให้กับทีมงานฟอร์ด ดูข้อมูลที่หน้าจอครั้งนี้ทดสอบกันไป 434.2 ก.ม. น้ำมันในถังยังเหลือให้วิ่งได้อีก 301 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 9.2 ก.ม.ต่อลิตร ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ กับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ให้กำลังเยอะ
ใครที่กำลังมองหารถปิกอัพ 4 ประตู ที่แรง หรู พร้อมลุย ว่าจะโดนใจกับค่าตัวเริ่มต้น 1.519 ล้านบาทหรือไม่ แวะไปทดลองขับกันได้ที่โชว์รูม ฟอร์ด ทั่วประเทศ
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ