หลังจากปล่อยให้สาวกปิกอัพพันธุ์ดุ‘ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์’ ลุ้นมานานว่าราคาเท่าใดกันแน่ ล่าสุดฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศราคาขายแล้วที่ 1,699,000 บาท และรับจองในงานมอเตอร์โชว์ 2018

ยุคนธร วิเศษโกสิน

นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน และกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ฟอร์ดรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ต่อยอดความสำเร็จของรถกระบะสายพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ ทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค ด้วยสุดยอดรถกระบะเปี่ยมสมรรถนะอย่าง ‘เรนเจอร์ แร็พเตอร์’ ซึ่งได้ผสานเอกลักษณ์ ‘เกิดมาแกร่ง’ ของฟอร์ด เรนเจอร์ รถกระบะยอดนิยม เข้ากับดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการรถกระบะออฟโรด

ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ออกแบบภายนอกและภายในสะท้อนประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างโดดเด่น ด้วยการเลือกใช้สีสันที่ผสานกันอย่างลงตัว มิติต่างๆ ของรถที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้น รวมถึงการเลือกสรรวัสดุที่คงทนและเหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดและการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ HID ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED บันไดข้างรถผลิตจากอะลูมิเนียมอัลลอย ชุดกันชนด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดความเร็วสูง ล้อขนาด 17 นิ้ว และยาง All-Terrain BF Goodrich KO2 285/70 R17

นอกจากนี้ โลโก้ฟอร์ดอันสะดุดตา สะกดด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ภาษาอังกฤษอันเป็นเอกลักษณ์ที่จัดวางอยู่บนกระจังหน้าอย่างองอาจ ช่วยเน้นรูปลักษณ์ของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ ให้ดูดุดันยิ่งขึ้น มาพร้อมกับแผงกันกระแทกด้านล่างอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยปกป้องห้องเครื่องจากการกระแทกเมื่อมีการขับขี่แบบออฟโรด แผงกันกระแทกนี้ผลิตจากเหล็กกล้า (High-strength steel) ที่มีความหนา 2.3 มิลลิเมตร และมีความทนทานสูงตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance)

 

ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด มอบพละกำลังในการขับขี่ได้สูงสุดถึง 213 แรงม้า และแรงบิดที่มากถึง 500 นิวตันเมตร มาพร้อมโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox Racing Shox ที่มาพร้อมระบบบายพาสภายใน (Internal Bypass) และระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่ รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และคอยล์โอเวอร์ช็อค มอบสมรรถนะและความสามารถในการขับขี่ออฟโรดขั้นสุด พร้อมการทรงตัวที่ดีเยี่ยม

อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย รวมถึงระบบ Terrain Management System (TMS) สำหรับการขับขี่ทั้งหมด 6 รูปแบบ เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่อันเหนือชั้นซึ่งรวมถึงโหมดบาฮาที่พร้อมรับกับการขับขี่ออฟโรดสุดเร้าใจ

 

ยังมีเทคโนโลยีอันชาญฉลาดและคุณสมบัติอันโดดเด่นอื่นๆ อาทิ เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 3 (SYNC 3) บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธและ Wi-Fi ระบบแผนที่นำทางแบบสามมิติ (Navigation System) กุญแจรีโมทอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มาพร้อมสีภายนอกที่โดดเด่นสะดุดตาให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีฟ้าไลท์นิ่ง บลู (Lightning Blue) สีแดงเรซ เร้ด (Race Red) สีดำแชโดว์ แบล็ค (Shadow Black) สีขาวโฟรเซ่น ไวท์ (Frozen White) และสีพิเศษเฉพาะของเรนเจอร์ แร็พเตอร์ อย่างสีเทาคองเคอร์ เกรย์ (Conquer Grey)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน