หลาก&หลายรถยนต์ - ทดสอบยาง‘ฮันกุก’แดนกิมจิ นุ่มเงียบหนึบ-มีให้เลือกครบตรงรุ่น

แม้ค่ายยางรถยนต์สายเลือดกิมจิ ฮันกุก จะรุกตลาดบ้านเรามาพักใหญ่แล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมักจี่ กับนักเลงรถเมืองไทยสักเท่าไหร่

ทั้งๆ ที่เป็นยางรถยนต์มาตรฐาน ได้รับการติดตั้งในรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน ไม่เฉพาะค่ายเกาหลี แต่ได้ไปอยู่ทั้งรถยนต์ระดับพรีเมียม หรือแม้แต่ซูเปอร์คาร์

เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น กาฮูน คิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันกุก ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดให้มีการทดสอบสมรรถนะ ยางฮันกุก รุ่นใหม่

ที่นัยว่า พัฒนาขึ้นมารองรับรถอีวี และปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กันที่สนามแข่งรถพีระเซอร์กิต จ.ชลบุรี

กับรุ่น iON evo AS สำหรับรถยนต์นั่ง และ iON evo AS SUV สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ การันตีด้วยรางวัลการออกแบบระดับโลก reddot winner award 2023 (Vehicle accessories design) พร้อมกันนี้ยังไม่ลืมรถยนต์สันดาปภายใน เปิดตัวยางรุ่นใหม่ทั้ง Dynapro AT2 Xtreme, Dynapro HPX และ Ventus Prime4

ก่อนเริ่มทดสอบ แนะนำคุณสมบัติ และจุดเด่นของยางรุ่นใหม่กันพอหอมปากหอมคอ เริ่มที่ฮันกุก iON evo ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง จากส่วนผสมของเส้นใยอารามิด หนึ่งในวัสดุที่ใช้ทำเสื้อเกราะกันกระสุน เหมาะสมกับรถอีวี ที่มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ทั่วไปประมาณ 30%

ส่วนรุ่น Dynapro AT2 Xtreme มาพร้อมกับลายดอกยาง All Terrain (A/T) เหมาะทั้งขับทางเรียบ และทางลุย พัฒนาบล็อกแก้มยางให้มีความลึกสูง ดอกยาง และร่องหลายทิศทาง เพิ่มการยึดเกาะถนน ขอบบล็อกยางไล่ระดับเป็นเสมือนกำแพงกันเสียงสะท้อนออก ช่วยลดเสียงดังจากยาง และพื้นถนนไปได้อย่างมาก

และรุ่น Ventus Prime4 ยางรถยนต์ที่เน้นความนุ่ม เงียบ หยุดรถได้ดั่งใจ เหมาะการเดินทางในชีวิตประจำวัน

ทดสอบกันคันละ 2 รอบ ผ่านสถานีต่างๆ ตั้งแต่สลาลม หักพวงมาลัยหลบกรวยยางซ้าย-ขวา ต่อเนื่อง ดูสมรรถนะการยึดเกาะถนน การเปลี่ยนเลนกะทันหันบนถนนเปียก เพื่อให้เห็นถึงความปลอดภัย ทางตรงยาว เพื่อดูอัตราเร่ง รวมถึงระยะเบรกที่ว่าสั้นนั้นสั้นแค่ไหน

ขึ้นทดสอบคันแรก รถอีวีระดับหรู เทสล่า โมเดล Y มอเตอร์คู่ ตัวแรง ใส่ยางฮันกุก iON evo สถานีสลาลม ซ้าย-ขวา ความเร็วประมาณ 50 ก.ม.ต่อช.ม. ตัวรถมั่นคงไม่มีอาการโยนตัวให้รู้สึก ต่อกันที่สถานีเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือเลนเชนจ์ ที่มีทั้งถนนแห้ง และเปียก สามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ

จากนั้นลองขับทางตรงยาว ความเร็วเกือบ 100 ก.ม.ต่อช.ม. จากนั้นให้เบรกหนัก รู้สึกถึงระยะเบรกสั้นกว่าที่เคยจริงๆ

ต่อกันที่รถหรูจากญี่ปุ่น ฮอนด้า แอคคอร์ด 1.5 เทอร์โบ กับยางฮันกุก Ventus Prime4 ยางสำหรับรถเก๋งเล็ก และขนาดกลาง

สลาลม แม้จะไม่มีอาการเซไถลออก จากจังหวะเหวี่ยงตัวซ้าย-ขวา แต่ดูเหมือนต้องใช้สมาธิ ในการควบคุมรถมากขึ้นเล็กน้อย ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะรถคันที่ทดสอบใช้งานมาค่อนข้างหนัก

สถานีเลนเชนจ์ ควบคุมให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้ดั่งใจ ทางตรงยาว ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และไม่มีอาการสั่นไหว ส่วนการเบรกเต็มแรง สามารถหยุดรถได้อย่างรวดเร็ว

จากนั้นมาขึ้นขับฟอร์ด เอเวอเรสต์ รถอเนกประสงค์ 7 ที่ใส่ยางฮันกุก Dynapro AT2 Xtreme บอกเลยว่าเป็นรุ่นที่เซอร์ไพรส์สุด ในการทดสอบครั้งนี้

เพราะไม่ว่าจะความนุ่มเงียบ ที่นอกจากจะมากกว่าทั่วไปแล้ว ยังเหมือนจะเหนือกว่า 2 รุ่นที่ทดสอบไปก่อนหน้า ไม่ว่าจะทางตรงบนความเร็วสูง สลาลม เลนเชนจ์ ที่เสียงล้อบดถนนเข้ามาน้อย ถึงน้อยที่สุด ผิดวิสัยของล้อสไตล์ออฟโรดแบบ AT ที่เพื่อนร่วมทางได้ยินมาแต่ไกล

ขณะที่ความนุ่มมีทางขรุขระเล็กน้อย ช่วงที่ออกจากสนามเพื่อไปยังจุดสิ้นสุด รับรู้ได้ทันทีว่ายางรุ่นนี้ให้ความนุ่มนวล เพราะแม้ตั้งใจรูดบนความเร็วพอประมาณ แต่แรงสะท้อนขึ้นมาที่ตัวรถมีน้อยกว่าที่คิด ไม่มีอาการกระเด้งกระดอนให้ได้เห็นแม้แต่น้อย เรียกว่าเป็นอะไรที่เกินความคาดหมายไปค่อนข้างมาก

นักเลงรถที่เตรียมเปลี่ยนยางเส้นใหม่ หรือมองหายางที่มีสมรรถนะ ยางฮันกุก ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเมื่อเทียบราคากับประสิทธิภาพ ที่สำคัญมีให้เลือกตามความต้องการ และเหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ทุกประเภท หรือที่เรียกว่าตรงรุ่นได้อย่างแท้จริง

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ