เสิร์ฟร้อนๆ หลังเปิดตัวกันไม่ถึงสัปดาห์ กับ โตโยต้า คัมรี่ ใหม่ ด้วยความมั่นใจว่าโดยภาพรวม น่าจะโดนใจนักเลงรถเก๋งกลางได้ไม่น้อย
ทีมงานการตลาด และประชาสัมพันธ์ โตโยต้า ประเทศไทย จัดทริปทดสอบกันบนเส้นทางจากจ.ภูเก็ต ไปจ.กระบี่ ระยะทางรวมกว่า 250 ก.ม.
ถึง จ.ภูเก็ต กันแต่เช้า รับฟังข้อมูลตัวรถ พอหอมปากหอมคอ พร้อมออกเดินทาง
มีน้องนักทดสอบร่วมคันอีก 1 คน ตกลงกันว่าให้น้องเป็นคนขับก่อน ส่วน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ไปนั่งทดสอบที่เบาะหลัง
เบาะนั่งหนังนุ่มแน่น พื้นที่กว้างขวาง ทั้งเหนือศีรษะ และที่วางขา ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย แม้ตัวเบาะจะค่อนข้างจมอยู่บ้าง มีปุ่มด้านข้างเบาะหน้าเพื่อเลื่อนและพับ เปิดพื้นที่คนนั่งเบาะหลังให้โล่งยิ่งขึ้น พนักเบาะนั่งปรับเอนได้ 1 สเต็ป
ช่องแอร์ และที่เสียบชาร์จไฟอยู่ท้ายคอนโซลกลาง พนักวางแขนดึงออกจากพนักเบาะกลาง มีหน้าจอดิจิทัลเพื่อปรับเอนเบาะ เครื่องเสียง อุณหภูมิ และความแรงพัดลมแอร์
หลังคาพาโนรามิก รูฟ พร้อมม่านบังแดด เปิดกว้างถึงเบาะหลัง เปิดรับทัศนียภาพ หรือนำอากาศภายนอกเข้ามาในห้องโดยสาร
นั่งไปสักพัก สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของความเงียบในห้องโดยสาร เมื่อยามจอดนิ่งรถติด รถมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านด้านข้าง ยังได้ยินแค่ผิวๆ ขณะทำความเร็ว เสียงล้อบดถนน และเสียงลมมีเข้ามาน้อยมาก
ความนุ่มนวลมีมาให้พอประมาณ หากเทียบรุ่นก่อนหน้า อาจจะน้อยกว่า ด้วยเพราะวิศวกรโตโยต้า พัฒนาคัมรี่ใหม่ให้มีบุคลิกเป็นรถหรูกึ่งสปอร์ต ที่นั่งเบาะหลังสบาย หรือจะมาขับเองก็สนุก แรงเหวี่ยงจากการเข้าโค้งแรงๆ แทบไม่มีให้ได้รู้สึก
ถึงจุดเปลี่ยนคนขับ มีเวลาดูรถรอบคัน ดีไซน์ของเจ้าคัมรี่ใหม่ เน้นความสปอร์ต กระจังหน้าแบบปลาฉลามหัวค้อน ไฟหน้า LED โปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน เส้นสายด้านข้างไหลลื่น ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว ไฟท้าย LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว
ภายในห้องโดยสาร พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับขึ้น-ลง เข้า-ออก ไฟฟ้า แป้นควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย แพดเดิล ชิฟต์ กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้องอัตโนมัติ
จอแสดงข้อมูลสี ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า จอกลางระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ชาร์จสมาร์ตโฟนด้วยระบบไร้สาย
เข้านั่งตำแหน่งคนขับ ปรับตำแหน่งได้เร็ว และเป๊ะมาก ด้วยปุ่มปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ช่วงแรกที่รับไม้ต่อ เส้นทางคดโค้ง และไต่เนินชัน ใช้โหมดอีโค ดูเหมือนต้องเค้นกำลัง เมื่อขึ้นเนิน เลยเปลี่ยนเป็นโหมดนอร์มอล ขับได้ไหลลื่นขึ้นมาก
ขุมกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC และมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 227 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ไหลลื่นต่อเนื่อง
เข้าทางตรงยาวๆ ปรับเป็นโหมดสปอร์ต พวงมาลัยคมขึ้น รวมถึงกำลังที่เรียกมาใช้งานได้กระชับฉับไว ไต่ความเร็วได้ต่อเนื่อง 120-130 ก.ม.ต่อช.ม. ได้สบายๆ
ช่วงล่างในย่านนี้ยังให้ความรู้สึกหนึบแน่น แต่พอขึ้นไปถึง 160-170 ก.ม.ต่อช.ม. เริ่มมีอาการหวิวให้ได้รู้สึก
รวมถึงการเข้าโค้ง บนความเร็วมากกว่าปกติ แม้จะไม่มีอาการ แต่ตัวรถที่ค่อนข้างยาว ทำให้เหมือนเข้าไปเป็นแท่ง ช่วงโค้งแรกๆ ต้องปรับองศาการจับพวงมาลัยกันเล็กน้อย แต่พักเดียวก็เริ่มคุ้นชิน
ระบบเบรกคืออีกหนึ่งความภูมิใจ ที่วิศวกรโตโยต้าแจ้งไว้ก่อนออกเดินทาง ว่านอกจากสมูทแล้ว ยังไม่มีอาการหน้าทิ่ม แม้จะเบรกแรงแค่ไหนก็ตาม ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริง ให้ความรู้สึกนุ่มนวล
ถึงจุดหมายปลายทาง วิ่งไปทั้งหมด 265.3 ก.ม. อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16.6 ก.ม.ต่อลิตร ถือว่าประหยัดพอได้ กับน้ำหนักตัวร่วม 2 ตัน แถมขับกันโหดอยู่
แวะไปทดลองขับโตโยต้า คัมรี่ ใหม่ ที่ค่าตัวเริ่มต้น ราคา 1.475 ล้านบาท ไปจนถึงตัวท็อป ที่ทดสอบในครั้งนี้ 1.809 ล้านบาท ได้ที่โชว์รูม โตโยต้าทั่วประเทศ
และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า โตโยต้า จัดราคาพิเศษให้ เริ่มต้นที่ 1.455 ล้านบาท ถึง 1.789 ล้านบาท ถึง 31 ต.ค.นี้เท่านั้น
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ