ในเซ็กเมนต์รถ MPV ขนาดใหญ่ ‘เกีย คาร์นิวัล’ อยู่ในอันดับต้นๆ ในตัวเลือกของนักเลงรถอเนกประสงค์ ด้วยอรรถประโยชน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
อย่างคันที่ ‘ข่าวสด ยานยนต์’ นำมาทดสอบในครั้งนี้เป็นตัวท็อป รุ่น SXL Luxury แบบ 7 ที่นั่ง
นัดรับรถกันกลางเมืองย่านสาทร แม้เป็นช่วงกลางวันแต่ดูเหมือนเพื่อนร่วมทางไม่ได้บางตาไปสักเท่าไหร่ แถมด้วยเจ้าเกีย คาร์นิวัล รูปร่างใหญ่โต ทำให้คิดไปว่าน่าจะขับยากอยู่พอควร
แต่ที่ไหนได้ เพราะความใหญ่นี่เองทำให้บรรดาน้องเล็ก มอเตอร์ไซค์ ไม่ค่อยกล้าแทรกระหว่างคัน ลดความระแวงว่าจะมีรถมาเบียดใกล้
ขณะที่ความคล่องตัวมีมาให้พอสมควร ด้วยกำลังที่เรียกจากเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ที่ผ่านมาตรฐานยูโร 5 ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้า ช่วงนำพารถที่มีน้ำหนัก 2 ตันวิ่งฉิวหลบหลีกซ้าย-ขวาได้อย่างสบายมือ แต่หากใครไม่คุ้นชินกับความยาว 5 เมตรกว่า ตรงนี้เวลาเปลี่ยนเลนอาจต้องกะระยะให้ดี
เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด เป็นแบบปุ่มให้หมุนบริเวณคอนโซลกลาง แต่มีโหมดแมนวลให้ปรับเชนจ์เกียร์ ด้วยแป้นแพดเดิล ชิฟต์ ที่หลังพวงมาลัย
ช่วงล่างมีความตึงตังอยู่พอประมาณ ทั้งเสียงจากล้อและแรงสะท้อนเมื่อผ่านถนนที่ไม่เรียบ แต่ให้ความรู้สึกมั่นคง ทั้งการเข้าโค้งและเปลี่ยนเลน ด้วยความหนักแน่นและฐานล้อที่กว้าง
ออกนอกเมือง วิ่งบนความเร็ว 90-110 ก.ม.ต่อช.ม. ถนนที่ค่อนข้างเรียบ ตัวรถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล ไม่มีกระเด้งกระดอน หรือแรงเหวี่ยงให้ได้รับรู้เลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อทำความเร็วทะลุไปกว่านั้น เสียงเครื่องยนต์ รวมถึงเสียงลมเข้ามาในห้องโดยสารพอประมาณ รวมถึงต้องกำพวงมาลัยให้แน่นขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
ระบบความปลอดภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถรุ่นใหม่ ระบบเตือนการชนด้านหน้า เตือนเมื่อมีรถในมุมอับ เตือนและดึงพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน กล้อง 360 องศาเพื่อตรวจสอบรอบคัน
ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารถือได้ว่าเป็นไฮไลต์ของเจ้าเกีย คาร์นิวัล เบาะแถวสองแบบกัปตัน ซีต ดึง และดัน เพื่อเพิ่ม-ลดพื้นที่ระหว่างกลาง ให้ผู้โดยสารแถวหลังเดินผ่านได้ง่ายขึ้น
ปรับเอนนอน พร้อมเบาะรองขาได้ด้วยการกดปุ่มครั้งเดียว แต่ถ้ายังไม่ถนัดปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้ เปลี่ยนห้องโดยสารให้เป็นบิสซิเนสคลาสบนเครื่องบินด้วยปลายนิ้ว
เบาะนั่งตอนหน้าและแถวสองมีระบบระบายอากาศและอุ่นเบาะ รวมถึงมีซันรูฟเพื่อเปิดรับบรรยากาศ ที่วางแก้วน้ำมีมาให้ครบทุกตำแหน่ง แถมยังหยิบใช้งานง่าย ช่องชาร์จไฟแบบ USB 6 ตำแหน่ง เสียดายว่าเป็น Type A ทั้งหมด
เบาะแถวสามพับลงแล้วได้พื้นที่ขนาดใหญ่ชนิดที่ใส่ถุงกอล์ฟ 4 ใบ พร้อมกระเป๋าเดินทางอีก 4 ใบ สบายๆ หรือจะใส่จักรยาน เซิร์ฟบอร์ดก็ยังได้
เมื่อกางเบาะออกพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีให้พอสมควร และยังมีความลึกชนิดที่ว่าใส่รถเข็นเด็ก กระเป๋าเดินทางแบบ 3 วัน 2 คืน ได้ครบจำนวนผู้โดยสารได้สบายๆ
หน้าจอกลาง 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธได้ 2 เครื่องพร้อมกัน ระบบเครื่องเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง มีที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สายกำลังไฟ 15w 1 ตำแหน่ง ชาร์จได้เร็วทันใจ ระบบปรับอากาศ 3 โซน เย็นทั่วถึงทั้งคัน
ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าเอกลักษณ์เฉพาะ Tiger Nose ไฟหน้า LED มัลติรีเฟล็กเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้ายแนวนอนพาดยาว มองเห็นเด่นชัด ประตูสไลด์ทั้ง 2 บาน เปิดอัตโนมัติ เมื่อรีโมตอยู่ในระยะทำการ ส่วนฝาท้ายเปิดเมื่อรีโมตเข้าใกล้และปิดเมื่อรีโมตออกห่างตัวรถ สะดวกในยามที่มีสัมภาระเต็มสองมือ
ทดสอบกันไประยะทางรวม 633.6 ก.ม. น้ำมันยังเหลือให้วิ่งได้อีก 232 ก.ม. บวกกันแล้ววิ่งได้ 865 ก.ม. น้ำมัน 1 ถังขับจากกรุงเทพฯ ไปจ.ภูเก็ต ได้สบายๆ
อัตราสิ้นเปลืองช่วงใช้ในเมืองรถติดๆ ประมาณ 200 ก.ม. อยู่ที่ร่วมๆ 10 ก.ม.ต่อลิตร ที่เหลือใช้นอกเมือง และในเมืองแบบรถไม่ติด สรุปรวมทั้งทริปได้อัตราสิ้นเปลือง 12.4 ก.ม.ต่อลิตร เป็นตัวเลขที่ดูดีไม่ใช่น้อย
ส่วนจะคุ้มค่าคุ้มราคากับค่าตัวเจ้าเกีย คาร์นิวัล SXL Luxury ที่ 2.99 ล้านบาทหรือไม่
งานนี้แนะนำให้ไปทดลองกันทั้งครอบครัว
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ