แอบซุ่มพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่มายาวนานพอสมควร จนวันนี้ค่ายตรีเพชร อีซูซุเซลส์ มั่นใจแล้วว่าเจ้าเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Ddi MAXFORCE จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งาน ลูกค้าที่ต้องการทั้งความเร็ว แรง ประหยัด และมลพิษต่ำได้เป็นอย่างดี
รวมถึงปิดช่องว่างของเครื่องยนต์ที่เดิมมีเครื่องยนต์เพียง 2 ขนาด 1.9 ลิตร บลูพาวเวอร์ และ 3.0 ลิตร บลูพาวเวอร์ เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น
แรงขึ้นจากหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแรงดันสูง 250 MPa. รวมถึง VGS TURBO เทอร์โบแปรผันควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
มั่นใจได้ในเรื่องความทนทาน เพราะผ่านการทดสอบเทียบเท่าการขับขี่ระยะทาง 2.2 ล้านกิโลเมตร หรือขับรอบโลก 55 เที่ยวกันเลยทีเดียว
พร้อมกันนี้ ยังเปลี่ยนระบบส่งกำลัง โดยมีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ REV TRONIC และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด แบบ GENIUS SPORT SHIFT
เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะที่ว่าดีขึ้นทุกด้าน ทีมงานตรีเพชรอีซูซุเซลส์ นำโดย ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ จึงได้จัดให้ผู้สื่อข่าวและผู้แทนดีลเลอร์ได้ทดลองขับกันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
มีให้ขับทั้งรถปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ และรถอเนกประสงค์อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ โดยขับกันรุ่นละ 3 รอบสนาม ระยะทาง 1 รอบสนามอยู่ที่ 4.5 ก.ม. มีทั้งทางตรงยาวให้ชู้ตทำความเร็ว รวมถึงโค้งหลากหลายรูปแบบอีก 12 โค้ง
ก่อนเริ่มทดสอบมีรถอีซูซุที่แทบจะมากันทุกรุ่นย่อยจอดเรียงรายให้ชมกันเต็มที่ ดีไซน์อีซูซุ ดีแมคซ์ และอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาแต่อย่างใด เรียกว่าเหมือนเดิมทุกประการ
มีที่เพิ่มมาคือสีใหม่ สี เทา เอลบรุส โอเพค (Elbrus Grey Opaque) สอบถามทีมงานจึงได้ทราบว่า เอลบรุสคือชื่อยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศรัสเซีย เดาได้เลยว่าที่มาของชื่อสีนี้ต้อง ‘นัย’ ซ่อนอยู่อย่างแน่นอน
รูปแบบการทดลองขับครั้งนี้คือให้ขับกันอิสระ ไม่มีรถนำมาขวางในการทำความเร็ว เริ่มจากอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ จังหวะออกตัว เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Ddi MAXFORCE 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC
ที่มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบต่อนาที แรงขึ้น ทีมงานอีซูซุเคลมว่าแรงบิดช่วงออกตัวสูงขึ้น 56% ไม่มีอาการอืดให้รู้สึก ขณะที่เสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ดูเหมือนจะเงียบลงไปอย่างมาก
เข้าโค้งแรกถอนคันเร่ง พร้อมแตะเบรกเบาๆ ไม่กล้าเข้าหนัก ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นรถอเนกประสงค์ที่ทั้งหนักและสูงใหญ่
ออกจากโค้งเข้าทางตรงยาว เพิ่มน้ำหนักที่คันเร่ง 120-130-140 ก.ม.ต่อช.ม. มาแบบเนิบๆ ไม่รีบร้อน เหมาะกับบุคลิกรถที่ดูสุขุม ลุ่มลึก
จากนั้นขึ้นทดลองขับอีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ ด้วยน้ำหนักรถที่เบากว่าค่อนข้างมาก ทำให้ช่วงออกตัว แรงกว่าอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ชัดเจนจนแทบลืมไปเลยว่าขับรถเครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงทางตรงยาวเข็มไมล์ไต่ความเร็วขึ้นได้ไวกว่าเกือบทะลุ 150 ก.ม.ต่อช.ม.
ขณะที่การเข้าโค้งมีความกระชับ ไม่ว่าจะเข้าแบบปลอดภัย หรือความเร็วสูงกว่าปกติ ไม่มีอาการหน้าดื้อ ท้ายดิ้น เพิ่มความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
แม้จะเป็นการทดลองสั้นๆ กันในสนามแข่ง แต่ได้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความแรงที่มาเต็ม ตั้งแต่ออกตัว หรือเร่งทำความเร็วปลาย
ส่วนความประหยัดที่แจ้งไว้ว่าได้มากกว่า 10% นั้น คราวนี้ติดไว้ก่อน มีโอกาสขับทดสอบยาวๆ แล้วจะมานำเสนอตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองในเร็ววันนี้
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกและตอบสนองนักเลงรถปิกอัพที่ชอบความแรงแต่ไม่อยากได้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะด้วย เหตุผลอะไร ส่วนราคาอีซูซุ ดีแมคซ์ อยู่ที่ 558,000 บาท ถึง 1.171 ล้านบาท ขณะที่ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ราคาอยู่ที่ 1.194-1.771 ล้านบาท
แวะไปทดลองขับ อีซูซุ ดีแมคซ์ และ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ เครื่องยนต์ใหม่ 2.2 ลิตร Ddi MAXFORCE ได้ที่โชว์รูมอีซูซุที่มีอยู่กว่า 300 แห่งทั่วประเทศได้แล้วตั้งแต่วันนี้
กิตติพงศ์ ศรีเจริญ