วันที่ 28 ต.ค. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” รายงานว่า สมาคมผู้สื่อข่าวไทย – จีน จัดงานเสวนาในหัวข้อ “เปิดมุมมอง ปรับความคิด ความร่วมมือไทย-จีน” โดยมีวิทยากรทั้งชาวไทยและชาวจีนร่วมแสดงความคิดเห็นพร้อมผู้ฟังกว่า 300 คน ซึ่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เข้าร่วมเวทีเสวนาด้วย

นายธนาธรได้กล่าวในงานเสวนาตอนหนึ่งว่า ตน​เดินทางไปจีน​มาแล้ว​มากกว่า 40 ครั้ง และได้เซ็นสัญญาทำธุรกิจกับจีนครั้งแรกในปีพ.ศ. 2552 บริษัทที่ตนเคยบริหารมีโรงงานเปิดในจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 3 แห่ง ลงทุนไปประมาณ 4 พันล้านบาท ทำให้ตนมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับคนจีนหลากหลายระดับ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ลูกค้า ไปจนถึงสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ พร้อมกล่าวด้วยว่า การผลิตสินค้าในจีนขึ้นชื่อในเรื่อง​ “ถูก เร็ว ดี” บางปีบริษัทของตนนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

นายธนาธรกล่าวอีกว่า ในปัจจุบัน จีนมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีและควรต้อนรับ เพราะจีนเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน โลกในสมัยปัจจุบันเป็นโลกที่มีหลายขั้วอำนาจ ไทยไม่สามารถหวังพึ่งขั้วใดขั้วหนึ่งได้อีกต่อไป เราจึงไม่สามารถเพิกเฉยจีนได้

“ทุกประเทศควรอ้าแขนรับจีน” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าว “เราไม่สามารถปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประเทศที่มีคน 1.4 พันล้านคน ในการแก้ไขปัญหาต่างๆของโลกได้อย่างแน่นอน”

ขณะเดียวกัน นายธนาธรกล่าวเสริมว่า จีนก็มีสิ่งที่ควรจะพัฒนาปรับปรุงเช่นกัน นั่นคือการเติบโตของจีนต้องควบคู่ไปกับการเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบด้วย เช่น นโยบายการอุดหนุน​สินค้าจีนให้ส่งออกได้อย่างเต็มที่

“เรื่องนี้ทางการจีนเองก็ควรจะต้องค่อยๆ เปิดให้มีความโปร่งใส ไม่ควรอุดหนุนมากเกินไปจนทำให้ประเทศคู่​ค้า​เสียเปรียบ​ ไม่​ใช่ว่าจีน​ไปลงทุนในประเทศ​อื่นได้หมด แต่มีข้อจำกัดในการเปิดให้ประเทศอื่นเข้าไปลงทุน ดังนั้นจีนต้องแฟร์ (เป็นธรรม) ปฏิบัติ​ต่อ​ประเทศอื่นอย่างเท่าเทียมกันด้วย” นายธนาธรระบุ

นอกจากนี้ นายธนาธรยังได้ชี้แจงถึงกรณีภาพถ่ายคู่กับนายโจชัว หว่อง นักกิจกรรมฝ่ายประชาธิปไตยฮ่องกง ซึ่งกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

นายธนาธรเล่าว่า ภาพนี้มีที่มาจากที่ตนไปร่วมงานเสวนาที่ฮ่องกง และเผอิญคนจัดงานได้เชิญนายหว่องมาพูดในงานเดียวกันด้วย แต่พูดคนละเวทีกัน เมื่อตนพูดเสร็จ นายหว่องได้เข้ามาขอถ่ายรูปด้วย ตนไม่ได้เป็นฝ่ายขอถ่ายรูปก่อนด้วยซ้ำ และได้ถ่ายรูปกับฝ่ายที่พูดสนับสนุนจีนแผ่นใหญ่ด้วย แต่กลับมีการนำภาพๆเดียวขึ้นมาเป็นประเด็น

“สื่อมวลชนจำนวนหนึ่งเอารูปถ่ายแค่รูปเดียวมาบอกว่า ผมสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง” นายธนาธรกล่าว “ผมไม่เคยสนับสนุนม็อบฮ่องกงในทางใดทางหนึ่ง ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม”

นายธนาธรกล่าวปิดท้ายว่า ตนไม่มีเจตนาแอบแฝงใดๆ และจนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีใครเอาหลักฐานมาแสดงได้ว่าตนเคยสนับสนุนม็อบฮ่องกงอย่างไรบ้างแม้แต่คนเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน