หญิงจีนวัย 50 แชร์ ออกกำลังกายมา 14 ปี น้ำหนักลด สุขภาพจิตดี แถมหน้าเด็ก ลั่นจะไม่หยุดแค่นี้ ขอเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฟิตเนสกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยม แต่ฟิตเนสไม่ได้มีไว้สำหรับคนหนุ่มสาวเท่านั้น หญิงแซ่ฝาง วัย 50 ปี ในประเทศจีน ออกกำลังกายมา 14 ปี น้ำหนักลดลงเหลือ 55 กิโลกรัม เธอดูสาวราวกับอายุ 20 ปี
ตามรายงาน หญิงวัย 50 ปีจากมณฑลเจ้อเจียงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางบนอินเทอร์เน็ตเนื่องจากวิดีโอออกกำลังกายตลอด 14 ปีของเธอ
เธอเผยว่า น้ำหนักเดิมของเธออยู่ที่ 72.5 กิโลกรัม แต่หลังจากฝึกฝนมากว่า 10 ปี น้ำหนักก็ลดลงเหลือ 55 กิโลกรัม แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ เธอเน้นย้ำว่า “ความฟิตทำให้ผู้คนมีสุขภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้น”
ทุกอย่างเริ่มต้นในปี 2011 เมื่อเธอกินมากเกินไปเนื่องจากภาวะซึมเศร้า และผู้หญิงที่สูง 1.58 เมตรก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เธอก็ค่อย ๆ เบื่อหน่ายกับสภาวะชีวิตที่เป็นลบและมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง ในตอนแรกเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฟิตเนสเลยและเริ่มแผนการวิ่ง 5 กิโลเมตรในตอนเช้าและตอนเย็น
วันหนึ่ง ลูกชายของเธอชมเธอว่าเธอสวยขึ้น การได้รับการยอมรับนี้ทำให้เธอมีความสุขมาก หลังจากนั้น เธอก็ตกหลุมรักการออกกำลังกายและกระตือรือร้นที่จะก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไป เธอใช้เวลาว่างเพื่อเรียนรู้ความรู้ด้านฟิตเนสและเปิดยิมเล็ก ๆ กับเพื่อน ๆ ของเธอ
ความตั้งใจเดิมคือเพื่ออำนวยความสะดวกในการฝึกของเธอเอง แต่ต่อมาก็ดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายให้เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้เธอยังคงออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน รวมถึงแอโรบิกอดอาหารในตอนเช้า และการฝึกความแข็งแกร่งในตอนเย็น
ด้วยการเปลี่ยนแปลงของเธอเอง เธอกลายเป็นแบบอย่างของการมีวินัยในตนเองในสายตาของคนรอบข้าง เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาเช่นกัน
เธอเล่าว่าในตอนแรกหลาย ๆ คนคิดว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือฟิตเนสไม่สำคัญ แต่หลังจากเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ พวกเขาก็พบว่าการออกกำลังกายไม่เพียงแต่ทำให้รูปร่างเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ยังทำให้สภาพจิตใจกลับมาสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย
หลังจากบทความนี้ถูกเปิดเผย ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นมากมาย แถมบางคนยังประหลาดใจ โดยชมว่าเธอหน้าเด็กมากดูเหมือนเธอเปลี่ยนจาก “ป้า” เป็น สาวน้อย เช่น “พี่สาวแน่ใจเหรอว่าเขาอายุ 50 ปีเหรอ?” , ” ยังเด็กอยู่เลย”
ขอบคุณที่มาจาก 3g. China / Ettoday
