หญิงหน่อย อัด บิ๊กตู่ ผิดมหันต์ปล่อยคนไหลออกจาก กทม. จวก! เพิ่มความเสี่ยงคนต่างจังหวัดติดเชื้อ แนะรัฐบาลใช้มาตรการ 21 วันสยบ โควิด
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 23 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากมาตรการเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างรัฐบาลและ กทม.ที่มีความสับสนตั้งแต่ช่วงเช้าถึงบ่าย กระทั่งบ่ายแก่ๆ ผู้ว่าฯ กทม.จึงออกประกาศสั่งปิดสถานประกอบการ 28 ประเภท สุดท้ายประชาชนก็พากันแห่ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า เรามีความห่วงใยมาตรการของรัฐบาลที่ออกมาโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ทำกันแบบครึ่งๆ กลางๆ ไม่คิดให้รอบด้าน ปล่อยให้หน่วยงานว่ากันเองแบบนี้ไม่ได้ เพราะจะยิ่งสร้างความเสี่ยงให้ประชาชนเพิ่มขึ้น ขณะนี้ประชาชนที่เป็นกลุ่มลูกจ้างแห่กลับบ้านต่างจังหวัดโดยรัฐไม่สั่งห้าม เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ไม่จ่ายเงินค่าจ้างให้ลูกจ้าง
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขณะที่รัฐก็ไม่ออกมาตรการเยียวยาช่วงที่ต้องหยุดงาน ถือเป็นความบกพร่องอย่างมากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ไม่นั่งหัวโต๊ะดูปัญหาให้รอบด้าน เชื่อว่าประชาชนไหลออกต่างจังหวัดร่วมแสนคน
ยิ่งเกิดการเคลื่อนไหวของคนจำนวนมาก เท่ากับว่าเหมือนเป็นการเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ให้เร็วขึ้น ขณะที่จังหวัดอาจตั้งรับไม่ทัน จะยิ่งสร้างความโกลาหลในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น ต้องปิดสถานประกอบการ 28 ประเภทในระยะสั้น รัฐต้องสั่งห้ามคนออกจาก กทม.และจ่ายเงินยังชีพให้กลุ่มที่ต้องหยุดงานอยู่กับบ้าน
“นายกฯ ต้องเป็นผู้นำ ฟังความให้รอบด้าน ใช้ความรู้ของทุกฝ่ายกลั่นกรองเป็นมาตรการที่ดีที่สุด แต่วันนี้เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่ไม่ห้ามคนออกจาก กทม. ดังนั้น ต้องขอร้องนายกฯ ว่าหากไม่เปลี่ยนแนวคิด ปล่อยให้เป็นเรื่องของหน่วยงานจัดการกันเอง ใครทำไม่ได้ก็จะสั่งย้ายผู้ว่าฯ แบบนี้ไม่ใช่ ถือเป็นการผลักภาระให้ข้าราชการรวมทั้งประชาชนในต่างจังหวัด” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการ 21 วันสยบโรคที่เราเสนอไปยังรัฐบาลนั้น ไม่อยากให้รัฐบาลคิดว่าเป็นฝ่ายค้านที่เสนอ หรือเป็นเรื่องการเมือง แต่เป็นการระดมความคิดเห็นจากแพทย์ รวมทั้งจากประสบการณ์ในช่วงที่เกิดโรคซาร์ส และไข้หวัดนกสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า โดยขอให้ 1.ป้องกันเชื้อใหม่ไม่ให้เข้าประเทศ โดยจะปิดไม่ให้มีการเดินทาง หรือจัดโรงแรมให้ประชาชนกักตัวเอง 14 วันตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคฯและ 2.ต้องปูพรมเอ๊กซเรย์หาผู้ติดเชื้อที่ติดอยู่ในประเทศให้เข้าระบบโดยเร็วที่สุด แต่รัฐบาลยังไม่ดำเนินการ
แถมยังมีคอขวดทั้งเรื่องการจัดหาแมสก์ น้ำยาตรวจหาเชื้อหรือสกรีนนิ่งเทสต์ก็ยังไม่เพียงพอ หากการจัดการยังยุ่งเหยิงอยู่แบบนี้ เชื่อว่าผู้ติดเชื้ออาจถึงหลักพันแน่ๆ ถึงตอนนั้นหน่วยงานด้านสาธารณสุขจะรับไม่ไหว
