อัพเดทสถานการณ์ผู้ป่วย โควิด-19 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 104 ราย รวมผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,875 ราย เสียชีวิตใหม่เพิ่ม 3 ราย รวมสะสม 15 ราย
รศ.พิเศษ นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้จำนวนคนไข้ระดับโลกทะลุจะเฉียดล้านคน เสียชีวิต 4.7 หมื่นกว่าคน หากมองดูค่ราวๆ จะแบ่ง 2 กลุ่ม คือ ยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่มีผู้ป่วยหลักหลายหมื่นคน แต่สหรัฐฯและอิตาลีเป็นหลักแสน และกลุ่มในเอเชียแถวบ้านเรายังอยู่ในระดับหลักพัน
สภาพอย่างนี้ยังมีความแตกต่างกันมากพอสมควร อาจเกิดจากหลายปัจจัย อย่างคนในเอเชียเรา ตอนนี้มีการวิจัยพบว่า คนไทยใส่หน้ากากมากถึง 92-93% ฝรั่งไม่ค่อยเชื่อเรื่องคนไม่ป่วยควรใส่ แต่บ้านเราใช้กันเยอะมาก ขณะที่คนต่างชาติก็ชื่นชมที่ไปไหนมาไหนในไทยมีการตั้งเจลแอลกอฮอล์ล้างมือไว้ทุกแห่ง ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตรถไฟฟ้า
คิดว่าสองจุดสำคัญนี้ทำให้พวกเรามีระดับผู้ป่วยขยับไปเรื่อยๆ แต่ไม่สาหัสเหมือนหลายประเทศ อยากเตือนว่า เรายังต้องมีมาตรการป้องกันตัวเองเข้มข้นอยู่ ใส่หน้ากาก ล้างมือ สิ่งสำคัญคือเวลากลับบ้านควรล้างมือก่อน อาบน้ำ ถ้าเจอคนเยอะๆ จะสระผมด้วย เปลี่ยนชุดใหม่ เป็นวิธีป้องกันตัวเองที่ปลอดภัยที่สุด
เมื่อถามถึงกรณี ความกังวลว่า ไวรัสแพร่ทางอากาศ (Air Borne) ได้ นั้น นพ.ทวี กล่าวว่า ทางการแพทย์การแพร่เชื้อมี 2 ลักษณะ คือ 1.การแพร่กระจายเป็นละอองฝอยขนาดใหญ่ (Droplet) มีขนาดฝอยลองใหญ่กว่า 5 ไมครอน มีระยะการกระจายประมาณ 3 ฟุต หรือ 1.5 เมตร ซึ่งเป็นลักษณะการแพร่เชื้อของโรคซาร์ส ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก อีโบลา รวมถึง โควิด และ 2.การแพร่กระจายทางอากาศ (Air Borne) มีฝอยละอองขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน มีระยะการกระจายประมาณ 6 ฟุตขึ้นไป สามารถพบได้ในวัณโรค หัด อีสุกอีใส เป็นต้น
หมอทวี ชี้ชัด หน้ากากช่วยไทยไม่วิกฤตโควิด ยันยังไม่แพร่เชื้อในอากาศ
สำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เกิดได้ทั้ง 2 รูปแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมและสภาพในขณะนั้น เช่น ผู้ป่วยที่เป็นปอดอักเสบรุนแรงอย่างมากที่จะต้องใช้ท่อช่วยหายใจ และมีการดูดเสมหะ จึงมีโอกาสเกิดขึ้นทั้งใน 2 ลักษณะ ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์จึงต้องใช้หน้ากาก N95 ในการป้องกันตัว ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก แต่ในส่วนที่เป็นละอองฝอยขนาดใหญ่นั้น หากติดตามเสื้อผ้าก็สามารถชำระล้างออกได้ รวมไปถึงทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (U.S. CDC) และองค์การอนามัยโลกยืนยันข้อมูลเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 ว่า การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ส่วนใหญ่ยังเป็นการแพร่ทางละอองฝอยขนาดใหญ่ ไม่ใช่การแพร่ทางอากาศ
“หากพิจารณาจากภาพจำลอง ตรงสีแดงจะเป็นละอองขนาดใหญ่ที่มีการไอได้ระยะ 1 เมตร แต่ไม่เกิน 2 เมตร ส่วนตรงสีดำเป็นการกระจายระยะไกล เป็นละอองฝอยที่ล่องลอยไป หากคนที่ป่วยในโลกนี้โอกาสส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นตรงสีแดงคือ ละอองฝอยขนาดใหญ่
ดังนั้น โดยสรุปแล้วส่วนใหญ่การแพร่ระบาดยังอยู่ในสีแดง สวนในสีดำอยู่ได้ แต่มักอยู่ในส่วนของบางภาวะ เช่น อยู่ในที่อับมาก และผู้ป่วยไออย่างมาก ก็สามารถมีละอองลอยในอากาศได้ ทางการแพทย์จึงสนใจทางสีแดงมากกว่า จึงมีมาตรการให้เว้นระยะห่างทางสังคม และการสวมใส่หน้ากากป้องกัน เพื่อป้องกันระยะการแพร่เชื้อตรงสีแดงทั้งหมด ซึ่งเกิดขึ้นได้มากที่สุด” รศ.พิเศษ นพ.ทวี กล่าว
