แพร่งัดยาแรง กันก่อน โควิดลาม ประกาศปิดเมือง ห้ามคนเข้าออก

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. เวลา 18.11 น. ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วย นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ แถลงข่าวมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19

นางกานต์เปรมปรีด์ กล่าวว่า จากมติที่ประชุมคณะกรรมการส่วนอำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแพร่ วันนี้(7เม.ย.63) ที่ประชุมมีมติจะดำเนินการปิดจังหวัด ในช่วงวันที่ 10-17 เมษายน 2563 เพื่อลดการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 ในช่วงสงกรานต์

โดยจะไม่ให้บุคคลเข้า-ออกจังหวัดแพร่ นอกจากมีเหตุจำเป็น ซึ่งจะต้องขอกับผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นกรณีไป โดยเฉพาะเรื่องของการขนส่งสินค้าอุปโภค-บริโภค หรือสิ่งที่มีความจำเป็นในการดำรงชีพของประชาชน จังหวัดก็จะให้เข้ามาได้

แต่จะสกัดไม่ให้คนไหลมา เพื่อจะควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อไวรัส โดยจะเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 9 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพิ่มเพื่อน

จังหวัดแพร่จะมีมาตรการออกมารองรับในการปิดเมืองอีกทีหนึ่ง ซึ่งทางสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่ จะได้นำมาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ และนำไปปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้จังหวัดแพร่จะได้ตั้งศูนย์ข้อมูลประชาสัมพันธ์ร่วม เพื่อให้การประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดแพร่(โควิด 19) มีประสิทธิภาพ ข้อมูลถูกต้อง ไม่เกิดการสับสน

นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องการกักตัว ของบุคคลซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการให้สถานที่สำหรับกักตัวบุคคลที่เดินทางเข้ามาให้ครบ 14 วันตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งการเตรียมพร้อมในเรื่องของคลังอาหาร

นายวรญาณ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้มอบหมายให้รับผิดชอบในเรื่องของการให้ข้อมูลข่าวสารของสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดแพร่ ซึ่งจะมีการดำเนินการต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมเป็นคณะๆ ทั้งการประชาสัมพันธ์ การควบคุมสินค้า เพื่อหารือแนวทางในการดำเนินการให้ประชาชนได้มีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตอย่างปกติที่สุด

ด้านนพ.ขจร กล่าวว่า จังหวัดแพร่มีผู้ป่วยติดเชื้อเพียง 1 ราย ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 และรักษาหายแล้วออกจากโรงพยาบาลไปกักตัวอยู่ที่บ้านให้ครบ 30 วัน ตั้งแต่เริ่มป่วย สำหรับการเฝ้าระวังอื่นๆ ได้ตรวจผู้เข้าค่ายเฝ้าระวังเช่นมีอาการไข้ ไอ หรือเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสียง และจังหวัดที่เสี่ยง ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

กลุ่มอื่นๆ มียอดสะสม 26 ราย กักตัวครบ 14 วัน 24 ราย ไม่ครบ 14 วัน 2 ราย และกลุ่มประชาชนเดินทางจากกรุงเทพฯและปริมณฑล หรือจังหวัดพื้นที่เสี่ยง มียอดสะสม 3,405 ราย กักตัวครบ 14 วัน 887 ราย ยังไม่ครบ 14 วัน 2,518 ราย

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน