เปิดผลชันสูตรโชเฟอร์แท็กซี่ ปากน้ำ ดับริมถนน ยันไม่ใช่โควิด แต่เป็นหลอดเลือดแดงฉีก เมียร่ำไห้ระบุผัวเร่งทำมาหากิน ลูกค้าน้อย แถมไม่ได้เยียวยา 5 พัน
วันที่ 14 เม.ย. จากรณีเย็นวันที่ 13 เม.ย. ตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุพบศพนายศรีไพร เทียนสว่าง โชเฟอร์รถแท็กซีวัย 49 ปี นอนเสียชีวิต อยู่ข้างรถริมถนน ใกล้กับรถแท็กซี่ของตนเอง ระหว่างลงไปปัสสาวะ เหตุเกิดบริเวณลานดินวางเปล่าที่ติดอยู่กับริมถนน ภายในซอยโรงเรียนชำนิ ตรงข้ามสนามฟุตซอล หมู่ 2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จากการตรวจสอบตามร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้าย ขณะที่ ภรรยาผู้ตาย ให้การกับตำรวจว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาการไอแห้งๆ และมีอาการเจ็บคอมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์แต่ไม่มีไข้หรือป่วยแต่อย่างใด
เกาะติดข่าวโควิด กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account
เพื่อความปลอดภัยเจ้าหน้าที่จึงสวมชุด PPE ตามมาตการป้องกันโรค ก่อนที่จะเข้าเก็บศพบรรจุใส่ถุงซิปปิดผนึกนำส่งชันสูตรที่สถานบันนิติเวช เพื่อเร่งชันสูตรเนื่องจาก เนื่องจากชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ ต่างวิตกว่าผู้ตายอาจะติดเชื้อไว้รัสโควิด 19
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบ้านของผู้ตาย ซึ่งอยู่ภายในซอยอู่ทอง 6 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ โดยน.ส.สุชาดา วันเภลาพริ้ง ภรรยา เดินทางไปรับศพผู้ตาย ที่ รพ.ตำรวจ พร้อมเปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า หลังจากแพทย์ชันสูตรการตายอย่างละเอียดแล้ว ทราบว่าสาเหตุนั้นมาจากโรคหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องอกแยกชั้นปริฉีก โดยไม่มีการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด
น.ส.สุชาดา กล่าวอีกว่า ตนเองมีลูกสาว 2 คน อายุ 5 ปี และ 13 ปี ครอบครัวเองก็ไม่ได้มีฐานะ ยิ่งมาประสบปัญหากับวิกฤติของไวรัสโควิด ทำให้สามีซึ่งเคยขับรถแท็กซี่ได้วันละ 1,500 บาท แต่ช่วงนี้ได้เพียง 3-400 บาท ส่วนตนมีอาชีพแม่บ้านก็ได้เงินเดือนไม่กี่พันบาท ครอบครัวเองก็ไม่ได้รับกรณีเงินเยียวยา 5,000 บาท จึงทำให้ค่อยข้างขัดสนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ สามีจึงต้องออกไปวิ่งรถเพื่อเร่งหาเงินมาจุนเจือครอบครัว และจ่ายค่าเช่ารถที่ค้างอยู่ จนร่างกายแทบไม่ได้พักผ่อน ซึ่งอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เสียชีวิต
ต่อมานายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ตาย พร้อมกับนำน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เข้าไปพ้น บริเวณบ้าน และรถแท็กซี่ของผู้ตาย เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับครอบครัวผู้ตายและคนในชุมชน อีกด้วย