ศบค.เตือนประชาชนต่อแถวรับบริจาคสิ่งของ ให้ระมัดระวังเฝ้าระวังตัวเอง ใน 7-14 วัน หากพบอาการไข้ ไอแห้งๆ ให้รีบพบแพทย์ด่วน นับเป็นกลุ่มเสี่ยง

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือ ศบค.กล่าวถึงกรณีที่มีประชาชนนับพันคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปรวมตัวรับสิ่งของบริจาค บริเวณวัดดอนเมือง เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า ส่วนตัวรู้สึกตกใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือการสื่อสารว่าการอยู่ในที่ชุมนุมชน มีคนจำนวนมากมีความเสี่ยง ถึงแม้จะบอกว่าอยู่ในพื้นที่เปิด ไม่ได้อยู่ในที่แออัด แต่การอยู่ริมถนนก็ยังมีความเสี่ยงมาก

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เราเข้าใจว่าขณะนี้ประชาชนลำบาก แต่ถ้ากินไปแล้วต้องมีสุขภาพดีด้วย ไม่ใช่รับไปแล้วต้องกินทางสายยางเพราะติดเชื้อไปแล้ว จึงขอคนที่มีใจกุศลหากจะบริจาคให้ประชาชน ควรมีระบบที่ดี หรือหารือกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันด้วย

คนดอนเมือง เสี่ยงโควิด

รับสิ่งของบริจาค ย่านดอนเมือง

“การมาชุมนุมรวมตัวกันมากๆ ในช่วงนี้ อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนดห้ามในทางกฎหมาย แต่ผมก็ไม่อยากจะพูดเพราะเดี๋ยวจะโดนบอกว่าพูดขู่อีก เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว มีการชุมนุมมาแล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากเตือนให้เฝ้าระวังสุขภาพให้ดี

และให้ผู้ที่ไปในเหตุการณ์ดังกล่าวนับตั้งแต่วันนี้อีก 7 ถึง 14 วันข้างหน้า ให้เฝ้าระวังตัวเองให้ดี หากมีอาการไอแห้งๆ ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง และชาวสาธารณสุขยังยินดีที่จะดูแล และขอให้ญาติมิตรเตือนให้สวมหน้ากากอนามัยไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์รายต่อไป”

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เมื่อคนไทยอยากจะช่วยกัน มีการตั้งโรงทานในวัดทั่วประเทศไทย รวมทั้งภาคเอกชนก็เข้ามาร่วมกันบริจาค ก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้มีการจัดระบบให้ดี ยกตัวอย่างโครงการขนข้าวชาวนา เปลี่ยนข้าวชาวเล ของกองทัพอากาศ ถือเป็นภาพที่ดีที่เราช่วยกัน แต่เมื่อเห็นภาพประชาชนที่ไปรวมตัวกันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องนำความทุกข์มาเป็นพลังและบทเรียนในการดำรงชีวิต ต่อสู้และเดินไปข้างหน้า เพราะเราแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต และมาปะทุในปัจจุบันไม่ได้ จึงได้แต่บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วล้วนดีเสมอ ก็จะก้าวผ่านและพัฒนาตัวเองต่อไปได้ในอนาคต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน