ผู้ว่าฯ สงขลา เผยการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด หลบหนีเข้าเมือง 60 ราย เผยอาการเริ่มดีขึ้น แต่ต้องนำตัว 1 ราย ส่งโรงพยาบาล หลังอาการทรุดลง

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. กลุ่มผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งเป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองสงขลา อำเภอสะเดา รายใหม่จำนวน 18 ราย ยังคงได้รับการดูแลรักษาอยู่ภายในศูนย์กัก ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสนามทั้ง 2 ชั้นของอาคาร โดยในห้องกักชั้นล่าง ซึ่งพบผู้ป่วยซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวก่อนหน้านี้รวม 42 รายนั้น ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ 36 คน ส่วนอีก 6 ราย นั้นรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 ราย โรงพยาบาลหาดใหญ่ 5 ราย ซึ่งทั้ง 42 รายนั้นอาการดีขึ้นเรื่อยๆ

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผวจ.สงขลา กล่าวว่า การติดเชื้อของกลุ่มแรงงานต่างด้าวเพิ่มอีก 18 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ของจังหวัดสงขลาเพิ่มเป็น 123 ราย โดยแยกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มทั่วไป 44 ราย กลุ่มดาวะห์ที่กลับจากประเทศอินโดนีเซีย 19 ราย และกลุ่มต่างชาติหลบหนีเข้าเมือง 60 ราย โดยในกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปนั้นไม่เพิ่มขึ้นมานานนับเดือน การติดเชื้อทั้งหมดของจังหวัดสงขลาจึงเป็นการติดเชื้อจากภายนอก

เวลา 14.30 น.ทีมแพทย์โรงพยาบาลสะเดา จังหวัดสงขลาร่วมกัน นำตัว ผู้ติดเชื้อไวรัส 19 ซึ่งเป็น แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ถูกกักตัวอยู่ภายในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองสงขลาจำนวน 1 คน เพื่อส่งต่อรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ภายหลังผลการเอกซเรย์ปอด ออกมาพบว่าเริ่มมีอาการปอดอักเสบ

ทีมแพทย์ได้มีการประเมินร่วมกันเห็นว่าควรที่จะย้ายผู้ติดเชื้อรายนี้ ส่งไปรักษาตัวในโรงพยาบาล ส่วนอีก 17 คน แพทย์ได้ให้ยา เพื่อรักษาอาการ ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 อยู่ระหว่างการติดตามอาการ ซึ่งในภาพรวมทั้งหมดนั้น ไม่ได้แสดงอาการ ส่วนอาการของแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 42 คน ในชุดแรกที่ติดเชื้อนั้นก็มีอาการดีขึ้นทั้งหมดแล้ว

สำหรับผู้ติดเชื้อซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทั้ง 18 รายนั้น ไม่ได้ทำให้ต้องมีการกักตัวตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่เพิ่มแต่อย่างใดโดยทีมแพทย์ได้ทำการ ตรวจสารคัดหลั่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่มีความเสี่ยง ทั้งหมดแล้วไม่พบว่าติดเชื้อ ส่วนที่มีการกักตัวก่อนหน้านี้ เริ่มที่จะครบ 14 วัน โดยที่ไม่มีอาการติดเชื้อแต่อย่างใดและสามารถเริ่มกลับทำงานได้ตามปกติแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน