รพ.จุฬาฯ แจ้งผลตรวจครั้งที่ 3 ยืนยันผลตรวจ โควิด กำลังพลทหารเรือ หลังมีกระแสข่าวติดเชื้อ ด้าน โฆษกกองทัพเรือ เผยเหตุผลต้องตรวจ 3 ครั้ง

วันที่ 8 พ.ค. พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยผลการตรวจโรค โควิด-19 ของ พลทหารสุรเดช แสงจันทร์ สังกัดฐานทัพเรือกรุงเทพฯ ช่วยปฏิบัติราชการ กิจการร้านสวัสดิการกิองทัพเรือ ที่มีข่าวว่าติดเชื้อโควิด-19 ว่า ผลตรวจครั้งที่ 3 จากโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ไม่พบเชื้อโควิด-19 ทั้งในการตรวจเชื้อจากลำคอ ตามวิธีปกติ และการตรวจเชื้อวิธีเพิ่มเติม ด้วยการตรวจหาจากผลเลือด

พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องทำการตรวจถึง 3 ครั้ง และการขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลจุฬาฯ ร่วมยืนยันผลตรวจด้วยนั้น เนื่องจากการตรวจโรคโดยวิธีปกติ ด้วยการตรวจเชื้อในลำคอ ที่ Lap ของโรงพยาบาลปิ่นเกล้าฯ ในครั้งที่ 1 และ 2 มีผลขัดแย้ง ตามหลักการวินิจฉัย

พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวต่อว่า จึงจำเป็นต้องทดลองนำเชื้อในลำคอไปตรวจที่ Lap โรงพยาบาลที่สอง เพื่อเทียบเคียงผล (Second opinion) และเพื่อให้ได้ผลยุติ จึงมีการตรวจเพิ่มเติมอีกวิธีหนึ่ง ด้วยการนำเลือดของคนไข้ไปตรวจด้วย ว่าในกระแสเลือดคนไข้เคยมีการติดเชื้อโควิด-19 มาก่อนหรือไม่

ทั้งนี้ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ได้สั่งการและมอบนโยบายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไว้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ตั้งแต่การกำหนดมาตราการส่วนบุคคล มาตรการให้ปฏิบัติเป็นการส่วนรวมของหน่วย รวมไปถึงมาตราการให้ปฏิบัติเมื่อตรวจพบผู้มีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค หรือหากพบผู้มีอาการไม่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค

ดังนั้น กองทัพเรือ จึงมีแนวทางดำเนินการในเรื่องนี้อย่างชัดเจน และขอให้ทุกฝ่ายไม่ต้องวิตกกังวล เพราะการติดเชื้อโรคในสภาวะปัจจุบันอาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายที่จะต้องมีการปกปิด

แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงคือเมื่อผลตรวจทางการแพทย์ยังไม่สามารถได้ข้อยุติ สังคมจึงควรต้องให้ความเคารพต่อการไม่ละเมิดสิทธิผู้ป่วย และการนำเสนอข่าวที่อาจเกิดจากการส่งต่อข้อมูลเบื้องต้นทางสังคมออนไลน์ ก็ควรรอให้ได้ทราบความชัดเจนก่อน ซึ่งการติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อนั้น ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่กองทัพเรือจะปกปิดข้อมูล

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นต่อกรณีที่ผลตรวจครั้งที่ 1 และ 2 มีความขัดแย้ง และยังต้องรอผลตรวจยืนยันในครั้งที่ 3 กำลังพลที่เป็นผู้เกี่ยวข้องใกล้ชิดของ พลทหารสุรเดช ในห้วงที่ตกเป็นข่าว จึงพร้อมใจกันให้ความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการที่กองทัพเรือ ที่มีไว้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเดินทางไปสังเกตอาการ ที่อาคารรับรอง สัตหีบไว้ก่อน นับเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และความมีระเบียบวินัยของนักรบชาวเรือ ที่น่าจดจำและเป็นเยี่ยงอย่าง และจากนี้ก็จะเตรียมตัวเดินทางกลับเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามปกติต่อไป


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน