ส.ว.เสรี เตือนรีบแก้ปากท้อง ก่อนที่กลุ่มม็อบดึงชาวบ้านเดือดร้อน มาโจมตี
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายเสรี สุวรรภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาหลังรัฐบาลได้ประกาศคลายล็อก จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
นายเสรี ระบุว่า คลายล็อกแล้วจะอยู่กันอย่างไรต่อ คนได้เงินช่วยเหลือแก้ทุกข์ได้ระยะหนึ่ง หมดเงินแล้วทุกข์จะกลับมา และทุกข์นั้นจะมากยิ่งขึ้น ไม่มีกิจการไหนที่มีรายจ่ายมากกว่ารายรับจะทำให้อยู่ได้ รัฐบาลก็เช่นกัน สิ่งที่จะแก้ปัญหาได้ ต้องคิดไว ทำไว ลงมือไว้ ในการแก้ปัญหาปากท้องว่าจะต้องทำอย่างไรตอนนี้ คิดเน้นแก้ปัญหาโควิดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องไปพร้อม ๆ กัน
กิจการทั้งหลายที่ถูกหยุดหรือปิดหมด หากคลายล็อกแล้วให้เปิดร้านค้าได้ ก็ยังไม่เหมือนเดิม กว่าจะตั้งหลักกันได้คงใช้เวลาอีกหลายเดือน ความเดือดร้อนก็ยังไม่คลี่คลาย และจะมากขึ้นเป็นทวีคูณ ดูเป็นโจทก์ที่ยากมาก เพราะตอนนี้บรรดากลุ่มม็อบทั้งหลายที่ตั้งใจโจมตี ก็รวบรวมสรรพกำลังเตรียมตัวออกศึกอย่างเต็มที่ โดยดึงเอามวลชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาปากท้องมาเป็นแนวร่วม
สิ่งที่แก้ปัญหาตอนนี้เป็นอันดับหนึ่ง จึงเป็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง โดยปัญหาโควิด ตอนนี้เลยดูเหมือนจะเป็นรองลงไป โรคหิวโหย โรคปัญหาทางปากท้อง โรคจิตที่เกิดจากปัญหาโรคระบาดที่ต้องรักษาระยะห่างที่จำเป็นต้องทำนั้น ทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ตั้งแต่คนงานไปถึงเจ้าของกิจการ เจ้าของทุกธุรกิจ น่าจะมีคนป่วยโรคได้รับผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องนี้ จำนวนไม่น้อยกว่า 30-40 ล้านคน
นายเสรี ระบุต่อว่า โจทย์ใหญ่ที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นกลับคืนมาเหมือนเดิม เห็น ๆ อยู่ว่าไม่สามารถแก้ไขในทันทีทันใดได้ และปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน จะทำให้การเมืองร้อนแรงขึ้น เงินกู้จาก พรก. สี่เเสนหรือห้าเเสนล้านบาททั้งหลาย ไม่ต้องไปพยุงตราสารหนี้ กิจการเหล่านั้นมีทุนคงเอาตัวรอดไปได้ เอาเงินไปให้ชาวบ้านลงทุนสร้างอาชีพดีกว่า
นอกจากนี้ควรเอาไปให้ บริษัท ห้าง ร้านค้า รวมถึงกิจการขนาดเล็กที่เป็นวิถีชีวิตทั่วไป นำมาให้ชาวบ้านกู้ยืมโดยไม่มีดอกเบี้ยไปสัก 3 ปี เพื่อให้การค้าเหล่านี้เปิดกิจการได้ เป็นต้น อะไรที่เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพสร้างรายได้ ให้เร่งรีบดำเนินการทำให้หมด อย่าไปติดด้วยเงื่อนไขของระบบงานราชการที่ชักช้าและล้าหลัง กิจการใดที่จะต้องขออนุญาตราชการ แล้วติดเงื่อนไขของการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ต้องตัดทอนออกให้หมด เพื่อให้เกิดการสร้างงานที่เร็วขึ้น จึงจะแก้ปัญหาปากท้องและแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้
