ผู้ประกอบการรถบัส โคราช-ระยอง โวยรัฐบาล กรณีทหารอียิปต์ ติดโควิด-19 ทำผู้โดยสารหายเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ วอนหยุดนำต่างชาติเข้าไทย หวั่นเกิดเหตุซ้ำ
วันที่ 16 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา บรรยากาศบริเวณจุดจำหน่ายตั๋วรถโดยสารปรับอากาศ สายนครราชสีมา-ระยอง เป็นไปอย่างเงียบเหงา ภายหลังมีข่าวทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ระยอง ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าซื้อตั๋วรถโดยสารเดินทางเข้าไปในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการรถบัสโดยสารสาธารณะอย่างมาก ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรถบัสโดยสารสาธารณะไป จ.ระยอง ในสถานีขนส่งแห่งที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา มีทั้งหมด 3 ราย บางรายต้องลดจำนวนเที่ยวรถลง 30-50 เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีผู้โดยสารเดินทาง
ผู้ประกอบการรถบัส โคราช-ระยอง โวยรัฐบาล ปม ทหารอียิปต์ ติดโควิด-19
นายศุวิทย์ เกิดคล้าย อายุ 48 ปี ผู้ประกอบการรถบัสโดยสารสาธารณะรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเป็นผู้ประกอบการรถบัสโดยสารสาธารณะ มีรถวิ่งไป 3 จังหวัดภาคตะวันออก คือ ระยอง จันทบุรี และตราด ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากกรณีมีทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.ระยอง
บรรยากาศภายในสถานีขนส่งแห่งที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา
“เพราะทันทีที่มีข่าวก็ทำให้ผู้โดยสารทั้งขาขึ้น ขาล่องหายไปเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ทันที ไม่เฉพาะสายที่วิ่งไป จ.ระยอง แต่ที่วิ่งไปจังหวัดใกล้เคียงทั้งจันทบุรี และตราด ผู้โดยสารก็หายไปด้วย บางเที่ยวต้องหยุดวิ่ง เพราะไม่มีผู้โดยสารเลยแม้แต่รายเดียว เช่นรถเที่ยวนี้ที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เพิ่งมีผู้โดยสารเพียง 3 คนเท่านั้น ถ้าไม่มีมาเพิ่มก็ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งรถเปล่า” นายศุวิทย์ กล่าว
ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังจ.ระยอง หรือจังหวัดใกล้เคียงบางตาลงไปมาก
นายศุวิทย์ กล่าวต่อว่า ช่วงโควิดระบาด ผู้ประกอบการรถบัสโดยสารสาธารณะก็หยุดวิ่งมานานกว่า 3 เดือน ตอนนั้นเดือนร้อนหนัก ไม่ได้แม้กระทั่งเงินเยียวยา แต่เมื่อเริ่มวิ่งได้เพียง 1 เดือนกว่าๆ ก็กลับมามีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ทั้งที่ประชาชนพยายามทำดีมาตลอด แต่เรื่องกลับมาเกิดจากความผิดพลาดของหน่วยงานรัฐเสียเอง
“สิ่งที่ทำดีมาตลอดก็เสียเปล่า จึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่า อย่าให้มีชาวต่างชาติเข้ามาในช่วงนี้ได้หรือไม่ หรือถ้ามีมา ก็ให้กักตัวอยู่แต่ในพื้นที่เฉพาะ จะเป็นค่ายทหาร หรือสถานที่ราชการใดก็ให้ชัดเจนไปเลย และให้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้เขาออกมาเดินเพ่นพ่าน ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมจนเศรษฐกิจพัง แล้วใครจะรับผิดชอบได้บ้าง” นายศุวิทย์ กล่าว
