‘หมออุดม’ ยันซากเชื้อไม่ติดต่อ ไม่ใช่การระบาดรอบ 2 ขออดทนอีก 1 เดือน จำเป็นต้องต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เร่งพัฒนาวัคซีนร่วมกับมหาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 ส.ค. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ชุดเล็ก อาทิ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศบค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

หารือข้อสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกัน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทั้งเรื่องการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการชุมนุมทางการเมือง การประเมินผลหลังผ่อนคลายมาตรการให้เปิดการทดลองเรียนเต็มรูป และการอนุญาตให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬาได้ตามที่กำหนด

ด้าน นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. กล่าวก่อนเข้าร่วมการประชุม ถึงกรณีตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคนไทย 2 คน ว่า ซากเชื้อโควิด 19 ไม่แพร่ระบาด ซึ่งจากการยืนยันของกระทรวงสาธารณสุข ก็พบว่าทั้ง 2 คน ผ่านการกักกันตัวของรัฐ 14 วัน โดยไม่พบเชื้อก็ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ การพบซากเชื้อในไทย ก็มีการพบอยู่ประปราย ยืนยันว่า ซากเชื้อไม่ติดต่อ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ อย่าตื่นตระหนก อีกทั้งตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคนไทย 2 คน ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เนื่องจากไม่ใช่การระบาดระลอก 2 ที่ผ่านมาไทยไม่เคยลดมาตรการด้านสาธารณสุข และการพบซากเชื้อก็ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2 และยังมั่นใจในมาตรการด้านสาธารณสุขของไทย ที่ดำเนินการมาอย่างเข้มงวด และประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาตลอด

สำหรับการประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ ก็จะพิจารณาให้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม เช่นให้ประชาชนเปิดเข้าชมกีฬาหรือคอนเสิร์ต ตามขนาดพื้นที่ เป็นต้น ส่วนการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ที่ยังไม่พิจารณางบประมาณ 600 ล้านบาท ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดนั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่า หากไทยดำเนินการเองต้องใช้เวลา อีกประมาณ 1 ปี ครึ่ง

ซึ่งประเทศไทยมี บริษัท”สยามไบโอไซเอนซ์” ที่พร้อมผลิตได้ และเมื่อยกระดับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด จะพัฒนาผลิตวัคซีนได้ถึง 200 ล้านโดส เมื่อมีความร่วมมือ ก็จะเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และสามารถจำหน่ายวัคซีนให้ต่างประเทศได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโควิด-19 คือการผลิตวัคซีนมาป้องกัน

นพ.อุดม กล่าวยืนยันว่า ยังมีความจำเป็นที่คงต้องพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการป้องกันโควิด-19 ต่อไป เพราะเป็นกฎหมายตัวเดียวที่รวมหลายหน่วยงานไว้ โดยขออดทนอีก 1 เดือน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน