นักไวรัสเผยหลักฐานโควิดถูกสร้าง นักวิทย์ทั่วโลกเรียงคิวถล่มเพ้อเจ้อ
นักไวรัสจีนเผยหลักฐานโควิดถูกสร้าง – วันที่ 16 ก.ย. เดลีเมล์ รายงานว่า ดร.เยี่ยน หลีเมิ่ง นักไวรัสวิทยาสัญชาติจีนที่ลี้ภัยจากฮ่องกงไปยังสหรัฐอเมริกาและอ้างว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 ที่กำลังระบาดนั้นถูกสร้างขึ้นจากน้ำมือมนุษย์ ล่าสุด เปิดเผยเอกสารที่อ้างว่าเป็นหลักฐานทางโลกออนไลน์ แต่ถูกนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่อต้าน และคัดค้านว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
ดร.เยี่ยน ที่อ้างว่าเคยทำงานอยู่ที่ห้องปฏิบัติการของวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮ่องกง ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการอ้างอิงขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสดังกล่าวที่ก่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 นั้นถูกสร้างขึ้นจากการนำสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่นที่พบในค้างคาวจำนวน 2 สายพันธุ์มารวมกัน
นักไวรัสวิทยาผู้นี้ อ้างว่า แท่งโปรตีนที่ไวรัสใช้เป็นเครื่องมือในการจับกับแท่งโปรตีนตัวรับ หรือรีเซ็ปเตอร์บนผนังเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเป้าหมายถูกตกแต่งใหม่เพื่อให้มีความสามารถในการจับกับรีเซ็ปเตอร์ของเซลล์มนุษย์เพิ่มขึ้น
Xinhua
ภายหลังการเปิดเผยเอกสารดังกล่าวของดร.เยี่ยน ผ่านทางเว็บไซต์ Zenodo ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์ปฏิบัติการวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (CERN) นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลให้เกิดความสับสนอลหม่านต่อสาธารณชน และเสียงคัดค้านจากบรรดานักวิทยาศาสตร์ ว่าหลักฐานที่นำมาเผยยังไม่เพียงพอ และข้อกล่าวหาของดร.เยี่ยน นั้นเป็นความเพ้อเจ้ออย่างที่สุด พร้อมเตือนว่า ไม่ควรให้ความน่าเชื่อถือใดๆ กับเอกสารชิ้นนี้ด้วย
เอกสารดังกล่าวที่ดร.เยี่ยน นำมาเปิดเผยนั้นยังไม่ผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์จากนักวิทยาศาสตร์อื่น โดยนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ยืนยันว่า ยังไม่มีหลักฐานแม้แต่ชิ้นเดียวที่บ่งบอกว่า ไวรัสซาร์ส 2 สร้างขึ้นจากน้ำมือมนุษย์
ตรงกันข้ามหลักฐานที่วงการวิทยาศาสตร์พบนั้นบ่งชี้ว่า ไวรัสชนิดนี้มาจากค้างคาว ถือเป็นไวรัสโคโรนาชนิดที่ 7 ที่สามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ โดยเส้นทางการติดต่อของไวรัสซาร์ส 2 นั้นเริ่มจากค้าวคาวไปยังสัตว์ตัวกลางที่ยังไม่ทราบแน่ชัด ทำให้กลายพันธุ์และติดมายังมนุษย์
อย่างไรก็ตาม ดร.เยี่ยน อธิบายในเอกสารชิ้นนี้ในลักษณะคัดง้างกับข้อมูลข้างต้น โดยอ้างว่า คำอธิบายข้างต้นนั้นก็มีหลักฐานที่ไม่ชัดเจน พร้อมระบุต่อว่า ไวรัสซาร์ส 2 นั้นมีความผิดปกติของคุณลักษณะบางประการที่ขัดแย้งกับการเกิดขึ้นตามกระบวนการตามธรรมชาติ
“หลักฐานแสดงให้เห็นว่าไวรัสชนิดนี้ควรถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากห้องปฏิบัติการด้วยการใช้ไวรัสโคโรนา ZC45 และ/หรือ ZXC21 เป็นตัวต้นแบบ” ดร.เยี่ยน ระบุ
รวมทั้งอ้างว่า ทางการจีนและฮ่องกง มีตัวอย่างไวรัสชนิดดังกล่าวเก็บไว้อยู่ และสามารถนำมาสร้างไวรัสซาร์ส 2 ได้ภายในเวลา 6 เดือน
นายแพทย์แอนดรูว์ เพรสตัน พยาธิแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิกำเนิดของจุลินทรีย์ก่อโรค มหาวิทยาลัยบาธ ประเทศอังกฤษ กล่าวถึงปัญหาความไม่น่าเชื่อถือด้านตัวบุคคลของดร.เยี่ยน ว่าเต็มไปด้วยทฤษฎีสมคบคิด
นพ.เพรสตัน กล่าวว่า ดร.เยี่ยน มีความเกี่ยวข้องกับมูลนิธิและสมาคม Rule of Law ที่นครนิวยอร์ก โดยองค์กรนี้ระบุไว้ในเว็บไซต์ถึงพันธกิจว่า “เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวจีนได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม และระบบการเมืองที่มีความเป็นอิสระ”
และด้านภารกิจระบุว่า “เพื่อเปิดโปงการคอร์รัปชั่น การขัดขวาง ปกปิด กักขังหน่วงเหนี่ยว ความไร้มนุษยธรรม ในประเทศจีน” ทำให้นพ.เพรสตัน มองว่า ดร.เยี่ยน เป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือ
นพ.ไมเคิล เฮด ผู้เชี่ยวชาญด้านการสาธารณสุขประชาคมโลก มหาวิทยาลัยเซาท์แฮมตัน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีทฤษฎีสมคบคิดจำนวนมากเกิดขึ้นจากเอกสารชิ้นนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ลบต่อความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ในการจัดการกับโรคระบาดนี้ หากไม่มองให้ละเอียด และคำนึงถึงหลักฐานอื่นๆ อย่างรัดกุมรอบคอบ
“ข้อมูลสารพันธุกรรมของไวรัสซาร์ส 2 ได้รับการสำรวจเสร็จสิ้นแล้วอย่างสมบูรณ์ นำไปสู่เอกสารที่ได้รับการรับรองตรวจสอบจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ว่าไวรัสชนิดนี้ไม่ได้มาจากการสร้างขึ้น มิหนำซ้ำยังพบไวรัสที่คาดว่าเป็นต้นแบบว่าอยู่ในค้างคาวมานานหลายสิบปีแล้วด้วย เอกสารใหม่นี้ยังไม่ได้รับการตรวจสอบรับรอง ดังนั้นถือว่าไม่ได้นำเสนออะไรใหม่ที่จะมาคัดง้างกับเอกสารเก่าที่เรามีอยู่ได้ครับ” นพ.เฮด ระบุ
เอกสารที่ดร.เยี่ยน นำมาเปิดเผยยังมีทิศทางตรงกันข้ามกับผลการศึกษาของคณะนักวิทยาศาสตร์สถาบันสคริปส์ รีเสิร์ช แห่งมหาวิทยาลัยเอดินเบอระ หนึ่งในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของสหราชอาณาจักร หรือยูเค และเป็นศูนย์กลางด้านการสอนและการวิจัยของประเทศสก็อตแลนด์
“ไวรัสซาร์ส 2 นั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นไวรัสซึ่งมาจากการสร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการโดยอาศัยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์อื่นๆ เป็นต้นแบบ เนื่องจากข้อมูลสารพันธุกรรมที่พบในไวรัสชนิดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนที่สุดว่าไม่ได้มีต้นแบบมาจากการผสมของไวรัสตัวใดเลย” เอกสารระบุ
แพทย์หญิงคริสเตียน แอนเดอร์สัน จากสถาบันสคริปส์ รีเสิร์ช สาขารัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สารพันธุกรรมที่พบในไวรัสชี้ชัดถึงไวรัสต้นตอที่มันกลายพันธุ์มาตามธรรมชาติ ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้นที่ชี้ว่ามันมาจากห้องปฏิบัติการใดๆ
เช่นเดียวกันกับพญ.แองเจล่า ราสมุซเซน ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ภูมิคุ้มการและโรคติดเชื้อ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ ระบุว่า ความเข้ากันได้ระหว่างแท่งโปรตีนของไวรัสกับรีเซ็ปเตอร์ของมนุษย์นั้นอยู่ในระดับที่ “ต่ำกว่ามาตรฐาน” จึงมองว่าไม่ใช่การเจตนาออกแบบมา ยิ่งกว่านั้นจากการตรวจสอบสารพันธุกรรมก็ไม่พบว่ามาจากการผสมกันของไวรัสตัวใดๆ ที่มีอยู่ในฐานข้อมูล บ่งชี้ว่า มันไม่ได้ถูกสร้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม ดร.เยี่ยน ยังอ้างในเอกสารที่นำมาเปิดเผยด้วยว่า ตนได้รับการบอกเล่าจากนักวิทยาศาสตร์จีนจากสำนักงานควบคุมโรคของจีนด้วยถึงที่มาของของไวรัสว่ามาจากธรรมชาติ และเนื้อสดในตลาดนครอู่ฮั่น ว่าเป็นเพียงฉากบังหน้า
ดร.เยี่ยน ยังเคยกล่าวหารัฐบาลจีนด้วยว่า พยายามปกปิดข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก ส่งผลให้ตนต้องหนีไปยังฮ่องกง กระทั่งถูกตัดขาดจาดโลกภายนอก จึงต้องลี้ภัยมายังสหรัฐฯ ในเดือนเม.ย. เพื่อพยายามเปิดโปงความจริงให้โลกได้ทราบ ขณะที่ข้อมูลทั้งหมดของตนในจีนและฮ่องกงนั้นถูกรัฐบาลจีนสั่งลบทำลายหมดสิ้นแล้ว
ขณะที่ห้องปฏิบัติการห้องปฏิบัติการของวิทยาลัยสาธารณสุขแห่งฮ่องกง ปฏิเสธว่า ดร.เยี่ยน ไม่เคยทำงานวิจัยด้านใดที่เกี่ยวกับการติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์ของไวรัสชนิดนี้ และมองว่าข้อกล่าวหาของดร.เยี่ยน นั้นไม่มีมูลฐานทางวิทยาศาสตร์
อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า เมื่อช่วงเดือนเม.ย. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เคยกล่าวอ้างว่า ตนได้เห็นหลักฐานว่าไวรัสซาร์ส 2 ถูกสร้างขึ้นโดยรัฐบาลจีนแล้ว ส่งผลให้ผู้นำสหรัฐ ขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อจีนเพื่อลงโทษ
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวจี้ถามถึงกระแสข่าวลือที่ว่าไวรัสดังกล่าวถูกพัฒนามาจากสถาบันเทคโนโลยีนครอู่ฮั่น นายทรัมป์ก็ย้ำว่า “ผมเห็นละ ผมเห็นละ” แต่เมื่อขอให้เปิดเผยรายละเอียด นายทรัมป์ กลับย้อนว่า “ผมไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเผยครับ”
++++
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
อ้างโควิดมนุษย์สร้างขึ้น นักวิจัยหญิงฮ่องกงลั่นจะโชว์หลักฐานวิทย์
