ศบค.เผยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจาก 9 ประเทศ ‘ผู้จัดการโรงแรม-ด.ช.วัย12’ ติดเชื้อ แจงแรงงานเมียนมาไม่ได้ติดโควิดในไทย พบสารพันธุกรรมน้อย
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. เผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันระบุว่า วันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 10 ราย รวมสะสม 3,797 ราย
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
แบ่งเป็น การติดเชื้อในประเทศ 2,451 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคที่รัฐกำหนด (Quarantine) 849 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,605 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 133 ราย เสียชีวิตสะสม 59 ราย ในจำนวนผู้ป่วยสะสม 3,797 ราย รับรักษาในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และนนทบุรี จำนวน 2,073 ราย ภาคเหนือ 107 ราย ภาคกลาง 760 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 112 ราย ภาคใต้ 745 ราย
ผู้ป่วยใหม่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานกักกัน (Quarantine) ได้แก่ บาห์เรน 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี, ซาอุดีอาระเบีย 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 20 ปี, รัสเซีย 1 ราย เป็นหญิงสัญชาติรัสเซีย อายุ 34 ปี อาชีพครู, บังกลาเทศ 1 ราย เป็นชายชาวบังกลาเทศ อายุ 36 ปี,
เยอรมนี 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 49 ปี ภรรยา และสามี ชายไทย อายุ 38 ปี, อาเซอร์ไบจาน 1 ราย เป็นด.ช.ชาวอาเซอร์ไบจาน อายุ 12 ปี, สาธารณรัฐเช็ก 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 46 ปี อาชีพแม่บ้าน, ฝรั่งเศส 1 ราย เป็นชายชาวฝรั่งเศส อายุ 33 ปี อาชีพผู้จัดการโรงแรม และ อิสราเอล 1 ราย เป็นชายชาวอิสราเอล อายุ 61 ปี
ขณะที่ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อรวม 47,318,967 ราย รักษาหายแล้ว 34,033,341 ราย เสียชีวิต 1,211,255 ราย ส่วนอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 9,567,543 ราย 2.อินเดีย จำนวน 8,266,914 ราย 3.บราซิล จำนวน 5,554,206 ราย 4.รัสเซีย จำนวน 1,655,038 ราย 5.ฝรั่งเศส จำนวน 1,466,433 ราย ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 147 จำนวน 3,797 ราย
ด้านกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีตรวจพบแรงงานเมียนมาติดเชื้อโควิด-19 ที่ จ.พัทลุง 1 ราย ซึ่งพบสารพันธุกรรมของเชื้อในปริมาณน้อย และผลการตรวจเลือดพบภูมิคุ้มกันในร่างกาย แสดงให้เห็นว่าเป็นการติดเชื้อรายเก่าที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ได้ติดเชื้อโควิดในไทย
คาดว่าผู้ป่วยรายนี้อาจรับเชื้อมาจากมาเลเซียก่อนหลบหนีเข้ามาในไทย ทั้งนี้ จะดำเนินการสอบสวนและมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มข้นให้ครบกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่