สมุทรสงคราม ห้ามแรงงานออกพื้นที่ ขู่ยาแรงปิดสถานประกอบการ

ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ออกมาตรการเด็ดขาดป้องกันการระบาด โควิด-19 สั่งห้ามแรงงานต่างชาติออกพื้นที่-ขู่ถึงนายจ้างหากละเลยอาจสั่งปิดสถานประกอบกิจการ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

วันที่ 20 ธ.ค.63 นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัด สมุทรสงคราม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคโควิดในพื้นที่ จ.สมุทรสงครามซึ่งอยู่ติดกับ จ.สมุทรสาคร ที่ห้องประชุมศาลากลาง โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ รายงานว่าขณะนี้ยังไม่พบผู้มีความเสี่ยงโรคโควิด 19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม

• พุ่งไม่หยุด! อัพเดตผู้ป่วยโควิดสมุทรสาคร ล่าสุดติดเชื้อทะลุ 694 รายแล้ว
• ราชบุรี ตั้งด่านสกัดโควิด-19 ตลอด 24 ชม. ช่วงรอยต่อสมุทรสาคร ห้ามต่างด้าวเข้าเด็ดขาด

แต่เพื่อความไม่ประมาทคณะกรรมการฯ ได้มีมติให้คงมาตรการป้องกันโรค คือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือและใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดสม่ำเสมอ เว้นระยะห่างทางสังคม และตรวจคัดกรองก่อนเข้าสถานที่หรือกิจกรรมต่างๆอย่างเคร่งครัด ส่วนการจัดประชุม อบรม สัมมนา หรือการเปิดการเรียนการสอนของสถานศึกษา ยังคงให้ดำเนินการตามปกติแต่ต้องคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

สำหรับมัสยิดดำรงอิสลาม ต.ปลายโพงพาง อ.อัมพวา ได้ขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมละหมาด 2 สัปดาห์ตั้งแต่บัดนี้เนื่องจากมีแรงงานต่างชาติเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ส่วนตลาดนัดให้ดำเนินการได้ตามปกติแต่ต้องคงมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดหากฝ่าฝืนให้พิจารณาสั่งปิดทันที

ส่วนร้านอาหารที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะดังกล่าวยังเปิดทำการได้แต่หากไม่ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคและทำให้เกิดภาวะเสี่ยงจะพิจารณาสั่งปิดเช่นกัน ส่วนการสวดมนต์ข้ามปีตามวัดต่างๆวันที่ 31 ธ.ค.นี้ยังสามารถดำเนินการได้แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด

ส่วนของตลาดปลาแม่กลอง ซึ่งเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงมากจะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะแรงงานต่างชาติ เบื้องต้นคณะกรรมการฯ ได้มีประกาศสั่งคุมเข้มแรงงานห้ามเคลื่อนย้ายออกจากที่อยู่อาศัย และหากจะไปพื้นที่อื่นแม้ในจ.สมุทรสงคราม หรือออกนอกชุมชนต้องขออนุญาตกับอำเภอในพื้นที่ก่อน และห้ามออกนอกจังหวัดอย่างเด็ดขาด

อีกทั้งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติจากจ.สมุทรสาครเข้ามายังจ.สมุทรสงครามโดยเด็ดขาด โดยจะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามรอยต่อจังหวัดและพื้นที่เสี่ยงหากพบว่ามีการลักลอบเข้ามาจะเอาผิดกับโทษขั้นสูงสุด เช่นเดียวกับนายจ้างถ้าไม่แจ้งว่าแรงงานในสังกัดมีการเคลื่อนย้าย เช่นกลับบ้านแล้วกลับมาทำงานใหม่หรือมีการเคลื่อนย้ายไปที่อื่นโดยไม่ผ่านด่านคัดกรองภายใน 3 วันจะดำเนินการปรับขั้นสูงสุด รวมทั้งจะพิจารณาสั่งปิดสถานประกอบกิจการอีกด้วย

อย่างไรก็ตามจะมีการตรวจคัดกรองแรงงานต่างชาติในพื้นที่และหากมีการตรวจพบเชื้อจะพิจารณามาตรการล็อคดาว์นเฉพาะชุมชนนั้นๆต่อไป สำหรับในส่วนของข้าราชการที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.สมุทรสาคร และทำงานที่ จ.สมุทรสงครามให้หยุดการเดินทางและปฏิบัติงานผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่บ้านตนเองใน จ.สมุทรสาครได้จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ จ.สมุทรสงครามยังแจ้งไม่ขอรับเป็นพื้นที่สำรองรับผู้ป่วยจาก จ.สมุทรสาครหรือจังหวัดต่างๆเนื่องจากเป็นจังหวัดเล็กและต้องการรองรับเหตุหากมีฉุกเฉินในพื้นที่ก่อน